ตำรวจสอบสวนกลางรวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท

​5 มิ.ย. 2566 – กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์  เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป.

​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.5 บก.ป.​ได้ร่วมกันจับกุม นางสาววิภารัตน์ฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.591/2566  ลง 25 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน  “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

​พฤติการณ์  เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 ผู้เสียหายได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย แจ้งว่ามีการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดและฟอกเงินพร้อมกับตรวจยึดสมุดบัญชีของผู้เสียหายได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะต้องอายัดเงินในบัญชีของผู้เสียหายและครอบครัวทุกบัญชี จากนั้นคนร้ายได้ให้ผู้เสียแอดไลน์ ชื่อ กลุ่มงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคีรีมาศ และมีการโทรผ่านวีดีโอคอลแสดงตัวเป็นตำรวจและหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ตรวจสอบ โดยคนร้ายได้ใช้บัญชีธนาคาร น.ส.วิภารัตน์ฯ (ผู้ต้องหานี้) เป็นบัญชีรับโอน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปตามที่คนร้ายแจ้งรวมกว่า 1 ล้านบาท  ต่อมาทราบว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายกลุ่มนี้

พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหานี้ กับพวกรวม 5 คน  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหานี้ หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต  จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหานี้ยังเป็นเจ้าของบัญชีรวม 32 บัญชี  น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายอาจในไปใช้ในการกระทำความผิดอื่นๆ อีก ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลต่อไป ​สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต  

​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เตือนภัย ปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบ อย่าหลงเชื่อโอนเงินให้กับบุคคลอื่นไม่ว่าจะใช้กลอุบายใดๆ ยึดหลัก “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5 บก.ป.โทร. 0648156699

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

อย่าลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ แนะ 3 ช่องทางขอเงินคืนจาก ปปง.

รัฐบาลย้ำ ปปง. ไม่มีระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทางเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อลงทะเบียนขอรับเงินคืน แนะ 3 ช่องทางที่ถูกต้อง

บุกทลายแก๊งคอลฯ เช่าตึกแถวกลางเมืองมุกดาหาร ยึดซิมบ็อกซ์ คนร้ายไหวตัวหนีทัน

ชุดปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจค้นตึกแถวห้องหนึ่งบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหาร สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่าที่ตึกห้องแถวบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหาร จ

กมธ.ความมั่นคง ชงหลายหน่วยงานสอบ 43 ชื่อบุคคล-บริษัท โยงสแกมเมอร์ข้ามชาติ

"โรม" เผยกมธ.ความมั่นคงเตรียมส่ง 43 รายชื่อให้ทางการสอบ-แบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ไม่ท้อเรียก "นายกฯ-ธรรมนัส" แจงกรรมาธิการฯ

มันมาอีกแล้ว! สตช.เตือนอย่ารับสายเบอร์แปลกตัวเลขเยอะ แนะกด *138*1# โทรออก บล็อกคอลเซ็นเตอร์

เพจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โพสต์ข้อความว่า อย่ารับสาย เบอร์แปลกขึ้นต้นด้วย + ตามด้วยตัวเลขเยอะ ๆ กลับมาป่วนอีกแล้วแก๊งคอ