วัคซีนเด็กมาแล้ว ศธ. และ สธ. เตรียมเริ่มฉีด 1 ก.พ.นี้

นายกฯติดตามการฉีดวัคซีนเด็ก ขณะที่ ศธ. และ สธ. จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้เด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้

30 ม.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งไทยสามารถรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ และสัดส่วนการฉีดวัคซีนของประชากรก็เพิ่มขึ้น ขณะนี้ ไทยยังมีความพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี ในประเทศไทย โดยล็อตแรกได้มาถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2565 ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการให้การบริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่เด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี หรือ 11 ปี 11 เดือน 29 วัน คาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ และเข็มที่ 2 จะฉีดในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงนักเรียนและเด็กเล็ก กำชับการควบคุมการแพร่ระบาดในสถานศึกษา ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม อาทิ การจัดแข่งขันกีฬา ปัจฉิมนิเทศ มีการรับประทานอาหารร่วมกันในลักษณะเดียวกับคลัสเตอร์งานเลี้ยงอื่น ๆ จึงกำชับให้ทุกสถานศึกษาปฏิบัติมาตรการสถานศึกษาปลอดโควิด – 19 ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้มงวด ได้แก่ การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การคัดกรองวัดไข้ การลดการแออัด และการทำความสะอาด 6 มาตรการเสริม ได้แก่ การดูแลตนเอง การใช้ช้อนกลางส่วนตัว การกินอาหารปรุงสุกใหม่ การลงทะเบียนเข้าออก การสำรวจตรวจสอบด้วยแบบสอบถาม และการกักกันตัวเอง และ 7 มาตรการเข้มงวด ได้แก่ ประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน Thai Stop Covid Plus และรายงานผลอย่างต่อเนื่อง การทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย (Small Bubble) รวมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุซักซ้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ ในกรณีพบผู้ติดเชื้อสามารถจัดให้มีระบบ School Isolation และดูแลการเดินทางของนักเรียนในรูปแบบ Seal Route เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน ครูและบุคคลากรในโรงเรียนทุกคนด้วย

สำหรับประเทศไทยวันนี้ (30 มกราคม 2565) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม รวม 8,444 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 8,208 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 236 ราย ทำให้ผู้ป่วยสะสม 209,099 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ทั้งนี้หายป่วยเพิ่มกลับบ้านแล้ว 7,829 ราย รวมหายป่วยสะสม 157,341 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) โดยมีผู้ป่วยกำลังรักษา 84,542 ราย และเสียชีวิต 12 ราย ขณะที่ การฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ.2564 – 28 ม.ค.2565 รวม 114,577,194 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 52,266,677 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 48,532,214 รายและจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 13,778,303 ราย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' แนะรัฐบาลเร่งประสานทางการจีน สร้างความเชื่อมั่นโปรโมตนักท่องเที่ยวเข้าไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า รัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ควรใช้โอกาสดีเกี่ยวกับกิจกรรม

ธนกร วอนรัฐบาล เร่งคลอดมาตรการคุม pm 2.5

“ธนกร” ขอ รัฐบาล เร่งคลอดมาตรการคุม pm 2.5 หลังค่าฝุ่นผันผวน 12-19 ม.ค.นี้ จี้ ผู้ว่ากทม.-บก.จร.ใช้ยาแรง เข้มรถควันดำ-เอาผิดหนักพวกเผาป่า หนุน ใช้WFH -งดเรียนกลางแจ้ง หวั่น กระทบหนักสุขภาพคนแก่-เด็กเล็ก

'ธนกร' เห็นด้วยเลื่อนถกแก้รธน. ออกไป 1 เดือน แนะแก้ปัญหาประชาชนเป็นอันดับแรก

นายธนกร วังบุญคงชนะ  รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากการประชุมของคณะกรรมการประสานงาน (วิป 3 ฝ่าย) มีมติให้เลื่อนการพิจารณา การประชุมร่วมรัฐสภา

'ธนกร' ค้าน 'ปชน.' แก้รธน.สุดซอย เตือนระวังโดนฟ้อง 157 ผิดกราวรูด

'ธนกร' ปักธงค้าน 'ปชน.' ชงแก้มาตรา 256 ชี้ตัดอำนาจ สว. ชัดขัดเจตนารมณ์ รธน. ทำเสียสมดุล 2 สภา หนักข้อสุดซอยเอื้อมแตะหมวด 1-2 พ่วงอำนาจองค์กรอิสระ เตือนระวังถูกฟ้อง 157 เจอผิดกราวรูด

'ธนกร' แนะฝ่ายค้านเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล อย่าแค่เล่นละคร ต้องตรวจสอบให้จริงจัง

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ