7 มิ.ย.2565- นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ภายหลังการติดตามสถานการณ์และการดำเนินการตามนโยบายผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยหากเป็นผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ รวมถึงผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง (HRC) สามารถแสดงผล Professional ATK หรือ RT-PCR ได้ โดยไม่ต้องมีการกักตัว ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมียอดจองการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมาตรการการเดินทางเข้าประเทศมีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น ซึ่งปัจจัยบวกต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ททท. ได้รายงานสถานการณ์จากเดิมที่มียอดนักท่องเที่ยวประมาณ 18,000 - 20,000 คนต่อวัน คาดการณ์ว่าหลังจากนี้หากมีการยกเลิก ไทยแลนด์พาส ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 - 30,000 ต่อวัน และหลังจากการคลายล็อกมาตรการของรัฐบาล เชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และรถเช่า โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งจากในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ประมาณ 1.15 ล้านล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งเป้าหมายให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศได้กว่า 7-10 ล้านคนต่อปี ด้วยการออกแผนส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวผ่านแคมเปญ “Visit Thailand Year 2022: Amazing New Chapters” นำเสนอการพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ พร้อมวางกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการสร้างคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวมิติใหม่จากสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและแตกต่างจากประเทศคู่แข่ง เช่น ส่งเสริมกลุ่มงานแต่งงาน กลุ่ม digital nomads และครอบครัว, กลุ่ม health & wellness และกลุ่มปั่นจักรยาน เป็นต้น
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพให้เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือนในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2565 ซึ่งประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยจากประเทศอินเดีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อีกทั้งตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไปจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามามากขึ้น เนื่องจากตรงกับช่วงฤดูหนาวของทวีปยุโรป
“ประเทศไทยได้ติดตามประเมินสถานการณ์เพื่อการกำหนดนโยบายประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการคาดการณ์กำหนดวางนโยบายที่ถูกต้อง สอดรับกับสถานการณ์โลก จึงทำให้นโยบายเปิดประเทศของไทย รวมถึงหลาย ๆ ประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศเช่นเดียวกัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีหลายทางเลือก นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์แผนการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ด้านมาตรการทางสาธารณสุข การควบคุมโรค ความปลอดภัยตามจุดต่าง ๆ ให้มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและชาวไทยด้วย” นายธนกรกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ
รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ
ครม. อนุมัติงบปี 68 จ้างภารโรงเพิ่มวงเงิน 2,739 ล้านบาท ช่วยเข้าเวรแทนครู
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณวงเงิน 2,739.96 ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ
รัฐบาลฟุ้ง! เดินหน้าผลักดันไทยสู่การเป็น Medical Hub ของโลก
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสากรรมการแพทย์ของไทยในระดับน
โควิดพุ่ง! ไทยติดเชื้อใหม่รอบสัปดาห์ 630 ราย ดับเพิ่ม 5 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 630 ราย
'ธนกร' หนุนสภาดัน 'ร่างสถานบันเทิงครบวงจร -ร่างกาสิโนถูกกม.' เก็บภาษีเข้ารัฐ
“ธนกร” หนุนสภาดัน “ร่างสถานบันเทิงครบวงจร -ร่างกาสิโนถูกกม.“ ให้แล้วเสร็จ จัดระเบียบใหม่-เก็บภาษี นำรายได้เข้ารัฐบริหารปท. ขอบคุณมท.1 เร่งล้างบางปราบบ่อนเถื่อนไม่ไว้หน้า หลังลุยเองคุมนักพนันกว่า 300 คนคาบ่อนยักษ์ย่านบางใหญ่ ชี้ โยงถึงใครว่าไปตามกม.
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 501 ราย ดับเพิ่ม 4 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 10 - 16 มีนาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 501 ราย