นพ.ธีระระบุสหรัฐไฟเขียวฉีด Bivalent vaccine ส่วนไทยต้องรอลุ้น

หมอธีระชี้ WHO ยอมรับหลายประเทศปรับเปลี่ยนการแจ้งผู้ป่วย ทำให้ยอดติดเชื้อต่ำกว่าความเป็นจริง ระบุสหรัฐให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วย Bivalent vaccine แล้ว ส่วนไทยต้องรอลุ้นต่อไป

01 ก.ย.2565 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิด19ประจำวันที่ 1 กันยายน 2565 ว่าเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 528,220 คน ตายเพิ่ม 1,589 คน รวมแล้วติดไป 607,661,341 คน เสียชีวิตรวม 6,494,217 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 83.29 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 67.71

...สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 15 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชีย แม้ สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

...อัพเดตจากองค์การอนามัยโลก รายงานล่าสุดจาก WHO Weekly Epidemiological Update เมื่อคืนนี้ 31 สิงหาคม 2565 ในรอบเดือนที่ผ่านมา Omicron ครองการระบาดทั่วโลกถึง 99.6% ทั้งนี้พบว่า Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้นมีสัดส่วนสูงขึ้นจากเดิม 72.4% เป็น 78.2% ในขณะที่ BA.2 นั้นมีสัดส่วนเพียง 2.7% ส่วนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 (ที่พบครั้งแรกในอินเดีย) นั้นยังมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจนในหลายประเทศ จำเป็นต้องเฝ้าระวัง ติดตามอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ในวีดิโอสัมภาษณ์ Dr.Kerkhove MV, WHO ที่เผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อคืนนี้ ได้เตือนว่าปัจจุบันหลายประเทศมีการเปลี่ยนแปลงระบบรายงานเคส และระบบการตรวจ ทำให้เชื่อว่าตัวเลขติดเชื้อที่รายงานมานั้นต่ำกว่าที่เกิดขึ้นจริง โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดประมาณว่าดูจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท

...วัคซีนรุ่นใหม่สำหรับโรคโควิด-19 ล่าสุดทาง US FDA ได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนรุ่นใหม่ชนิด Bivalent ของ Pfizer-Biontech และ Moderna เพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้นแล้ว โดยวัคซีนชนิด Bivalent นั้นจะครอบคลุมสายพันธุ์ดั้งเดิม และ BA.4/BA.5 ทั้งนี้ Pfizer-Biontech ใช้สำหรับคนอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ในขณะที่ Moderna ใช้สำหรับคนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

การฉีดเข็มกระตุ้นด้วย Bivalent vaccine นั้น สามารถให้ได้ตั้งแต่ 2 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนเข็มสุดท้าย (ไม่ว่าจะเป็นคนที่ได้เข็มสุดท้ายเป็นเข็มสอง หรือเป็นเข็มกระตุ้นก็ตาม) สำหรับไทยเรา คงต้องติดตามต่อไป

การระบาดยังคงรุนแรง ติดเชื้อไม่จบแค่ชิลๆ แล้วหาย แต่ป่วยรุนแรงได้ ตายได้ และที่ควรตระหนักคือ ความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการใช้ชีวิตและการทำงาน ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ และเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด ใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอนะครับ จะช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก

อ้างอิง
1. WHO Weekly Epidemiological Update. WHO. 31 August 2022.
2. Coronavirus (COVID-19) Update: FDA Authorizes Moderna, Pfizer-BioNTech Bivalent COVID-19 Vaccines for Use as a Booster Dose. FDA News Release. 31 August 2022.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลวิจัยชี้ Long COVID จะทำให้ลางานมากกว่าปกติ 1.4 เท่า

'หมอธีระ' เผยแดนกิมจิยังคองแชมป์ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิดใหม่สูงสุด ชี้ผลวิจัย Long COVID เมืองผู้ดีที่ศึกษาประชากร 2 แสนรายพบผู้ป่วยจะมีปัญหาลางานมากกว่ากว่าปกติ 1.4 เท่า

'หมอธีระวัฒน์' ยันเดินวันละ 10,000 ก้าวมีประโยชน์ไม่มั่วนิ่ม

'หมอธีระวัฒน์' ยันเดินวันละหมื่นก้าวมีผลงานวิจัยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงว่ามีประโยชน์ แม้ไม่ถึงก็ยังดี เพราะยิ่งเดินเพิ่มก็ช่วยสร้างสุขภาพให้ตัวเองโดยไม่ต้องเข้าฟิตเนส

อาจารย์หมอจุฬาฯ ย้ำเตือนผลระยะยาว Long COVID ติดเชื้อต้องระวัง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่ผลการสำรวจผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงกุมภาพันธ์ 2563 ถึงพฤศจิกายน 2564 จำนวน 502 คนพบว่าส่วนใหญ่กว่า 80% เคยติดเชื้อโดยป่วยมีอาการน้อย (86.4%)

'หมอดื้อ' ยกหลักฐานการศึกษาตั้งแต่ปี 2560 ชี้การอักเสบส่งผลต่อร่างกายและสมอง

'หมอธีระวัฒน์' ยกหลักฐานชี้การอักเสบเรื้อจะมีผลกระทบต่อร่างกายและสมอง แนะใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือหยุดสูบบุหรี่ไม่เช่นนั้นเมื่อรวมกับ PM2.5 จะเกิดการอักเสบเหมือนตายผ่อนส่ง

'หมอยง' ชี้หลักวิวัฒนาการทำความรุนแรงโควิด19 ลดลงแต่ มิ.ย.นี้กลับมาแน่!

'หมอยง' ตอกย้ำโควิด-19 ไม่มีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ ซ้ำความรุนแรงก็ลดลงตามหลักวิวัฒนาการ แต่เชื่อเดือน มิ.ย.จะกลับมาพบผู้ป่วยมากอีกครั้งหนึ่ง

‘หมอธีระ’ อัปเดตโควิดทั่วโลก ติดเชื้อเพิ่ม 50,331 คน เสียชีวิต 211 คน

สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2566 ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 50,331 คน ตายเพิ่ม 211 คน รวมแล้วติดไป 681,528,196 คน เสียชีวิตรวม 6,811,893 คน