'นักไวรัสวิทยา' เผยงานวิจัย ผู้ป่วยโควิดผู้ชายมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้หญิง

'ดร.อนันต์' เผยงานวิจัย พบผู้ป่วยโควิดผู้ชายมีอาการรุนแรงกว่าผู้หญิง มีฮอร์โมน testosterone ที่ช่วยให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ดี มีอัตราส่วนของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil มากกว่า ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรง

29 เม.ย.2565- ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า

ข้อมูลของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงมีโอกาสที่จะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะผู้สูงอายุชายมีโอกาสติดโควิดแล้วอาการรุนแรงมากกว่ากลุุ่มช่วงอายุอื่นๆ ข้อสังเกตนี้มีงานวิจัยออกมาหาคำอธิบายหลายชิ้น ซึ่งสนับสนุนข้อสังเกตดังกล่าว บทความชิ้นหนึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสาร Immunology สรุปออกมาได้อย่างน่าสนใจครับ

ผู้ชายมีฮอร์โมนชื่อว่า Androgens ประกอบไปด้วย testosterone และ dihydrotestosterone ในปริมาณที่สูง ในขณะที่เพศหญิงมีฮอร์โมนชื่อว่า estrogen และ progesterone ที่สูงกว่าผู้ชาย ความแตกต่างของฮอร์โมนนี้พบว่ามีผลโดยตรงต่อความสามารถในการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดย ฮอร์โมน testosterone ไปมีผลต่อการเพิ่มการแสดงออกของโปรตีน (TMPRSS2) ที่ช่วยให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ดี

ในขณะที่ Estrogen ในผู้หญิงนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้การเข้าสู่เซลล์ของไวรัสดีขึ้นแล้ว ยังไปสามารถกระตุ้นการยับยั้งการสร้างโปรตีน ACE2 ซึ่งเป็นโปรตีนตัวรับสำคัญในการเข้าสู่เซลล์ของไวรัส ทำให้อวัยะวะสำคัญของผู้ชายเช่น ปอด หัวใจ มีการแสดงออกของ ACE2 สูงกว่าผู้หญิง ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ ฮอร์โมน estrogen ยังพบว่ามีบทบาทสำคัญต่อการสร้างโปรตีน ชื่อว่า TLR7 ที่ตรวจจับการติดเชื้อไวรัสได้ไว และ ดี มีผลให้ร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อได้ดีกว่าผู้ชาย โอกาสที่ไวรัสจะเพิ่มจำนวนหลังติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะช้ากว่า

นอกจากนี้ผู้ชายยังมีอัตราส่วนของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil ที่มากกว่า ซึ่งเม็ดเลือดขาวชนิดนี้เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงในผู้ป่วยโควิด มีปริมาณเม็ดเลือดขาวสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น ฺB cell หรือ T cell น้อยกว่าผู้หญิง โดยรวมแล้ว ธรรมชาติให้กลไกการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 กับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในหลายระดับครับ
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/imm.13487

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อึ้ง! นักไวรัสวิทยายกผลงานวิจัยไอร์แลนด์ชี้ 'อัลไซเมอร์' อาจเกิดจากจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค)

งานวิจัยแดนปลาดิบชี้สารใน 'ชาเขียว-ดำ' ช่วยยับยั้งโอมิครอนได้ดี!

ข่าวดีเล็กๆ นักไวรัสวิทยาเผยมีการวิจัยสัญชาติปลาดิบเพิ่งตีพิมพ์ สารที่อยู่ในชาเขียวและชาดำช่วยยับยั้งไวรัสโอมิครอนได้ดี ลองผลิตเป็นลูกอมทดสอบแล้วแต่ใช้ได้แค่ 15 ปีเมื่อหมดก็สิ้นฤทธิ์