ตำรวจสอบสวนกลาง แนะ 10 วิธีสังเกตข่าวปลอม

27 ก.พ.2566-เพจตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) โพสต์ข้อความเรื่อง “10 วิธีสังเกต ข่าวปลอม” ระบุว่า  ปัจจุบันการรับและส่งต่อข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ เป็นช่องทางที่มีความสะดวกและรวดเร็ว และด้วยความสะดวกรวดเร็วนี้ จึงทำให้มีมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีใช้โอกาสนี้ ส่งข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน ไปสู่ประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายตามมาภายหลัง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอแนะนำ 10 วิธีสังเกต “ข่าวปลอม” ดังนี้ 1. ข่าวปลอมมักมีข้อความพาดหัวที่ดึงดูดความสนใจ โดยใช้ตัวหนังสือเด่นๆ ใช้ข้อความที่น่าตื่นตระหนกฟังดูไม่น่าเชื่อถือ 2. สังเกต URL ให้ดี โดยเว็บไซต์ข่าวปลอมมักจะเปลี่ยนแปลง URL เพียงเล็กน้อย เพื่อเลียนแบบแหล่งข่าวจริง 3. สังเกตแหล่งที่มา ตรวจดูให้แน่ใจว่าเรื่องราวเขียนขึ้นโดยแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ หากเรื่องราวมาจากองค์กรที่ชื่อไม่คุ้นเคย ให้ตรวจสอบที่ส่วน “เกี่ยวกับ” เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม 4. สังเกตการจัดรูปแบบที่ไม่ปกติ เว็บไซต์ข่าวปลอมจำนวนมากมักมีการสะกดผิดหรือวางเลย์เอาต์ไม่ปกติ 5. สังเกตรูปภาพ ข่าวปลอมมักมีรูปภาพหรือวิดีโอที่ไม่เป็นความจริง บางครั้งรูปภาพอาจเป็นรูปจริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับบริบทของเรื่องราว

6. ตรวจสอบวันที่ ข่าวปลอมอาจมีลำดับเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุผล หรือมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ของเหตุการณ์ 7. ตรวจสอบหลักฐาน โดยตรวจสอบแหล่งข้อมูลของผู้เขียนเพื่อยืนยันว่าถูกต้อง หากไม่มีหลักฐานหรือความน่าเชื่อถือของผู้เชี่ยวชาญ อาจระบุได้ว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม 8. ดูรายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ว่ามีข่าวแบบเดียวกันหรือไม่ 9. เรื่องราวนี้เป็นเรื่องตลกหรือไม่ บางครั้งอาจแยกข่าวปลอมจากเรื่องตลกหรือการล้อเลียนได้ยาก ตรวจสอบดูว่าแหล่งที่มาของข่าวขึ้นชื่อเรื่องการล้อเลียนหรือไม่ และรายละเอียดตลอดจนน้ำเสียงของข่าวฟังดูเป็นเรื่องตลกหรือไม่ 10. เรื่องราวบางเรื่องอาจตั้งใจเป็นข่าวปลอม ใช้วิจารณญาณ: เพื่อคิดวิเคราะห์เรื่องราวที่เราอ่าน และแชร์เฉพาะข่าวที่เราแน่ใจว่าเชื่อถือได้เท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ผลิตข่าวปลอม บิดเบือน และนำเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟไหม้โรงงานยางพาราขนาดใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จนท.เร่งควบคุมเพลิง

6 พ.ค.2567-เกิดเหตุในโรงงานยางพารายูนิรับเบอร์ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ไฟไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อปท.ในพื้นที่ ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องระดมรถดับเพลิงจากใกล้เคียงรวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าพยายามให้การช่วยเหลือเข้าดับเพลิงอย่างเร่งด่วน ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน ผกก.สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช นำกำลัง ตำรวจเข้าตรวจสอบและอำนวยการในการบรรเทาคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารอบยางพาราด้วยความร้อนมีอยู่ด้วยกัน 4 ห้อง มีรายงานว่า มียางพาราอยู่ภายในหลายสิบตัน ห้องแรกถูกเพลิงไม้อย่างรุนแรงและกำลังลุกลามไปยังห้องถัดไป ซึ่งต้องระดมรถดับเพลิงจากใกล้เคียงเข้าเสริมเนื่องจากรถไม่เพียงและน้ำไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องประสานกับแหล่งน้ำจากบริษัทผาทอง อยู่ใกล้เคียงเป็นแหล่งน้ำเติมสำหรับการดับเพลิงครั้งนี้

เด้ง สารวัตรหญิง ตม. หลัง 'ทนายตั้ม' แฉ!

พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) มีหนังสือคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3

'บิ๊กต่าย' ชี้ตำรวจไซเบอร์ยังต้องทำงานหนัก แม้ภาพรวมจับเว็บพนันได้เยอะขึ้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ก.ตร. ไฟเขียวแต่งตั้ง 43 นายพลสีกากี 'สุรพงษ์ ชัยจันทร์' ผงาดที่ปรึกษาพิเศษตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ