15 มิ.ย.2566 - ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ว่า จากเดิมที่จะมีการสรุปสำนวนคดีในช่วงสัปดาห์นี้ หรือ วันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. ได้มีความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากภายหลังจากที่ได้นำสำนวนคดีไปหารือกับอธิบดีอัยการถึงสองครั้ง ก็ให้ความเห็นว่าสำนวนมีความสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานได้มีลงความเห็นว่าจะขอเลื่อนการสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนของเส้นทางการเงิน พบความเชื่อมโยงว่ามีบุคคลใกล้ชิดแอมมีธุรกรรมการรับ-โอนเงินระหว่างกัน ทุกๆครั้งที่มีการตาย เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของคนนี้ โดยเป็นการโอนเงินในห้วงระหว่างศพคดีกลางๆ ไม่ใช่การโอนเงินในช่วงศพคดีแรกๆ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. จะเรียกบุคคล 1 รายแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น เป็นผู้สนับสนุน เป็นบุคคลที่รู้ทั้งหมด บ้างอยู่ในเหตุการณ์การตายด้วย โดยพนักงานสอบสวนพบว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับแอม จำนวน 4-5 คดี จากทั้งหมด 15 คดี ซึ่งยิ่งเวลาเหลือมาก เรายิ่งไล่ได้มากขึ้น เส้นทางเงินทั้งหมด บัญชีธนาคารกว่า 400 บัญชี เราก็ได้มา และมีการนำมาวิเคราะห์ความเชื่อมโยงทั้งหมด ดังนั้น ในวันจันทร์ทุกคนจะทราบว่าบุคคลใกล้ชิดแอมรายนี้คือใคร แต่ตอนนี้ขอสงวนไว้เป็นในส่วนของสำนวนคดีก่อน
ภายหลังเรียกบุคคลใกล้ชิดแอมมาแจ้งข้อหาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเราจะมีการสรุปสำนวนในผัดฝากที่ 4 ซึ่งปกติพนักงานอัยการจะมีเวลาถึง 3 ฝาก ส่วนผู้ใกล้ชิดมากๆอีกคนของแอม ทนายพัช เราแจ้งข้อหาได้เพียงเท่าเดิม เพราะจากการรวบรวมพยานหลักฐานนั้น ไม่ไปถึงว่าบุคคลนี้มีส่วนรู้เห็นฐานร่วมกันฆ่าแต่อย่างใด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนมีการแจ้งครบทุกข้อหาทุกคดีกับแอม ดังนั้น ไม่กังวลใจ เพราะเพียงคดีเดียวก็ประหารชีวิตแล้ว ยกเว้นอย่างเดียว คือ หากผู้ต้องหารับสารภาพในชั้นศาล โทษก็จะเหลือเพียงโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน ซึ่งผู้ต้องหาก็สามารถใช้สิทธิต่อสู้ได้ อีกทั้งคดีแอมทั้งหมดล้วนเป็นคดีซ้ำๆกัน ต่างแค่ต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งในจำนวน 15 คดี เมื่อคูณ 7 ข้อหา ก็เท่ากับ 80 ข้อหาที่แอมถูกแจ้งไป แต่โทษสูงสุดนั้น หากให้การปฏิเสธก็ประหารชีวิต แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเธอ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาคำสั่งคดี ก็ถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่คดีของแอมถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ และเป็นคดีฆาตรกรต่อเนื่อง ทั่วโลกให้ความสนใจ ถ้าจับแอมไม่ได้ก็คงมีศพที่ 15-17 ถัดๆไป
“การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับบุคคลนั้น หากเป็นคนที่เคยอยู่ในสำนวนเดิม เราไม่จำเป็นต้องออกหมายจับ แต่สามารถเรียกมาแจ้งข้อหาได้ ทั้งนี้ ในการแถลงปิดคดีแอม ไซยาไนด์ จะเป็น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. รับหน้าที่แถลงปิดคดีต่อไป” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กโจ๊ก’ เล็งลงสมัคร สว. เสียงแข็งไม่ได้สั่งปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงาน
มีประชาชนหลายคนอยากให้ตัวเองลงสมัครเป็นผู้แทนประชาชน ซึ่งตนขอดูรายละเอียดก่อนเพราะช่วงนี้ก็ว่าง
'บิ๊กโจ๊ก' ขาลง! ทนายเเอมไซยาไนด์ ร้องผิด พรบ.อุ้มหายฯ
ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ ทนายความของ นางสาวสรารัตน์
'โจ๊ก' ยื่นอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ปูดแผนผังแก๊ง 4x100 สยบปีกพระพรหม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.ตร.) กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ร
'โจ๊ก' เดือดรายวัน! ถ้าอยากเป็นผบ.ตร. บอกกันตรงๆ ยอมให้ก็ได้ เล่นแบบนี้จะติดคุกเสียเอง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.เข้ายื่นหนังสือเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนเว็บพนันออนไลน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถตรวจยึดหรืออายัดทรัพย์ใดๆได้
'เศรษฐา' ยืนยันไม่มีการกดดันฝ่ายใด หลัง 'บิ๊กโจ๊ก' ถอนเรื่องเอาผิดแต่งตั้งผบ.ตร.
จากกรณีที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาเปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือถอนเรื่องที่ยื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน
'บิ๊กโจ๊ก' ถอย! ดอดยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด 'เศรษฐา' ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตั้งผบ.ตร.
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่23เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน