แฟ้มภาพ
ศาลอาญายกฟ้องหลงจู๊ สมชาย จ้างวานฆ่า หนุ่มวินจยย.รับจ้าง เบาะแสตำรวจลุยจับบ่อน ศาลชี้พยานหลักฐานอ่อน มีข้อสงสัย แต่ให้ขังระหว่างอุทธรณ์ ส่วนมือปืนคนลั่นไก สั่งประหาร รับสารภาพเหลือติดตลอดชีวิต และชดใช้เงินญาติคนตายกว่า 2 ล้าน ขณะที่ทนายยื่นประกัน ตัวหลงจู๊สมชาย 5 แสน ศาลอนุญาตให้ประกันระหว่างอุทธรณ์
10 พ.ย.2565 - ที่ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีจ้างวานฆ่าหนุ่มวิน จยย.หมายเลขดำ อ.981/2564ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊ชาย อายุ 56 ปี ชาว จ.ระยอง ผู้กว้างขวางย่านภาคตะวันออกและนายมนัส อิ่มนำ อายุ 41 ปี ชาว จ.ชลบุรี มือปืนเป็นจำเลยที่ 1-2 โดยนายสมชาย จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐาน ร่วมกันใช้ จ้างวาน ให้ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนนายมนัส จำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติตตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุสมควร
โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 15-28 ก.ค.63 นายถาวร สาระกูล และนายสุพรรณ ใหม่งาม ที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันใช้จ้างวานนายมนัส จำเลยที่ 2 กับนายนิพนธ์ ปานทอง (หลบหนี) วางแผนฆ่านายประทุม สอาดนัก อาชีพขี่วิน จยย.รับจ้าง โดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน จ้างวานเป็นเงิน 200,000 บาท นายมนัส จำเลยที่ 2 กับพวกตกลงรับงานฆ่า ต่อมาวันที่ 28 ก.ค.63 เวลากลางวัน นายมนัสกับพวกใช้รถจักร– ยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง 1 คัน มีนายนิพนธ์เป็นคนขี่ ส่วนนายมนัส จำเลยที่ 2 นั่งซ้อนท้ายสะกดรอยติดตามรถจักรยานยนต์ของนายประทุมที่กำลังขี่ไปส่งผู้โดยสารหญิงในซอยพัทยาใต้ 17 หลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นนาย มนัสใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงนายประทุม 1 นัด กระสุนถูกกะโหลกศีรษะด้านหลังทะลุออกบริเวณหัวตาขวาลูกตาฉีก เป็นเหตุให้นายประทุมถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีไป
เหตุเกิดที่ ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง และ ต.นาเกลือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เกี่ยวพันกัน
ชั้นสอบสวนและชั้นศาลนายสมชาย จำเลยที่ 1ให้การปฏิเสธโดยตลอด ส่วนนายมนัส ให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยว่านายสมชาย จำเลยที่ 1 เป็นผู้จ้างวาน ให้จำเลยที่ 2 กับพวกไปฆ่าผู้ตายหรือไม่ จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
พิพากษาว่า นายมนัสจำเลยที่3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4),371พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฯพ.ศ.2490 มาตรา 7 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงโทษประหารชีวิต ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 2 ปี ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี
สำหรับความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ไม่อาจเพิ่มโทษจำเลยที่ 2 ได้อีกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 51 ส่วนความผิดฐานฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 2 ปี 8 เดือน และ 1 ปี 4 เดือน ตามลำดับ คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(1) ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 1 ปี 4 เดือน ฐานร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 8 เดือน
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ตลอดชีวิตสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ริบอาวุธปืน ซองกระสุนปืน ปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนของกลาง ให้จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินจำนวน 2,053,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 17มิ.ย. 2564) จนกว่าจะชำระเสร็จ ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และยกคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนจำเลยที่ 1 โดยออกหมายขังระหว่างอุทธรณ์ .
ต่อมาทนายความของนายสมชาย จำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เดิม ขอปล่อยชั่วคราว
ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายสมชาย จำเลยที่ 1 ประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์คดีโดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท หลังจากนั้นนายสมชายได้เดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมชาย ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล 4 คดีทั้งคดีจ้างวานฆ่า คดีร่วมกันฟอกเงิน คดีลักลอบเปิดบ่อนการพนันฯลฯ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยนายสมชายได้รับการประกันตัวทุกคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หิ้ว 'นานา ไรบีนา' ฝากขังค้านประกันตัว!
ตำรวจสอบาวนกลางคุมตัว 'นานา ไรบีนา' ฝากขังคัดค้านการประกันตัว
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ศาลฟันหนัก! ขัง 11 คน เปิดบัญชีม้า ปั่นเหยื่อโอน 21 ล้าน โดนยาว 14-18 ปี
ศาลลงดาบจำเลยทั้ง 11 ราย คดีบัญชีม้าให้แก๊งหลอกโทรปั่นเหยื่ออ้างเป็นดีเอสไอ มองเป็นขบวนการทำร้ายสังคม-เศรษฐกิจ ย้ำต้องลงโทษแรงเพราะพฤติการณ์ร้ายแรง ไม่สนคำรับสารภาพ สั่งจำคุกตั้งแต่ 14 ถึง 18 ปี พร้อมให้คืนเงินผู้เสียหายกว่า 21 ล้านบาท
ศาลอาญาไฟเขียว อัยการขยายยื่นอุทธรณ์อีก 30 วัน คดี 'ทักษิณ' หมิ่นเบื้องสูง
ศาลอาญาพิจารณาคำร้องขอขยายอุทธรณ์ของพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา8แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์จนถึงวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เป็นเวลาประมาณ 30 วัน ที่พนักงานอัยการฯมีเวลายื่นอุทธรณ์คดีนี้ได้
'ทักษิณ' แย่แน่! 'อสส.' คนใหม่ สวนมติเดิม สั่งอุทธรณ์คดี 112
'ทักษิณ' ลำบากแล้ว! 'อัยการสูงสุด' มีความเห็นยื่นอุทธรณ์คดีหมิ่นเบื้องสูง สวนมติ คกก.คดี 112เผยคดีนอกราชอาณาจักร อำนาจ อสส.
ศาลฯ พิพากษาเเก้ จำคุก 'ณพ ณรงค์เดช-คุณหญิงกอแก้ว' 2 ปีไม่รอลงอาญา
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 807 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา จำคุก คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา ภรรยา พล.ต.อ.พจน์


