
ไทยพบติดเชื้อ 7,681 ราย ดับ 19 ราย ศบค.หวังสิ้นปีนี้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น ห่วง 8 จังหวัดเริ่มมีผู้ป่วยมากขึ้น สั่งคุมเข้มโดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับ กึ่งสถานบันเทิง
12 ม.ค.2564 - พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,681 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,392 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,282 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 110 ราย มาจากเรือนจำ 12 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 277 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,292,290 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3,350 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,204,135 ราย อยู่ระหว่างรักษา 66,286 ราย อาการหนัก 480 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 108 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 19 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 9 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 12 ราย มีโรคเรื้อรัง 5 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 21,869 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 ม.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 513,208 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 107,271,904 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 314,090,366 ราย เสียชีวิตสะสม 5,521,031 ราย
พญ.สุมนี กล่าวว่า ลักษณะของโรคขณะนี้ลดความรุนแรง เนื่องจากประชาชนมีภูมิต้านทาน การรักษาและการบริการของเรามีความพร้อมและประสิทธิภาพทำให้อัตราป่วยหนักและเสียชีวิตลดลง หากร่วมมือกันดีเรามีความหวังว่าปีนี้โควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องใส่หน้ากากเพื่อลดการแพร่เชื้อ
พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 12 ม.ค. ได้แก่ กทม. 892 ราย ชลบุรี 873 ราย สมุทรปราการ 523 ราย ภูเก็ต 488 ราย ขอนแก่น 277 ราย อุบลราชธานี 269 ราย นนทบุรี 251 ราย เชียงใหม่ 194 ราย ศรีสะเกษ 167 ราย บุรีรัมย์ 166 ราย โดยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีความเป็นห่วงพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 8 จังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ จ.นนทบุรี และปทุมธานี ที่ 2 วันก่อนผู้ติดเชื้อยังอยู่หลักสิบ แต่มาวันนี้เป็นตัวเลขสามหลัก และมีทิศทางตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงขอเน้นย้ำพื้นที่สีฟ้าทั้ง 8 จังหวัด แม้จะเปิดกิจกรรม กิจการได้ แต่ต้องกำกับติดตามมาตรการต่างๆ ทั้งโควิดฟรีเซตติ้ง และเน้นย้ำประชาชนให้ป้องกันตัวเองตามมาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล
พญ.สุมนี กล่าวว่า ในส่วนของคลัสเตอร์ใหม่ที่พบมากที่สุดยังคงเป็นร้านอาหาร กึ่งผับ กึ่งสถานบันเทิง พบที่ จ.อุบลราชธานี น่าน อุดรธานี พะเยา ขอนแก่น เชียงใหม่ และศรีสะเกษ คลัสเตอร์สังสรรค์ปีใหม่พบที่ จ.อุดรธานี หนองบัวลำภู คลัสเตอร์โรงงานพบที่ จ.นครพนม คลัสเตอร์งานบุญพบที่ จ.อุบลธราชธานี คลัสเตอร์สถานพยาบาลพบที่ กทม. แม้จะพบจังหวัดเดียวแต่พบถึง 5 โรงพยาบาล และคลัสเตอร์สถานศึกษาพบที่ จ.จันทบุรี กทม. และนนทบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธกส. ช่วยคนชายแดน ยกหนี้กรณีเสียชีวิต ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
ธกส. ออกมาตรการช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ยกหนี้กรณีลูกหนี้เสียชีวิตหรือสาบสูญ พร้อมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 2 หมื่นบาท
รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ปมการเสียชีวิตของผู้กำกับชื่อดัง ‘ร็อบ ไรเนอร์’ และภรรยา
หลังจากการเสียชีวิตอย่างโหดร้ายของ ร็อบ ไรเนอร์ ผู้กำกับชาวอเมริกันซึ่งโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง ‘When Harry Met Sally’ และมิเชล ซิงเกอร์-ภรรยาของเขา ลูกชายของพวกเขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมอย่างเป็นทางการ
ส่งทีม สธ. SRRT–SehRT 52 ชุด ลงศูนย์พักพิง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ชายแดน
รัฐบาล ตรียมพร้อมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ชายแดน มอบหมาย สธ. ส่งทีม SRRT–SehRT จำนวน 52 ทีม
จยย. 2 กลุ่ม ชนสนั่น! กลางถนนสุวรรณภูมิ ดับ 2 เจ็บอีก 3
เมื่อเวลา 01.00 น. ศูนย์กู้ชีพปราการรับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุหมู่รถชนกันหลายคันและมีผู้บาดเจ็บหลายรายอาการสาหัส และมีเพลิงลุกไหม้รถคันเกิดเหตุ เหตุเกิดบนถนนเลียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ สาย 3
สดุดีทหารกล้า ทบ.เลื่อนยศ ‘จ่าสิบเอกศตวรรษ สุจริต’ 9 ขั้น เป็น ‘พลตรี’
”รมว.กลาโหม“ เป็นประธานสดุดีทหารกล้า สละชีพปกป้องแผ่นดินไทย ที่ช่องบกมอบเงินพระราชทาน 50,000 บาท และเงินประกัน-เงินเยียวยา รวมกว่า 12 ล้านบาทขณะ ”สิบเอกชวกร เดชขุนทด“ เป็น พันตรี พร้อมมอบเงินต่างๆ รวมกว่า 11ล้านบาท

