ผอ.ศจร.ตร. เผยภาพรวมการเดินทางช่วงหยุดยาว 6 วัน ถนนหลายสายปริมาณมาก เกิดอุบัติเหตุวันแรกเสียชีวิต 22 ราย ยอดจับกุมเมาแล้วขับ 157 ราย เตือนประชาชนเมาไม่ขับ ขับขี่อย่าประมาท หมั่นตรวจสอบความพร้อมก่อนเดินทาง
29 ก.ค.2566 - พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการกำชับให้ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่พี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจรเดินทาง ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง รวม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. - 2 ส.ค.66
โดยในวันแรก (28 ก.ค.66) มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา และบางส่วนเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่น สภาพการจราจรโดยรวมบนถนนสายหลักในหลายพื้นที่ติดขัดเป็นบางช่วง ทั้งนี้ ข้อมูลผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ประจำวันที่ 28 ก.ค.66 พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1,871 ราย และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 22 ราย โดยสาเหตุหลักนั้น เกิดมาจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด , หลับใน ,ขับรถตามคันหน้าในระยะประชิด , เปลี่ยนเลน, เลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบความพร้อมของร่างกาย สภาพรถและตรวจสอบเส้นทาง และขอให้มีสติ ขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ในบริเวณที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือฝ่าฝืนกฎหมาย และทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น โดยในวันที่ 28 ก.ค.66 มีผลการจับกุมเมาแล้วขับแล้ว จำนวน 157 ราย
ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศจร.ตร. กล่าวย้ำว่า ขอประชาสัมพันธ์เตือนพี่น้องประชาชน การขับขี่รถในขณะเมาสุรา เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ โดยหากบุคคลทั่วไปมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และสำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว / ไม่ตรงประเภท หรือไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่ามีความผิดเมาแล้วขับ หรือหากปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถือว่าเท่ากับ“เมาแล้วขับ” และจะมีการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ ในกรณีดังนี้
1.ทำผิดครั้งแรก อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 - 10,000 บาท
2.ทำผิดซ้ำข้อหา "เมาแล้วขับ" ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 - 100,000 บาท โดยศาลจะลงโทษจำคุก และปรับด้วย พร้อมถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
โดยหากเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนสามารถสอบถาม แจ้งขอความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุขัดข้องด้านการจราจร ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่
โทร. 191 จราจรทุก สน./สภ.
โทร. 1197 สายด่วนตำรวจจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
โทร. 1193 ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ
ในห้วงหยุดยาวนี้ ขอให้ประชาชนทุกท่านขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เดินทางท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ด้วยความห่วงใยจาก ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หัวลากม้าเหล็กเบรกไม่ทัน ชนโครมรถซาเล้ง 3 พี่น้องเมียนมา ตาย 1 สาหัส 2
พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ บัวโพธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลท่าล้อว่าเกิดอุบัติเหตุหัวรถจักรขบวนรถไฟสายธนบุรี-น้ำตกไทรโยค
คนไทยดับ 2 ราย อุบัติเหตุรถบัสนำเที่ยวในตุรกี สถานทูตส่งจนท.ดูแลคนเจ็บในรพ.
นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุการณ์รถบัสนำเที่ยวที่มีคนชาวไทย 26 คนโดยสาร ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำในประเทศตุรกี ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี รายงานว่ามีรถโดยสารนำเที่ยวที่มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยว 26 คน
รถคณะสิงโตยางแตก ดับ 3 สาหัส 6 ขณะเดินทางไปแสดงที่ขอนแก่น
ร.ต.อ.นราธิป ศีรษะนาราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.พล ได้ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบนถนนมิตรภาพ ฝั่งมุ่งหน้าไป อ.บ้านไผ่ ใกล้กับด่านชั่งน้ำหนักเมืองพล ต.เก่างิ้ว อ.พล จังหวัดขอนแก่น
'เจมส์ อาทิตย์' เกิดอุบัติเหตุ รอดตายหวุดหวิด
ทำเอาแฟนคลับช็อกไปตามๆ กัน เมื่อทราบข่าว เจมส์ อาทิตย์ นักร้องลูกทุ่งดัง เจ้าของผลงานเพลง ฮักจาง , ให้ความเจ็บนำทาง และเป็นพระเอกดาวรุ่งหมอลำคณะเสียงวิหค นกพงศกร ประสบอุบัติเหตุ ขับรถตกข้างทางเพราะมีอาการหลับใน
'ชลน่าน' ชี้ 'ว่าน ธนกฤต' ผิดกฎหมายแม้ไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ หลังขับรถชน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลที่จะขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ จากปิดตี 2 เป็น ตี 4 ในพื้นที่โซนนิ่ง ว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญมาก เพราะนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจต้องไม่กระทบกับสุขภาพด้วย มาตรการดูแลอย่างน้อยต้องคงเดิม
ระทึก! รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ หลับในเสียหลักพุ่งชนชาวไต้หวันดับคาที่
เกิดอุบัติเหตุสยอง เมื่อนายธนพนธ์ เกตุแก้ว อายุ 26 ปี โชเฟอร์ขับรถพ่วงบรรทุก 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียนหน้า 80-7735 พัทลุง และทะเบียนพ่วงท้าย 80-7186 พัทลุง