'มาริโอ้' พบตำรวจไซเบอร์ ให้ปากคำในฐานะพยานคดีสวมทะเบียนรถโบราณ

9 ส.ค.2566 - ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) มาริโอ้ เมาเร่อ พระเอกชื่อดัง เข้าให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวน หลังจากถูกออกหมายเรียกเพื่อมาให้ปากคำกรณีที่ไปมีส่วนเชื่อมโยงกับการครอบครองรถยนต์ที่สวมทะเบียน โดยมาริโอ้ได้หลบสื่อมวลชนขึ้นลิฟท์จากชั้นใต้ดินของอาคาร บช.สอท.

ภายหลังให้ปากคำแล้วเสร็จ มาริโอ้ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด เพียงแค่ตอบคำถามสั้น ๆ กับสื่อมวลชนระหว่างเดินกลับว่า ไม่ได้กังวลอะไร มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ได้ให้ข้อมูลและหลักฐานกับทางพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว โดยอ้างว่าอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้

ด้าน พล.ต.ต. อำนาจ ไตรพจน์ รอง สอท. เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเรียกสอบพยานทั้งหมด 3 ปาก ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถกับมาริโอ้ คือ มาริโอ้ , นายก้องซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ขายรถให้กับมาริโอ้ และพี่ชายของนายก้อง ส่วนความสัมพันธ์นั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้มาริโอเคยซื้อเฟอร์นิเจอร์จากนายก้องจนมีความสนิทสนมและไว้ใจกัน แต่ไม่เคยซื้อขายรถกันมาก่อน โดยนายก้องได้เสนอขายรถ Benz G300 ให้กลับมาริโอ้ในราคา 1,500,000 บาท เมื่อเดือนธันวาคม 2565 โดยยังไม่ได้เห็นรถตัวจริง และมีการทำสัญญาวางมัดจำไว้ 500,000 บาทก่อน โดยมีกำหนดภายใน 60 วันจะต้องส่งมอบรถ แต่เมื่อถึงกำหนดก็ยังไม่ได้รถทางนายก้องจึงคืนเงินมัดจำให้กับมาริโอ้

จากการสอบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า มาริโอ้น่าจะ ไม่ได้จงใจซื้อรถสวมทะเบียน แต่พนักงานสอบสวนก็จะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่ามาริโอ้ไม่ได้มีเจตนาจงใจที่จะซื้อรถเถื่อน แต่หากภายหลังพบว่ามีเจตนาก็ถือว่ามีความผิด ซึ่งจากการที่พบว่าเล่มทะเบียนรถคันดังกล่าวมีชื่อของมาริโอ้เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้าย ทาง กรมการขนส่งทางบกจึงยังไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงโอนทะเบียน เพราะต้องตรวจสอบย้อนหลังที่มาว่ามีใครเคยเป็นผู้ครอบครองบ้าง

ส่วนพยานที่เป็นเจ้าของรถทั้ง 65 คัน ที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการสวมทะเบียนโดยแก๊ง 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกลุ่มไปก่อนหน้านี้นั้น พนักงานสอบสวนเรียกมาให้ปากคำไปเกือบหมดแล้ว เหลืออีก 2 คน ที่ อย่างมาพบไม่ได้เนื่องจากยังอยู่ต่างประเทศ

รอง ผบช.สอท.กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เริ่มจากมาริโอ้ไปซื้อรถจากคนที่เชื่อใจซึ่งเป็นรุ่นพี่ แต่ไม่ได้ของ เขาก็คืนเงินมา แต่ทะเบียนเป็นชื่อตนแล้ว ตำรวจจึงติดต่อมาว่ารถคันดังกล่าวมีปัญหา อยากให้ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ว่ารถคันนี้ได้มาอย่างไร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

“สำหรับการซื้อรถคันดังกล่าว มาริโอ้ เคยบอกว่า ทั้งตนเองและรุ่นพี่ก็โดนหลอกเช่นกัน เบื้องต้นทราบเพียงว่าเป็นการปลอมแปลงข้อมูลรถมาจากต้นขั้ว ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เมื่อไม่ได้รถ รุ่นพี่ก็คืนเงินให้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตน ก่อนซื้อรถทุกครั้งเก็จะตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้มีปัญหา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนก่อน ซื้อรถราคาล้านกว่าบาท เห็นว่ามีเอกสารถูกต้องก็ไม่คิดว่ารถจะมีปัญหาอะไร ทำให้หลังจากนี้จะต้องระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม” พล.ต.ต.อำนาจ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มาริโอ้' เผยรัก 9 ปี มีแพลนแต่งงานหรือไม่ ?

พระเอกหนุ่มสุดหล่อแถวหน้าของวงการ "มาริโอ้ เมาเร่อ" เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวชีวิตทั้งในอดีตและปัจจุบัน เหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตไขว้เขว และอัปเดตความรักกับสาว จันจิ ที่คบหาดูใจกันมานานเกือบ 9 ปีแล้วมีแพลนแต่งงานหรือไม่ ในรายการ WOODY FM

ตำรวจไซเบอร์-กระทรวงดีอี จับอดีตพนักงานค่ายมือถือ ยึดซิมผีกว่า 2.4 หมื่นซิม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.(สส), พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. ร่วมแถลงข่าว ยุทธการ " ชิม สาย เสา" ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

'ตำรวจไซเบอร์' เตือนภัย 'ลอยกระทงออนไลน์'

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ได้เตือนภัยลอยกระทงออนไลน์ โดยระบุว่า หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ลอยกระทงออนไลน์

รวบบัญชีม้าแอบอ้างกรมที่ดิน หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน สูญกว่า 3 แสนบาท

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพานิช รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม น.ส.อลิชา อายุ 21 ปี

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจหลอกเหยื่อติดตั้งแอปดูดเงินกว่า 3 ล้าน

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ได้นำกำลังสืบสวนจับกุม นาย เมธาพร ที่หน้าบ้านพัก หมู่ 1 ต.หลักเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 น.ส.นลินี ผู้เสียหายซึ่งทำงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น