ศบค.ย้ำขายแอลกอฮอล์ตามเวลา ถ้าสถานประกอบการร่วมมือกันดีก็อาจผ่อนคลายอีก ศปก.ศบค. เตรียมแผนเผชิญเหตุ หลังเปิดรับนักท่องเที่ยว
5 พ.ย. 2564- ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่ สำหรับตัวเลขผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรหลังเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. พบผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 9,210 ราย ท่าอากาศยานภูเก็ต 4,005 ราย ท่าอากาศยานสมุย 128 ราย ผลการตรวจ RT-PCR พบผู้ติดเชื้อ 10 ราย โดยศปก.ศบค.ได้กำชับการตรวจเอกสารของผู้เดินทาง รวมถึงกำชับการตรวจ RT-PCR ที่โรงแรมทำควบคู่กับโรงพยาบาลให้ดำเนินการรู้ผลภายใน 6 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้เดินทางเข้ามาสามารถเข้าพื้นที่แซนด์บ็อกซ์หรือเดินทางท่องเที่ยวได้ สำหรับ 5 ประเทศต้นทางที่เดินทางเข้ามากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1,593 ราย เยอรมนี1,592 ราย สหราชอาณาจักร 1,006 ราย ญี่ปุ่น 935 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 624 ราย
ที่ประชุมศปก.ศบค.วันนี้ยังหารือถึงกิจการ กิจรรมที่ได้ผ่อนคลายร่วมกับกทม.และภาคเอกชน เช่นสมาคมภัตราคารไทย สมาคมผู้ค้าปลีก โดยเน้นย้ำทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้พัฒนาการให้บริการให้ได้มาตรฐานสาธารณสุข หรือ SHAและSHA+ หากสถานประกอบการต่างๆร่วมมือกันดีก็อาจจะมีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้นตามมา อีกประเด็นที่ ศปก.ศบค.มีความเป็นห่วงคือการเปิดให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอให้สถานประกอบการต่างๆดำเนินการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ซึ่งศปก.ศบค.จะประเมินผลการดำเนินการทุก 2 สัปดาห์ ถ้าผลที่ออกมาดีขึ้นก็จะมีการผ่อนคลายต่างๆตามมา
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมหลังเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วหากเกิดระบาดขึ้น พญ.สุมนี กล่าวว่า เมื่อมีแผนเปิดประเทศแล้ว ได้มีการเตรียมพื้นที่ในการทำแผนเผชิญเหตุ เมื่อมีสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งในการทำแผนเผชิญเหตุนี้ได้มีการจัดทำภายใต้หลักการตามคำสั่งของศบค.ฉบับที่ 11 (12) ซึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณา 3 ข้อหลัก คือ 1.ความพร้อมในการรองรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นนักท่องเที่ยวในโครงการ โดยประเมินจากอัตราครองเตียงต่อจำนวนเตียงทั้งหมดของโรงพยาบาลที่รับนักท่องเที่ยว
2.ความพร้อมในการรองรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ของคนในพื้นที่ โดยประเมินจากอัตราครองเตียงต่อจำนวนเตียงทั้งหมดของสถานพยาบาลที่รับผู้ติดเชื้อทั้งหมดทุกประเภท
3. ลักษณะการระบาดวิทยาของ โควิด-19 ในพื้นที่ การจัดการทรัพยากรให้พร้อมในการควบคุมโรค ทั้งนี้ ให้เป็นการพิจารณาแล้วจะต้องมีการปรับว่าจะต้องดำเนินการมาตรการอย่างไร เริ่มตั้งแต่การลดกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว และลดลงมาจนถึงยุติการรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องเป็นมติจากที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้นๆในการดำเนินการชะลอหรือยกเลิกโครงการ ซึ่งเกณฑ์นี้อาจปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และแผนของประเทศ อีกทั้งคำนึงถึงศักยภาพ ทั้งการควบคุมโรคและรักษาพยาบาลในขณะนั้นด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศธ.สั่งเขตพื้นที่ฯรับมือพายุวิภาปิดโรง เรียนได้ทันที!
'อนูกล' เผย ศธ.สั่งเขตพื้นที่ฯ รับมือพายุวิภา ย้ำโรงเรียนในเส้นทางพายุสั่งปิดได้ทันที ด้าน กษ. เน้นย้ำให้ลดผลกระทบต่อภาคเกษตรให้มากที่สุด เตือน ปชช. เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
'สนามบินภูเก็ต' ใช้แผนเผชิญเหตุ พบรถ จยย.ต้องสงสัยซุกระเบิดในลานจอดรถ
จากกรณีเหตุการณ์พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยภายในท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และทีมสุนัขตำรวจ K-9 เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียด
รัฐบาลสั่ง รร.ทั่วประเทศรับมือภัยพิบัติช่วงฤดูฝน!
รัฐบาลกำชับโรงเรียนทั่วประเทศ รับมือภัยพิบัติช่วงฤดูฝน ย้ำสถานศึกษาจัดทำแผนเผชิญเหตุ ซักซ้อมรับมือภัยฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง
ระทึก! สาวโปแลนด์ ขู่บึ้มเครื่องบินกลางอากาศ ทสภ. งัดแผนเผชิญเหตุ
ศูนย์วิทยุสุวรรณภูมิภาคพื้นดิน รับแจ้งจากกัปตันเครื่องบิน เที่ยวบิน VZ 961 ของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ มีผู้โดยสารขู่วางระเบิด ระหว่างบินบนอากาศ
2 รมช.ภท. 'ทรงศักดิ์-ซาบีดา' ติดโควิด หลังเข้าตรวจ RT-PCR ที่ทำเนียบฯ
ก่อนการถ่ายรูปติดบัตรคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ วันเดียวกันนี้ ปรากฎว่ามี 2 รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย ติดโควิด-19 จำนวน 2 คน ภายหลังเข้ารับการตรวจ RT-PCR ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 ก.ย. คือ นายทรงศักดิ์ ทองศรี และนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย
ทำเนียบฯ เตรียมรับ 'นายกฯอิ๊งค์' เอาชุดโต๊ะทำงานมาเอง หันทิศใหม่ ปรับปรุงพื้นที่รอบศาลพระภูมิ
ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ในส่วนตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นห้องทำงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังจากได้มีการนำชุดโต๊ะทำงานเดิมสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเตรียมรอรับ น.ส.แพทองธาร

