18 ก.พ.2566 - นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ตม. โดดเด่น จีนเทา แปลงวีซ่า ข้อมูลชุด “หยู ซินฉี” ที่เก็บไว้ชุดสุดท้าย ถูกส่งต่อให้ใช้อภิปรายในสภา ได้ผลตามคาดการณ์ไว้ เพราะ “ดาวสภา” ส.ส. โรม แสดงการปกป้องสถาบันจากการแอบอ้างของจีนเทา ฉายา “ดร.ฉี” ได้ดีเยี่ยม
ทันทีที่ผมพูดเปรยช่วงก่อนหน้านี้ มันขนสมาคมหนี ส่งคนไปดูอยู่เสนา ป้ายหายทันที ผมแกะรอยจึงพบว่าไปอยู่ที่หมูบ้านที่ส่งให้ตำรวจไปจับ โดนไป 3 ข้อหา พรบ.คอม, เรี่ยไร และตั้งสมาคมเถื่อน
ไอ้ฉี เป็นจีนเทาอีกจำพวก ที่สร้างเรื่องราวของตัวเองว่าเป็นผู้สร้างสัมพันธ์จีนไทย เก่งอย่างโน้นอย่างนี้ บรรยายสรรพคุณในเว็บไซต์ภาษาจีน
ข้อหาที่ 4 บอกได้เลยว่า บิ๊กโจ๊กต้องตั้ง “ม.112” อันนี้ชัดเจนกว่าไปตั้งให้เด็กนักศึกษา เพราะเอาตัวเองไปใกล้ชิด และเขียนไว้ว่าได้มอบของขวัญให้ผู้ที่คนไทยรักเทิดทูน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เหตุเกิดที่งาน “เมาริดกลาง” กรุงเทพฯ ต่างหาก
ไอ้ฉี ใช้ “วีซ่าท่องเที่ยว” แล้วมาแปลงเป็น “วีซ่าเกษียณ” ที่ชลบุรี ทั้งๆ ที่ตัวอยู่กรุงเทพแท้ๆ เหมือนกับที่ “จีนเทา” รู้ว่าต้องไปทำวีซ่า นักศึกษา อาสาสมัคร แถวอีสาน
ส่วนวีซ่าเกษียณทำแถวภาคกลาง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา
บรรดา “จีนเทา” รู้ได้อย่างไร? ก็มาจากการฮั้วกันของ เอเย่นต์ กับ ตม. เพราะค่าหัวในการทำมีการจัดสรรทั่วถึงรายหนึ่ง ราคา 200,000 บาท ในราคานี้รวมถึงการไม่ต้องไปพบ ตม. ด้วยตัวเอง และเงินขั้นต่ำที่ระบุไว้ว่าต้องมีหากจะมาทำวีซ่าประเภทเกษียณอายุ แสดงในบัญชี 800,000 บาท ก็โกหกทั้งเพ เพราะเป็นการบริการของเอเย่นต์ เอาเงิน 800,000 บาท เข้าบัญชีไว้ในวันแสดงให้ ตม. ดู
เสร็จแล้วถอนออกจากบัญชีทันที แค่ให้เห็นชื่อผู้ขอวีซ่ากับสมุดบัญชีมีเงิน 800,000 บาท ไม่ได้ดูเลยว่าฝากมานานหรือยัง เรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้ ทั้ง ตม. อีสานที่ผมเคยแฉไปช่วงตู้ห่าว ฉาวโฉ่มาถึง “ไอ้ฉี” แอบอ้างเอาสถาบันมาหากินกับคนจีน
ทุกคนล้วนผ่านกระบวนการ “โดดเด่น” ของ ตม. ทั้งสิ้น ทำให้จีนเทาพาเหรดกันเข้าเมืองไทย ด้วยผลประโยชน์ของ ตม. แต่เสียหายกับประเทศ แปลงวีซ่าได้ตามใจชอบ อยู่กรุงเทพไปทำวีซ่านักเรียนที่ สกลนคร ขอนแก่น ทำท่าเอาขนมให้เด็กกิน ก็ได้วีซ่าอาสาสมัคร ทำมาหากินแอบอ้างสถาบันก็ขอวีซ่าเกษียณ เงินไม่มีจริง แค่จ่าย 200,000 ก็เรียบร้อยโรงเรียนจีนเทา
ประเทศไหนเขาทำแบบนี้กันบ้าง? และไม่เคยพบเห็นประเทศอื่นว่า ตม. ไปขึ้นกับตำรวจเพราะเป็นงานความมั่นคง
ตำรวจงานมากอยู่แล้ว โลกเปลี่ยนไป แต่ก่อน หลายอย่างขึ้นอยู่กับตำรวจจนงานท่วมหัว
แนะนำว่า ตม. ต้องไปขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย
เพราะหากปล่อยแบบนี้ไป ได้ จีนเทา อินเดียเทา รัสเซียเทา สารพัดเทาเข้ามาประเทศไทย
ตม. ไทย เปิดประตูอ้าแขนรับสารพัดต่างชาติเทา แต่บ้านเมืองจะมีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติยังไงไม่สน เพราะปล่อยเข้าแล้วเป็นอันหมดเรื่อง
แถมต่อให้อีกต่างหากด้วยวิธีการพิสดารในราคา 200,000 บาท แบ่งสรรปันส่วนกันลงตัวตลอด จนต่างชาติเทาๆ ทั้งหลายแผลงฤทธิ์อย่างที่ผมเอามาแฉ
รัฐบาลช่วยยกเครื่อง ตม. ออกจากตำรวจทีเถอะ เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว ทุกวันนี้ รายได้ ตม. โดดเด่นเสียเหลือเกิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัยการคดีพิเศษ เลื่อนฟังคำสั่ง 'นอท กองสลากพลัส' ฟอกเงินหวย รอสอบประเด็นสำคัญ
พนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีพิเศษนัดฟังคำสั่งคดีที่ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำสำนวนคดีพิเศษที่ 288/2565 จำนวน 34 แฟ้ม เอกสารจำนวน 15,405 แผ่น
'ชลน่าน' ปัดดีลลับทิ้งก้าวไกล เผย 'เศรษฐา-อนุทิน' พบกันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ภารกิจเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีปรากฎภาพนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อยู่ในเฟรมเดียวกันที่สนามคิงพาวเวอร์ สเตเดียม
บุกจับ 'นักข่าวสาว' อ้างชื่อบิ๊กโจ๊ก รีดเงินเจ้าแม่ทุนจีนเทา 33 ล้าน ช่วยล้มคดีอุ้มบุญ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำหรับคดีของ “นวพร” อายุ 53 ปี เจ้าแม่ แก๊งอุ้มบุญ ให้ทุนจีนสีเทาที่ถูกตำรวจจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่าง เพิกถอนสัญชาติ ซึ่งจากการสอบปากคำ “นวพร”
'ประสิทธิ์ชัย' ซัดก้าวไกลนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด กลับกลอกโกหกสังคม ฮึ่มเจอม็อบแน่
นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ประกาศจุดยืนของเครือข่ายฯ หลังจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกลเสร็จสิ้นว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนำกัญชาไปเป็นยาเสพติดนั้น
นักโทษเยาวชนเยอรมัน 'อ่านหนังสือ' ในคุกมากกว่าเด็กวัยเดียวกันที่ข้างนอก
เยาวชนในเยอรมนีมักใช้ชีวิตเสรี จนบางครั้งไม่ค่อยสนใจกฎระเบียบ โดยมียาเสพติดและความรุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้เยาวช
ชูวิทย์ ฝากเตือน ก้าวไกล อย่าหลงไปเล่นการเมืองยุค 2G แนะเสนอชื่อ 'พิธา' นั่งนายกไปเรื่อยๆ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 2 เสียง แลก 14 ล้านเสียง