26 เม.ย.2565 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 ว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว และกำชับการปฏิบัติเรื่องการดูแลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ รวมถึงผลการทำงานของ ศพดส.ตร.ในภาพรวมทั้งหมด
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า สำหรับคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาเมื่อปี 2558 ตนขอชี้แจงโดยจำแนกเป็น 3 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นแรกคดีนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 153 หมาย สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 123 ราย ยังคงเหลือหมายจับอีก 30 หมาย ซึ่งเป็นคนไทยและชาวต่างชาติ ในส่วนที่เป็นคนไทย พล.ต.อ.รอย กำชับให้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนชาวต่างชาติมีการประสานความร่วมมือทางการทูตเพื่อตามตัวมาดำเนินคดี
ประเด็นต่อมาคดีนี้มีการดำเนินการในรูปแบบคณะทำงาน มีการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนกว่า 100 ราย โดยสนธิกำลังจากหน่วยต่างๆ ไม่ใช่ตำรวจเพียงหน่วยเดียว ฉะนั้นหากพนักงานสอบสวนคนใดคนหนึ่งถูกล็อบบี้ ให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พนักงานสอบสวนคนอื่นๆ จะต้องเชื่อตาม เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการมีความเห็นทางคดีร่วมกัน ที่มีการกล่าวหามีการได้รับคำสั่งในทางมิชอบ หรือ สั่งการทิศทางคดีหันซ้ายหันขวา จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามมีการกำชับอยู่ตลอดว่าให้ตรงไปตรงมา
"คดีนี้อยากให้ดูผลลัพธ์ในทางคดี เราสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 153 ราย และไม่มีละเว้นใครเลย บุคคลที่ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงและมีสถานะทางสังคมค่อนข้างสูงก็ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ฉะนั้นหากเราได้รับคำสั่งมาให้ทำในทางมิชอบตามทีการกล่าวหา จะไม่มีชื่อบุคคลเหล่านี้ถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ต้องหาแน่ๆ แต่นี่เราดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้จะเห็นว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีหรือถูกควบคุมตัวในคดีนี้เราไม่ได้ให้ประกันตัว หากมีการสั่งการหรือล็อบบี้กันก็จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมาก ไม่มีให้สิทธิพิเศษ ไม่มีการให้ประกันตัวใครเลย จะเห็นว่าผู้ต้องหาหลายคนถูกจำคุกในเรือนจำเรียบร้อยแล้ว"โฆษก ตร.กล่าวและว่า ส่วนบุคคลที่เหลือ ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว แต่ยังไม่ถูกจับกุม บางส่วนก็อยู่ในต่างประเทศ ก็อยู่ร่วมในขบวนการในระดับปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งพล.ต.อ.รอย กำชับให้จับกุมให้ได้โดยเร็ว
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา หลังเกิดคดีดังกล่าว ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้น ทำให้ไม่ปรากฏว่ามีการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในลักษณะเป็นการค้ามนุษย์หรือค้าทาสอีกเลย ซึ่งในวันนี้ พล.ต.อ.รอย กำชับให้คงมาตรการเข้มข้นเช่นนี้ต่อไป เพื่อที่จะได้ไร้ข้อครหาและไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าตำรวจมีความห่วงใยที่มีการนำเสนอข่าวในช่วงใกล้ประเมินรายงานการติดตามและการดำเนินงานต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ Trafficking in Persons (TIP) report ว่า เกรงจะกระทบต่อความเชื่อมั่นที่นานาชาติมีต่อประเทศไทย จึงอยากจะวิงวอนว่าเรื่องอย่างนี้เป็นนโยบายสำคัญของชาติ หากเกิดผลกระทบเศรษฐกิจของชาติก็จะกระทบด้วย ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการปฏิบัติตามนโยบายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนโยบายหลักและสำคัญของประเทศ โดยรัฐบาลได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กเอก’ เปิดตัวชิง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ลั่นขอปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจ
‘เอก อังสนานนท์’ เปิดตัวอาสานั่ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิส่งไลน์ถึงเพื่อนตำรวจ แนะนำตัว ชูสโลแกน ‘ปกป้องศักดิ์ศรี ตำรวจดี ของประชาชน’ ชี้ปัญหาตำรวจถูกแทรกแซง–งานสอบสวนต้องรีบแก้ไข
ผบช.น. เค้นตร.ห้วยขวางตอบ 5 ข้อสงสัย ไถเงินสาวไต้หวัน หากไม่เคลียร์ก็ชี้แจงในชั้นศาล
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตั้งด่านรีดเงินกลุ่มนักท่องเที่ยวดาราสาวไต้หวันจนมีคำสั่งย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง และตำรวจ 7 นาย สน.ห้วยขวาง ว่า
มอบรางวัล สารวัตร ปคม. ไล่จับคนร้ายชิงทองได้ทันควันขณะเดินอยู่ในห้าง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ สารวัตร ปคม. ช่วยจับคนร้ายชิงทอง
‘ชูวิทย์’ จี้ ‘ผบช.น.’ พูดความจริง ฮึ่ม! หากโกหกอีกโชว์หลักฐานแฉแน่
'ผมรอฟังความจริงจาก ผบช.น. หลังฟังคำโกหกหลอกลวง หาเรื่องสาวไต้หวันคนพูดความจริง'
กลับลำแทบไม่ทัน! ‘บช.น.’ ออกข่าวประชาสัมพันธ์ ขอโทษประชาชน
ทาง บช.น. ต้องขอโทษมายังประชาชนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทำการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวม
งามไส้! ตร.รับรีดเงินสาวไต้หวัน 2.7 หมื่น ชุดจับกุมร่วมปกปิดข้อมูล
จากการสอบสวนปากคำอย่างละเอียดของตำรวจแต่ละนายทำให้มีผู้ยอมรับสารภาพว่าในวันดังกล่าวมีการเรียกเก็บเงินจริง และมีการแบ่งเงินกันที่บริเวณด่านในคืนเกิดเหตุ