17 ก.พ. 2566 – พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส. 1 บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมตัว นายบุญฤทธิ์ หรือตั้ม โชคสิริ อายุ 38 ปี ตามหมายจับในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้า หรือจำหน้าได้ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักพฤกษาเฮ้าส์ ห้องพักเลขที่ 106 ซอยเคหะร่มเกล้า 20 แขวงสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯพร้อมของกลาง คีมตัดเหล็ก ค้อนไขควง ประแจ อุปกรณ์การงัดแงะ ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่แจ้งหายไว้หลายพื้นที่
สืบเนื่องจากปัญหาการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมิจฉาชีพที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์สินของชาวบ้านในปัจจุบัน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้วางแนวทางการป้องกันและปราบปราม พร้อมอีกทั้งได้ให้ ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ของ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. กับพวกเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้สืบสวนจนพบกลุ่มมิจฉาชีพตระเวนลักรถจักรยานยนต์ จนทราบแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้จากกล้องวงจรปิดคือ ผู้ก่อเหตุจะออกตระเวนหารถจักรยานยนต์ที่มีความนิยมในตลาดปัจจุบัน ตามหอพักและแฟลตตามชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ โดยมีวิธีการลักทรัพย์คือจะทำการถีบคอรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมทำการต่อสายตรง และขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไป
ก่อนที่จะนำรถจักรยานยนต์ไปขายให้กลุ่มผู้ลักลอบค้าขายรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย เพื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงพื้นที่สอบสวนแกะรอยกว่า 2 เดือน จนสามารถยืนยันตัวผู้กระทำผิด และได้มีการออกหมายจับ นายบุญฤทธิ์ โชคสิริ หรือ “ตั้ม ร่มเกล้า” ผู้ก่อเหตุ กระทั่งทราบว่า นายบุญฤทธิ์ หรือ “ตั้ม ร่มเกล้า” กบดานอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมไว้ได้
นายบุญฤทธิ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ไม่มีงานทำและติดการพนันออนไลน์ประเภทบาคาร่า อีกทั้งยังเพิ่งออกจากคุกเมื่อปลายปี พ.ศ.2562 ในข้อหาลักจักรยานยนต์ สภ.พัทยา ชลบุรี ทำให้หางานทำได้ยาก จึงได้ใช้วิชาฝีมือในเรื่องของการซ่อมรถจักรยานยนต์ไปในทางที่ผิด ตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ตามชุมชนต่างๆ โดยจะเลือกเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่กำลังเป็นที่นิยม และเป็นที่ต้องการในตลาด เนื่องจากสามารถขายได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังจากลักทรัพย์เสร็จแล้ว จะติดต่อนายหน้าซึ่งรับซื้อรถมือสองที่ผิดกฎหมายอีกทอดหนึ่ง ให้ไปรับรถตามจุดต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ โดยจะได้ค่าตอบแทนต่อคันประมาณ 12,000 บาท โดยยอมรับว่าตนก่อเหตุไปแล้วมากกว่า 20 คัน
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล จึงได้นำตัว นายบุญฤทธิ์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าเสี่ยง! ‘ก.พ.ค.ตร.’ เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งตำรวจ ยืนตัวตรงไม่รับเด็กฝาก
มีโอกาสรับฟังข้อสังเกตจาก ก.พ.ค.ตร. จากประสบการณ์การวินิจฉัยสำนวนที่ผ่านมาบ้างก็จะดี เพราะชีวิตบั่นปลายการรับราชการของท่านจะได้ไม่เสี่ยงภัยกับการโดนคดีวินัยและอาญา
'อดีตนายกฯชวน' ไล่บี้ดูแลสนามบินตรังโดนทิ้งงาน ปล่อยโจรขโมยถึง 29 ครั้ง
'อดีตนายกฯชวน' ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายสนามบินตรัง หลังผู้รับเหมาทิ้งงาน คนร้ายสบช่องลักสายไฟฟ้า-อุปกรณ์ต่างๆ สารภาพขโมยถึง 29 ครั้ง
‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา
พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75 ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา
หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน
พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว
'นครบาล' ทลาย 'ซาลอนเจ็ก' บริการครบวงจรย่านอาร์ซีเอ
สืบนครบาลทลายซาลอนเถื่อนชาวจีนบริการครบวงจร หมอเก๊ฉีดยาเสริมความงาม
คุมตัวทำแผน แก๊งแขกขาว ใช้กลอุบายลักทรัพย์ร้านค้าหลายจังหวัด
พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.ไชยา สระโสม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ , พนักงานสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และชุดสายตรวจ ได้นำตัวชายชาวปากีสถาน