'ทนายเดชา' แถลงยิบ 'แม่แตงโม' ส่งมือถือลูกให้ 'บังแจ็ค' ขอเวลา 2 วันจะพูดให้จบ

25 พ.ค.2565 - นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ อดีตดาราสาว "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ เปิดแถลงข่าวถึงปมโทรศัพท์มือถือของแตงโม หลังมือปริศนานำข้อมูลจากโทรศัพท์ของแตงโมมาโพสต์จนสร้างความปั่นป่วนสับสนต่อสังคมที่เฝ้าจับตาคดีนี้อยู่ว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้คุยกับแม่แตงโมผ่านโทรศัพท์อย่างเป็นทางการ โดยทางคุณแม่ยืนยันว่าโทรศัพท์แตงโมอยู่ที่ “บังแจ๊ค” โดยการส่งทางไปรษณีย์ไปที่ประเทศสหรัฐ คุณแม่เป็นคนดำเนินการคนเดียวทั้งสิ้น

ทราบว่าบังแจ๊คติดต่อมาถึงคุณแม่บ่อยและมีการพูดคุยจนเกิดความสนิทวันหนึ่งโทรมาหลายครั้ง เพราะบังแจ๊คอ้างว่ามีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าแตงโมถูกฆ่าตายเป็นคดีฆาตกรรม ส่วนกระแสข่าวบังแจ๊คซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้ราคา 3 แสนบาทนั้น สอบถามแม่แล้วไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ ไม่ได้พูดถึงการซื้อเพียงแต่บอกว่าหลังได้รับโทรศัพท์จากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี วันที่ 13 พ.ค. อยากรู้ว่าข้างในมีอะไรบ้าง อยากค้นหาความจริงว่าลูกสาวเสียชีวิตเพราะถูกฆาตกรรมจริงหรือไม่ แต่ก็เปิดไม่ได้เนื่องจากมีรหัสแม่ใช้ไม่เป็น

จากนั้นคุณแม่ไปติดต่อแอปเปิ้ลประเทศไทย เพื่อดำเนินการเปิดกู้ภาพต่างๆ ภาพมี 2 ส่วน 1.คือภาพปกติทั่วไปที่มีอยู่ในเครื่อง 2.ภาพลับแต่งกายไม่เหมาะสม ภาพส่วนตัวไม่สามารถกู้ได้ หลังจากนั้นไปหลงเชื่อบังแจ๊คว่าสามารถดำเนินการได้ว่าถ้าสามารถกูภาพจะสามารถหาสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโมได้ เท่าที่คุยกับแม่พบว่ามีประมาณ 2 ภาพที่ถูกลบไป สันนิษฐานว่าจะเป็นภาพที่แตงโมใส่ชุดนอนในโรงแรมแต่ไม่ใช่ในคดีนี้ แต่รายงานสืบสวนทางลับแจ้งว่าบังแจ๊คอาจเอาข้อมูลตรงนี้ไปให้ยูทูบเบอร์คนดังจอมแฉ อาจไปบอกยูทูบเบอร์ว่า 2 ภาพเหมือนแตงโมไปนอนในโรงแรม เพราะในเครื่องมีภาพกว่า 1.2 ล้านภาพ

แล้วนำภาพที่เซ็กซี่ไปเชื่อมโยงกับคดีได้ แล้วมีการเชื่อมต่อไปยังยูทูบเบอร์คนดังยังไงไม่รู้ยูทูบเบอร์คนดังกล่าวจึงคิดว่ามีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่าการการฆาตกรรมบนเรือ ใช้มีดกรีดขา สุดท้ายยูทูบเบอร์คนนี้อาจจะถูกหลอกหรือเปล่าจึงไม่มีภาพนี้ และจากการสืบสวนทางลับของเจ้าหน้าที่หน่วยหนึ่งบอกว่ายูทูบเบอร์คนดังกล่าวหลงเชื่อว่าจะได้ข้อมูลมาสุดท้ายไม่มี จึงมองว่าตอนนี้มีการหักหลังกันเองหรือเปล่า เพราะข้อมูลที่บังแจ๊คได้ตำรวจก็มีหมดแล้วแต่ไม่มีคลิปการฆาตรกรรม ฝากไปถึงยูทูบเบอร์อย่าไปเชื่อเขาเดียวเสียหมา

ทนายอัจฉริยะ เปิดเผยอีกว่า บังแจ๊คอ้างว่าจะนำไปค้นหาพยานหลักฐานมาช่วยคุณแม่จึงหลงเชื่อแล้วส่งโทรศัพท์ให้บังแจ๊ค ส่วนการโพสต์แม่จะทราบหรือไม่ว่าเป็นฝีมือบังแจ๊คต้องให้แม่พูดเอง ซึ่งตนก็ได้บอกว่าทางคุณแม่แล้วว่าต้องออกมาพูดแล้วเพราะทำให้ทนายเสื่อมเสียไปด้วยต้องให้จบ อีก 2 วันแม่จะพูดให้จบ ส่วนที่แม่บอกว่าโทรศัพท์อยู่ที่ทนายผมไม่ขอตอบยิ่งเป็นทนายของแม่แล้วมาตอบจะผิดจรรณยาบรรณวิชาชีพให้คิดเอาเอง ที่แม่ยอมให้พูดเพราะตนได้คุยกับคุณแม่ว่าเรื่องมันใหญ่แล้ว ต้องพูดแล้วจะมาบอกว่าอยู่กับตนไม่ได้ แต่คิดว่าที่ตอบไปก็เพื่อเอาตัวรอด

เรื่องการส่งโทรศัพท์ไปให้บังแจ๊ค คุณแม่ไม่เคยมาพูดคุยกับตนล่วงหน้าเลยแม่จัดการเองหมด แต่หลังจากเกิดเรื่องก็แค็ปหน้าจอส่งไปให้แม่ดูสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นจึงมาทราบเรื่องภายหลัง โดยค่าส่งประมาณ 2 พันกว่าบาท ส่วนค่าตอบแทนยังไม่ชัดก็ยังไม่พูดเดียวเป็นการกล่าวหา เช่นเดียวกับกับเรื่องการโอนเงิน 2-3 แสนบาท ก็ยังไม่มีข้อมูลแม้กระทั่งในการสืบสวนก็ยังไม่มี ส่วนจะมีคนรอบข้างรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้นปกติคุณแม่จะทำอะไรเขาจะทำคนเดียวเพราะฉนั้นความลับจะไม่ค่อยรั่วไหล ในฐานะทนายส่วนตัวคุณแม่ฝากบอกไปยังบังแจ๊คควรจะหยุด เราะการละเมือสิทธิ์ส่วนบุคคลและการเข้าถึงระบบข้อมูลคนอื่นมีความผิดทั้งในไทยและนอกราชขอาณาจักร อย่างไรก็ตามได้ประสานเพื่อให้แจ้งไปยังเอฟบีไอ เพราะที่สหรัฐสามารถแจ้งแจ้งหลักฐานเพื่อให้เขาดำเนินการได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะยังทำหน้าที่เป็นทนายให้คุณแม่แตงโมต่อหรือไม่ เขาตอบว่า ตอนนี้ยังเหมือนเดิม ให้คุณแม่หายเครียดก่อนและให้ระมัดระวัง เพราะทางลูกชายคุณดายศก็ได้ฝากให้ช่วยระวังการแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ของแม่ ตอนนี้ห่วงเรื่องสุขภาพจิตคุณแม่ เพราะแต่ละวันมีคนเข้ามาคอยเสี้ยมเป็นการฆาตกรรม อย่างเช่นในงานศพก็จะมีดาราคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของหมอผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามากระซิบกระซาบให้ไปแจ้งความอะไรไม่รู้และอีกคนเป็นผู้ชายเข้ามาให้ข้อมูลว่าเป็นการฆาตกรรม

ถามอีกว่าวันที่ 27 พ.ค.นี้ อัยการนัดสั่งคดี หลักฐานที่ออกมาสู่โลกออนไลน์จะส่งผลอะไรหรือไม่ ไม่มีเชื่อว่าจะมีการส่งฟ้องแล้วก็จบ ส่วนที่จะมีคนไปยื่นขอความเป็นธรรมต่ออาจะเป็นเฮือกสุดท้ายจากนั้นก็ดิ้นไม่ได้ เพราะถ้าดิ้นจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลเท่ากับเป็นการชี้นำ ถามอีกว่าแสดงว่าแม่ไม่เชื่อการแถลงของตำรวจเพราะคล้อยตามการกล่าวอ้างของบังแจ๊ค เขาตอบว่า จะเชื่อหรือไม่แม่ไม่เคยบอก

“พฤติกรรมของบังแจ๊ค ถ้ามีการปล่อยภาพโป๊จะผิดกฎหมายทั้งของไทยและอเมริกา ทั้ง พ.ร.บ.คอมฯและกฎหมายอาญา รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคล”ทนายเดชา กล่าวต่อว่า

ทนายคดีแตงโมกล่าวอีกว่า กรณีที่มีคนไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เขาไม่รับหรอกเพราะการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว วันศุกร์ที่ 27 พ.ค.นี้เขายื่นศาลก็จบแล้ว ดีเอสไอเขาไม่รับหรอกอธิบดีดีเอสไอก็กลัวทัวร์ลง อยากให้จบสะทีจะได้ไปทำอย่างอื่นส่วนความสัมพันธ์กับคุณแม่ก็ยังรักกันดีเหมือนเดิม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทนายเดชา-หลานอากู๋ แถลงโต้ทนายคู่กรณีโบ้ยใช้สื่อกดดัน จนลูกความผูกคอตาย

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ และนายซัน หลานอากู๋ เจ้าของบ้านที่ถูกคู่กรณียื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งครอบครองปรปักษ์ แถลงข่าวหลังจากเกิดเหตุหนึ่งในคู่กรณีในคดีบุกรุกทำร้ายตนเองเสียชีวิตในห้องน้ำภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพัก พื้นที่ สน.คันนายาว

ชี้เคสเเม่เเตงโมหากทนายความยักยอกจริง โดนผิดมรรยาททนายความด้วย!

9 ม.ค.2567 - ห้องประชุมสภาทนายความฯถนนพหลโยธิน นายวิเชียร ชุบไธสงกล่าวถึงกรณีปรากฎเป็นข่าวดังทางสื่อมวลชน ที่นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม อดีตดาราสาว เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง

คุก 1 เดือน ปรับ 2 หมื่น 'เต้ มงคลกิตติ์' รับสารภาพคดีข่มขู่ทนายเดชา

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายมงคลกิตติ์ หรือเต้ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นจำเลยความผิดฐานพยายามข่มขืนใจผู้อื่นโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต

'ทนายเดชา' ฟ้องกลับ 'สว.เสรี' ลั่นอย่าไปกลัวแสดงความคิดเห็น แบนธุรกิจไม่ผิดไม่ใช่คุกคาม

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โชว์เปิดเผยว่าได้ยื่นฟ้อง นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ที่ก่อนหน้านี้ออกมาแถลงข่าวว่าได้ดำเนินการฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา ทนายความชื่อ ดัง 2 คน และ ประชาชนที่แสดงความคิดเห็นโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท กระทบต่อธุรกิจของครอบครัว และเครือญาติของ ส.ว.

ศาลนัดไต่สวน 'ส.ว.เสรี' ประเดิมฟ้อง 2 ทนายดัง หมิ่นประมาท

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ เถื่อนวิไล เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 1313/2566 ข้อหา ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ละเมิด เรียกค่าเสียหาย