มือฆ่าโหดฝังดิน สารภาพฉุนผู้ตายเซ้าซี้ถามหาอดีตแฟน ผวาวิญญาณเฮี้ยนตามหลอก

คืบหน้า ตร.คุมตัวมือฆ่าหนุ่ม 26 ฝังดินอำพรางกลางไร่อ้อยทำแผน สารภาพโมโหผู้ตายเซ้าซี้ถามหาอดีตแฟนหลายครั้งทั้งที่ไม่ได้คบหากันแล้วแต่หลอนไปเอง เพราะมีอาการป่วยและชอบดื่มเหล้า ชกต่อยกันก่อนแต่สู้ไม่ได้จึงชักปืนยิงก่อนฝังอำพราง เผยทำพิธีสะกดวิญญาณตามยูทูปแต่ยังถูกคนตายตามหลอกหลอน ผู้การฯ รุดดูทำแผนด้วยตัวเอง ด้านแม่ยังไม่เชื่อก่อเหตุคนเดียว ยันไม่อโหสิอยากให้ประหารตายตกไปตามกัน

5 ธ.ค.2565 - พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร​ จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผู้กำกับการสืบสวน​ ตำรวจ​ภูธร​ จ.บุรีรัมย์ , พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.สืบสวน​ ตำรวจ​ภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ , พ.ต.ท.ภูวดิท ปิติภัทรชนากร รอง ผกก.สืบสวน​ ตำรวจ​ภูธรจังหวัด , พ.ต.ต.ทวิช อินทร์ประสิทธ์ สว.สภ.หนองไทร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายคนาวิน บังกระโทก หรือเต้อ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าฝังดินอำพรางศพนายธิติศักดิ์ ทูลฉลอง หรือเท่ห์ อายุ 26 ปี หมกในร่องน้ำกลางไร่อ้อยด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านเสลาโสรง ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง ซึ่งพบศพเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

โดยได้นำของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ประกอบด้วยอาวุธปืน พร้อมกระสุน จอบ ไฟฉายส่องสว่างแบบคาดศรีษะ และมีดปลายแหลม มาประกอบการแถลงข่าวด้วย พร้อมทั้งได้ให้พ่อแม่ของผู้ตายมาร่วมรับฟังการแถลงข่าว และซักถามข้อสงสัยต่างๆ ด้วย

หลังจากแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวนายคนาวิน หรือเต้อ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุบริเวณไร่อ้อยด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านเสลาโสรง โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำแผนด้วยตัวเอง ซึ่งจุดแรกได้นำผู้ต้องหาชี้จุดที่กำลังยืนดักหนูนา แล้วนายเท่ห์ ผู้ต้องหามาถามหาอดีตแฟนตัวเอง จุดที่ 2 คือบริเวณริมขอบสระที่ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะชกต่อยกันแล้วผลักผู้ตายล้มข้างขอบสระก่อนใช้อาวุธปืนยิงพอเสียชีวิตก็ใช้เชือกรัดคอ แขน และข้อเท้าผูกติดกับขอนไม้เพื่อถ่วงน้ำแต่ไม่จม จุดที่ 3 คือจุดที่ลากศพผู้ตายไปฝังในร่องน้ำกลางป่าอ้อย พร้อมทำพิธีสะกดวิญญาณ และจุดที่ 4 คือจุดที่วางเหรียญเพื่อสะกดวิญญาณ ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้ความร่วมมือในการทำแผนชี้จุดเป็นอย่างดี ท่ามกลางชาวบ้านและญาติที่มามุงดู

ขณะที่นางลิ้ม ทูลฉลอง อายุ 58 ปี แม่ผู้ตาย ซึ่งมาดูการทำแผนด้วยก็ร้องไห้ พร้อมบอกว่า ไม่เชื่อว่านายเต้อ จะก่อเหตุคนเดียว เพราะลูกชายเป็นคนรูปร่างใหญ่ จึงคิดว่าน่าจะมีคนอื่นร่วมก่อเหตุฆาตกรรมและอำพรางศพลูกชายด้วย อยากให้ติดตามผู้ที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคน ส่วนตัวไม่ขออโหสิกรรมให้ผู้ต้องหาเพราะลงมือฆ่าลูกชายอย่างโหดเหี้ยม อยากให้ลงโทษสถานหนักเป็นไปได้อยากให้ประหารชีวิตให้ตายตกตามกันไป

จากการสอบปากคำนายคนา หรือเต้อ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินมาจากกระท่อมห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 260 เมตร เพื่อไปดักหนูนาที่ริมสระน้ำใกล้จุดเกิดเหตุที่พบศพ ขณะกำลังใช้ไฟส่องสว่างแบบไฟฉายคาดหัวเพื่อส่องหาหนู ไม่นานนายเท่ห์ ผู้ตายได้เดินมาหา แล้วถามว่าเห็น น.ส.โบว์ ซึ่งเป็นอดีตแฟนที่นายเท่ห์เคยคบหาหรือไม่ นายเต้อก็บอกว่าไม่เห็น จากนั้นนายเท่ห์ ขอบุหรี่ซึ่งเป็นแบบยาเส้นจากนายเต้อ 2 มวนพอนายเท่ห์สูบหมด ก็ยังถามซ้ำอีกว่าเห็น น.ส.โบว์ มั้ย นายเต้อ ผู้ต้องหาจึงเกิดความนำคาญเนื่องจากผู้ตายมีอการหลอนเนื่องจากเคยรักษาอาการทางประสาทและชอบดื่มสุราประจำ จึงคิดไปเองว่าตัวเองยังคบหากับอดีตแฟนสาว จึงมาถามหาอดีตแฟนสาวกับนายเต้อ และนายเทห์ ยังแสดงอาการโมโหและจะเข้าทำร้ายนานเต้อ จึงใช้มือปัดป้อง จนเกิดเหตุชกต่อยกันชุลมุนบริเวณขอบสระ แล้วนายเต้อได้ผลักนานเท่ห์ เสียหลักล้มเพราะเป็นทางลาดชัน ด้วยอารมณ์โมโหประกอบกับนายเท่ห์ รูปร่างใหญ่กว่าคงสู้ไม่ได้ นายเต้อ จึงไปหยิบปืนพกสั้นจากกระเป๋าสะพายที่แขวนไว้บนบนต้นกล้วยแล้วยิงใส่นายเท่ห์ 1 นัดแต่ไม่รู้ว่าโดนจุดไหนแล้วล้มลงนอนแน่นิ่ง ด้วยความตกใจและกลัวความผิด จึงคิดอำพรางศพเพื่อไม่ให้คนเห็น จากนั้นได้เดินทางกลับไปที่กระท่อมเอาเชือกไนล่อนสีเขียวที่คอกวัว แล้วใช้เชือกมัดคอ มือข้อเท้าของผู้ตายเพื่อผูกติดกับขอนไม้บริเวณขอบสระเพื่อหวังจะถ่วงน้ำอำพราง แต่เมื่อผลักลงน้ำแล้วศพไม่จม จึงเปลี่ยนใจแกะเขือกออกแล้วลากศพไปที่ร่องน้ำห่างจากสระ 10 เมตร นำศพลงในร่องน้ำในลักษณะคว่ำหน้าแล้วใช้จอบขุดดินในร่องออกเพื่อนำร่างลงไป

จากนั้นก็ทำพิธีสะกดวิญญาณคนตายตามความเชื่อที่เคยดูจากยูทูป โดนเอาหญ้าคาที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมามัดรวบแล้วผูกศรีษะคนตาย ทั้งผูกที่แขนข้างซ้ายและข้อเท้าซ้ายด้วย แล้วท่องนโม 3 จบแล้วกล่าวคำสะกดวิญญาณ จากนั้นก็เอาดินฝังกลบร่างผู้ตาย จากนั้นได้วางเหรียญบาท 2 เหรียญไว้ที่ข้างกอกล้วยใกล้กับศพตามความเชื่อไม่ให้ผุดไปเกิด แต่วิญญาณคนตายก็ยังตามหลอกหลอน

จากนั้นวันที่ 25 พ.ย.ได้นำเสื้อผ้าที่สวมใส่วันเกิดเหตุไปเผาทำลายหลักฐาน และเอาปืนที่ใช้ก่อเหตุห่อใส่ถุงพร้อมกับกระสุนปืนไปทิ้งในสระน้ำชลประทาน หลังทำแผนได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่าง 'จ่าเริง' วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย ถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์

ครอบครัว ญาติพี่น้องรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง  คลังประโคน วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย กลับสู่บ้านเกิด ในหลวง–พระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เตรียมพระราชทานเพลิงศพ 24 ธ.ค.นี้ ณ วัด ห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่เผย สุดเศร้าหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว  หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีก

ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน

แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้

ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว

แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่