สังหารโหดหนุ่มนายหน้าชาวเมียนมา แทงกระหน่ำตายคาห้องพัก

สะเทือนขวัญ  สังหารโหดหนุ่มนายหน้าชาวเมียนมา ถูกมัดมือไพล่หลังกระหน่ำแทงตายคาคอนโด ย่านบางปู ตำรวจเร่งสางปม พร้อมเร่งสอบปากคำภรรยาผู้ตาย

12 ก.พ.2566 – เมื่อเวลา 09.30 น  ร.ต.อ.อำนาจ ตะเคียนราช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีชายถูกฆ่าตาย ภายในคอนโดบางปูนคร ตึก วี 5 ชั้น 2 ห้องที่ 231 ซอยเทศบาลบางปู 69/3 (บางปูนคร) ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 5 ชั้น ที่ชั้น 2 ภายในห้อง 231 พบร่าง นาย โบ โม เฮน อายุ  23 ปี ชาวเมียนมานอนคว่ำหน้าอยู่ที่มุมห้อง ในสภาพถูกมัดมือไพล่หลัง มัดคอด้วยเสื้อใน มีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่บริเวณกลางอก และหลัง เลือดไหลนองพื้นห้อง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ส่วนสภาพภายในห้องพบมีร่องรอยของการต่อสู้ และ ข้าวของถูกรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สมุทรปราการ ลงพื้นที่เก็บวัตถุพยานในจุดเกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ ชูวงษ์ อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย  ระบุว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.30 มีคนเดินผ่านบริเวณหน้าห้อง 231 เห็นประตูแง้มอยู่มองเข้าไปในห้องเห็นมีคนนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด จึงลงมาแจ้งให้ตนเองขึ้นไปตรวจสอบ โดยที่ห้องเช่านี้ผู้ตายอยู่กับเพื่อนหลายคน มาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งคนตายเป็นคนจัดหาแรงงานชาวเมียนมาให้โรงงานในละแวกนี้ จากการตรวจสอบพบว่าก่อนพบศพ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมามีคนได้ยินเสียงคนทะเลาะวิวาทกันภายในห้อง นอกจากนี้พบว่าหลังเกิดเหตุ ลูกพี่ลูกน้องของนายโบ ที่เป็นญาติกัน ได้หายตัวไป โดยภายในห้องนี้มักจะมีกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ทยอยเข้าออกอยู่เป็นประจำ

ด้าน นายเดวิช เฮื่อ อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา เพื่อนผู้ตาย  ระบุว่า ผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีฐานะ เนื่องจากจะใส่ทองเป็นประจำ ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ซึ่งคนตายเป็นคนหาแรงงานให้โรงงาน แต่ตอนที่พบศพนั้นไม่พบทองที่ผู้ตายสวมใส่ โดยเมื่อคืนตอน ตี 3 ร้านค้าบริเวณหน้าตึก ได้ยินเสียงคล้ายคนวิ่งออกไปข้างนอก ประมาณ 3- 4 คน แต่ก็ไม่ได้สนใจจนมาพบศพดังกล่าว

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมอบหมายให้ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ไล่เช็กกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และพยานแวดล้อมคนที่พักอยู่ในอาคาร เพื่อหาเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นไปในเรื่องขัดแย้งเรื่องงาน เนื่องจากผู้ตายมีอาชีพนายหน้าจัดหางาน และจะมีชาวต่างด้าววนเวียนเข้ามาที่ห้องอยู่ประจำ ส่วนประเด็นเรื่องฆ่าชิงทรัพย์นั้นต้องรอสอบปากคำภรรยาของผู้ตายอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีทรัพย์สินมีค่าอะไรบ้างและอะไรหายไป ผู้ก่อเหตุคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร. สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุระเบิดอุ้มผาง

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีเหตุระเบิดภายในงานกาชาด อะเมซิ่งแผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ประจำปี 2567 นั้น ได้รับรายงานจาก สภ.อุ้มผาง จ.ตาก

เปิดพฤติการณ์สังหารโหด 'สจ.โต้ง' ชนวนเหตุเลือกตั้ง อบจ. ศาลไม่ให้ประกัน

ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.ปราจีนบุรี ได้นำตัวนายธนศรัณย์ เตชะธนัตถโชติ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ) มือยิง ,นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี ( ตูน ) มือยิง,

ตร. รับพิจารณาโอนคดีสังหาร 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบ สั่งสอบตำรวจลูกสมุนผู้มีอิทธิพล

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยกรณี น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่

เมีย สจ.โต้ง ร้องโอนคดีให้กองปราบ ยังไม่เผาศพรอความยุติธรรม

น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน (สจ.จอย) ภรรยา สจ.โต้ง ทนายเอี้ยง” นิติศักดิ์ มีขวด และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์อเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช

'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด

'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย