ดร.สันต์ ชี้โควิดสิ้นสุดขาลง(ชั่วคราว) เตือนพ่อแม่มีลูกต่ำกว่า 5 ขวบ ต้องดูแลเข้ม

แฟ้มภาพ

26 มิ.ย.2565-ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Sunt Srianthumrong” ระบุว่า Covid-19: สิ้นสุดขาลง(ชั่วคราว) Update สถานการณ์ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ในวันที่คนถอดหน้ากาก และประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ Wave ย่อยที่ 2 ของ Omicron ด้วยสายพันธุ์ BA.4, BA.5 สถานการณ์ช่วงนี้ดูไม่ดีนัก และคนเริ่มถอดหน้ากากกันแล้ว วัคซีนเด็กเล็กก็ยังไม่มี จะตัดสินใจใช้ชีวิตอย่างไรดีนะครับสำหรับคนมีลูกเล็กๆ

คำแนะนำและข้อมูลเบื้องต้น: 1. ช่วงนี้ติดเชื้อจริงยังอยู่ที่วันละ 32,000 – 50,000 คน ประมาณ 10 เท่าของตัวเลขประกาศทางการ  2. เด็กๆอายุต่ำกว่า 5 ขวบควรจะใส่หน้ากากและเลี่ยงสถานที่เสี่ยงต่อไปอีก 2-3 เดือน สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกเรา จะต่างกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ คนทั่วไปต้องออกไปใช้ชีวิต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่ให้ประเทศล้มละลาย ยิ่งถอดหน้ากากมาก ยิ่งเกิด Herd Immunity เร็วสำหรับเด็กเล็กครับ ดังนั้นเด็กเล็กๆต้องทำตรงข้ามกับคนอื่นนะครับ ยิ่งเขาหย่อนยานเราต้องยิ่งเข้มงวด แล้วรอเวลาครับ 

3. เด็ก 0-9 ปี อัตราการเสียชีวิตถ้าไม่ได้วัคซีนอยู่ที่ประมาณ 0.02% ถ้าได้วัคซีนแล้วอยู่ที่ 0.002% แต่ถ้ารพ.วอร์ดเด็กเต็มก็อันตรายเพิ่มขึ้นนะครับ พ่อแม่ “เหนื่อยและแพง” 4. วัคซีนสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไปอนุมัติแล้วใน USA เป็น Pfizer และ Moderna เมื่อ June 17, 2022 อีกไม่นานน่าจะเข้าไทยครับ อดทนนิดนึง 5. ประเทศไทยน่าจะมีคนติดเชื้อ Omicron ไปแ้ลวประมาณ 20 – 30 ล้านคน และในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้น่า จะเพิ่มขึ้นอีกจาก Wave ย่อยของ BA.4, BA.5 ตัวเลขน่าจะไปแถว 25 – 35 ล้านคน ช่วงหลังจากนั้นเด็กๆจะปลอดภัยมากขึ้นจาก Herd Immunity

6. มีการติดเชื้อในโรงเรียนเยอะมากช่วงนี้ สักพักคงติดกันเกือบหมดจนเกิด Herd Immunity ในกลุ่มพี่ๆเพื่อนๆ ช่วงนี้ อยู่บ้าน Home School รอไปเลย อีก 2-3 เดือนพี่ๆเพื่อนๆคงมีภูมิเป็นเกราะป้องกันให้ลูกเราหมดแล้ว 7. ใครมายุมาแหย่ ให้ออกไปเล่นไปใช้ชีวิต ไม่ต้องตามเขานะครับ แยกกันเดิน คิดซะว่าให้พวกเขาและลูกเขาติดเชื้อ เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เป็นเกราะป้องกันให้ลูกเราครับ ใจต้องแข็ง จิตต้องนิ่งครับ 8. พ่อแม่ออกไปข้างนอกควรใช้หน้ากาก 2 ชั้น และอย่าเพิ่งทานอาหารในร้านติดแอร์นะครับ

แนวโน้มตัวเลข เพื่อประกอบการพิจารณา: 1. กราฟ PCR+ ATK สิ้นสุดขาลง ชั่วคราว ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างชัดแล้วนะครับว่า ขาลงของ Omicron Wave ที่ 1 ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2022 ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลมากครับ จะเป็นการสิ้นสุดลงชั่วคราวเพื่อเกิด Wave ย่อยที่ 2 ของ Omicron เท่านั้น จากนั้นก็จะเป็นขาลงต่อ เหมือนในต่างประเทศที่เฉพาะ Omicron ปีนี้ก็ปาเข้าไป 3 Wave ย่อยแล้ว ประเทศไทยในแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาลงต่อเนื่องครับ

2. กราฟผู้ติดเชื้อจริงคาดการณ์  ขยับขึ้นจาก 27,000 – 40,000 ต่อวันมาเป็น 32,000 – 50,000 ต่อวัน จากเคยสูงสุดช่วงก่อนและหลังสงกรานต์ที่ 180,000 ต่อวัน 3. กราฟผู้เสียชีวิตยังคงเป็นขาลง มีโอกาสเห็นผู้เสียชีวิตต่อวัน (เฉพาะ Die from) เป็นเลขตัวเดียวในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 4. ขนาดสูงสุดของ Wave ย่อยที่ 2 ของ Omicron มักจะอยู่แถว 30-40% ของ Wave ที่ 1 ส่วนผู้เสียชีวิตมักจะน้อยลงกว่านั้นมาก เช่นตัวอย่างกราฟของ South Africa ประเทศไทยรอบนี้ตัวเลขจึงไม่น่าจะกระดอนขึ้นไปสูงจากตอนนี้มากนัก  5. ยุโรปกำลังเข้า Wave ที่ 3 ของ Omicron แล้ว และ Wave เล็กลงกว่า Wave 2 พอสมควร 6. ประเทศที่คุมได้ดี เช่น ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกิด Wave ย่อยทุกๆ 6 เดือน แต่ในยุโรปถอดหน้ากากมานานแล้ว คุมน้อยมาก เกิด Wave ย่อยทุกๆ 3 เดือน7. ตอนนี้สิงคโปร์กำลังเข้าพีคของ Wave ย่อยที่ 2 ของ Omicron แต่น่าจะเบากว่า Wave แรกเยอะ ใครจะไปเที่ยว ไปดูบอล ก็ขอให้ระมัดระวังตามสมควรนะครับ

พ่อแม่ที่มีลูกเล็กและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็ขอให้อดทนรออีกนิดนะครับ วัคซีนจะมาแล้ว และข้างนอกก็จะถอดหน้ากากแล้ว การระบาดจะเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ในทางนึงก็จะทำให้เกิด Herd Immunity เร็วขึ้น เด็กๆก็จะออกจากบ้านได้เร็วขึ้นด้วย สิ่งที่เราต้องทดไว้ในใจให้มั่นก็คือ 1. สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกเรา จะไม่เหมือนกับกลุ่มคนอื่นๆในประเทศ  2. เด็กเล็กอยู่บ้าน เด็กโตและผู้ใหญ่ออกไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้าง Herd Immunity ครับ  

ปล. สำหรับกลุ่มเสี่ยง ขอให้ทำตัวเหมือนเด็กเล็กนะครับ ข้างนอกนั่น ในตอนนี้ยังไม่ได้ปลอดภัยมากนักสำหรับคนที่สุขภาพอ่อนแอครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หมอมนูญ’ เผยผลติดตามสถานการณ์ 5 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่  ไรโนไวรัส (Rhinovirus) อาร์เอสวี (RSV) และ ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส Human metapneumovirus (hMPV)

‘หมอยง’ ย้ำโควิดยังสายพันธุ์โอมิครอน JN.1 ไม่รุนแรง หายไข้-ไอมาก 1 วัน ใส่แมสทำงานได้

โควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงลดความรุนแรงลง จนปัจจุบันความรุนแรงเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ RSVและเป็นการระบาดตามฤดูกาล

อาจารย์หมอ วิเคราะห์การระบาดโควิด มาจาก โอมิครอน สายพันธุ์ JN.1 เป็นหลัก

แม้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยจะเป็นขาลง แต่จำนวนคนที่ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังมีจำนวนไม่น้อย จึงควรใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท

อาจารย์หมอจุฬาฯ วิเคราะห์การระบาดโควิดไทย อยู่ในช่วง ’ขาลง’

ตัวเลขสัปดาห์ล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2024 จำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 462 ราย เสียชีวิต 2 ราย ปอดอักเสบ 263 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 91 ราย

ปรบมือรัวๆ ‘หมอธีระ’ วิเคราะห์การระบาด ‘โควิด’ ชี้ตอนนี้ไทยเป็นขาลง

อาจารย์หมอจุฬาฯ ชี้ตอนนี้ไทยเป็นขาลง แต่ขอให้ตระหนักว่าการติดเชื้อในระหว่างใช้ชีวิตประจำวันยังมีกันอยู่ต่อเนื่อง การเจ็บป่วยไม่ใช่เรื่องที่น่าพิสมัย ไม่ประมาท