‘คมนาคม’สั่ง ทอท.จัดการเด็ดขาดหลังชายคลั่งเมายาบุกสนามบินสุวรรณภูมิ

ทอท.แจ้งเหตุชายคลั่งยาบุกสนามบิน ไม่กระทบให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบิน อ่วมเจอข้อหาบุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้าม ส่อผิดตาม พรบ.ทางเดินอากาศ มีระวางโทษหนักอาจถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15ปี-20 ปี และปรับตั้งแต่6-8แสนบาท

4 พ.ค. 2565 – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565 เมื่อ เวลา 11.53 น. มีผู้บุกรุกเขตการบิน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ได้เข้ามาทางช่องทางที่ 3 มีการใช้อาวุธปืนปลอม และขวานขู่เจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้น ทั้งนี้สามารถจับกุมตัวได้ในเวลา 12.04 น.

สำหรับผู้บุกรุกเขตการบินที่ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายวัชระ คำบุตร อายุ 34 ปี ได้ใช้ขวานทุบกระจก และโดนกระจกบาด โดยในขณะก่อเหตุมีอาการเมายา และพูดจาไม่รู้เรื่อง ค้นตัวพบยาบ้า 1 เม็ด ส่วนเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ได้พยายามไล่จับกุม และเข้าควบคุมตัวนั้น ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

นายศักดิ์สยาม กล่าวยืนยันว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่อย่างไรก็ตาม โดยได้สั่งการให้ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยเคร่งครัด

ด้านนายกิตติพงศ์  กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่ากรณีมีบุคคลภายนอกขับขี่รถจักรยานยนต์ พกอาวุธ ฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามภายในเขตการบิน โดยเมื่อได้รับแจ้งเหตุ ศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตลอดเหตุการณ์พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขับรถยนต์สายตรวจเข้าตามสกัดจับผู้บุกรุก

ทั้งนี้เนื่องจากผู้บุกรุกมีอาวุธทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กำลังในการควบคุม โดยสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลา 12.03 น. และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ก่อนที่ผู้บุกรุกจะพยายามหนีเข้าไปในสะพานเทียบอากาศยาน ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นชายไทย อายุ 34 ปี ขณะจับกุมบุคคลดังกล่าวยังมีอาการมึนเมาจากการเสพยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนสั้น และของมีคม(ขวานเหล็ก,กรรไกร) พร้อมด้วยยาบ้า 1 เม็ด

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ. ได้ปฏิบัติหน้าที่เข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีและเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธจึงทำให้ ผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุนอกจากจะถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้ามภายในท่าอากาศยานแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีจากข้อหากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 19 ด้วยข้อหาใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทำการอันอาจเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานบุกรุก ซึ่งมีระวางโทษหนักอาจถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15ปี-20 ปี และปรับตั้งแต่6-8แสนบาท

นอกจากนี้ยังมีความผิดในการทำลายทรัพย์สินของท่าอากาศยานจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีความผิดเนื่องจากเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้มีทรัพย์สินส่วนหนึ่งของ ทสภ. ได้รับความเสียหายโดยตรวจพบประตูกระจกตรงช่องทางเข้าอาคารเทียบเครื่องบิน แตกเสียหายจำนวน 2 บาน เนื่องจากผู้บุกรุกได้ใช้อาวุธทุบประตูกระจกเพื่อพยายามหลบหนีเข้าไปในอาคารแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดจับได้เสียก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แรงงานไทยใน อิสราเอล ล็อต 2 กลับถึงไทยเย็นนี้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ช่วยอำนวยความสะดวกแรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สงครามและหลบหนีมาจากพื้นที่อันตราย จำนวน 19 คน

'บิ๊กทิน' ยันทัพฟ้าเตรียมเครื่องบินอพยพคนไทยพร้อมแล้ว

รมว.กลาโหมร่วมต้อนรับแรงงานไทยกลับบ้าน ย้ำสั่งกองทัพอากาศ เตรียมเครื่องบินพร้อมแล้ว เล็งประสานเช่าสายการบินพาณิชย์สำรอง หากมีความประสงค์เพิ่ม

อึ้ง! พิพัฒน์แจงตัวเลขอิสราเอลเยียวยาแรงงานไทยส่วนรัฐบาลยังไม่เคาะ!

'3รมต.-1รมช.' พร้อมใจมารับแรงงานไทย 'พิพัฒน์'เผยประสานรัฐบาลอิสราเอลวางแนวทางเยียวยาแล้ว ด้าน 'แรงงาน' สมทบเพิ่ม ผู้เสียชีวิต 40,000 บาท บาดเจ็บ 15,000 บาท