สายหื่นหนาวแน่ ครม. เตรียมพิจารณาแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหาข่มขืน-คุกคามทางเพศ

รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม. เตรียมพิจารณาแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหาข่มขืน-คุกคามทางเพศ 3 มาตรการ ปรับความรู้และทัศนคติของสังคม ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้างความเป็นธรรม ปรับมาตรการทางวินัย

15 ก.ค 2565 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาการละเมิดและคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่ต้องเร่งแก้ไขและบูรณาการความร่วมมือกันของหลายภาคส่วน ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ (กยส.) ซึ่งมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว โดยจากนี้จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

นางสาวรัชดา กล่าวว่า สำหรับแผนปฏิบัติการฯ แบ่งการดำเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ 1.ปรับความรู้และทัศนคติของสังคม โดยมีเป้าหมาย อาทิ สร้างกลไกการป้องกันและเฝ้าระวังความรุนแรงทางเพศและการล่วงละเมิดทางเพศ ปรับระบบความคิดที่ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา/ล่วงละเมิดทางเพศ และลดมายาคติของสังคม สร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย 2.ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้างความเป็นธรรม โดยมีเป้าหมาย อาทิ ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพ เข้าถึงบริการที่เป็นมิตรและเป็นธรรม ปรับพฤติกรรมผู้กระทำความผิดและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ และ

นางสาวรัชดา กล่าวว่า 3.ปรับมาตรการทางวินัย กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยมีเป้าหมาย อาทิ ปรับปรุงเนื้อหาของกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพผู้เสียหายในความผิดเกี่ยวกับเพศ ปรับกระบวนการยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพผู้เสียหายให้มีประสิทธิภาพ มีมาตรการให้สามารถลงโทษทางวินัยร้ายแรงแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ล่วงละเมิดทางเพศ

นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า มากไปกว่านั้น ในปี 2563 รัฐบาลได้ออก 12 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์เสนอ ประกอบด้วย มาตรการ อาทิ

1.หน่วยงานต้องมีการประกาศเจตนารมณ์เป็นลายลักษณ์อักษร โดยประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรในองค์กรรับทราบอย่างทั่วถึง2.หน่วยงานต้องมีการจัดทำแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดฯ โดยให้บุคลากรในหน่วยงานได้มีส่วนร่วม3.หน่วยงานต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ และกำหนดให้เป็นประเด็นหนึ่งในหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ 4.หน่วยงานต้องเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการล่วงละเมิดฯ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในองค์กร และ5. หน่วยงานต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียนและผู้เป็นพยาน และต้องให้การคุ้มครองผู้ร้องเรียนไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง

“รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาการละเมิดและคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมที่ฝังรากลึกมานาน ที่ผ่านมาได้ออกมาตรการและขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้และตระหนักถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วน องค์กรต่างๆต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะ 12 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานที่รัฐบาลเห็นชอบไปแล้วนั้น นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้จัดการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเคร่งครัด มีมาตรฐาน จัดการกับผู้กระทำผิดให้เข็ดหลาบ รวมถึงเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว” นางสาวรัชดา กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อึ้ง! ก้าวไกลบอกตั้ง กก.สอบ สส.หื่นมาระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อใด

ก้าวไกลตั้ง กก.สอบวินัย สส.คุกคามทางเพศทีมงาน ไม่บอกสอบเสร็จเมื่อไหร่ ผิดฐานใด แต่รายงาน กก.บห.เป็นระยะ ยันไม่ดึงเวลา แต่เพราะต้องดูอย่างรอบด้าน

ภาคเอกชนเกาหลีใต้กว่า 20 ราย สนใจร่วมลงทุน อุตสาหกรรม EV ในไทย

รองโฆษกรัฐบาล เผยความสนใจที่ภาคเอกชนเกาหลีใต้กว่า 20 ราย มีต่อการร่วมลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย สะท้อนความสำเร็จจากนโยบายรัฐบาล

'รัชดา' แจงสาเหตุ 'บิ๊กตู่' เข้าทำเนียบฯ วันสุดท้าย

รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯเข้าทำเนียบวันสุดท้าย เพื่อมารยาททางการเมืองเปิดทางทีมงานรัฐบาลใหม่เข้าเตรียมสถานที่ แต่ยังรักษาการทำงานจนกว่า ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์

3 สาวทีมโฆษกฯ น้ำตาคลอ ตื้นตันใจ ขณะเข้าพบ 'บิ๊กตู่' ขอบคุณที่สนับสนุนทำงาน

3 สาวทีมโฆษกฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ พร้อมเข้าพบ 'บิ๊กตู่' เพื่อขอบคุณในการสนับสนุนตลอดระยะเวลาการทำงาน น้ำตาคลอ ตื้นตันใจ โอบกอดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน