ตร.หิ้ว 2 ชาวต่างชาติ ฆ่าโหดหนุ่มไต้หวัน ฝากขังศาล คอตกนอนคุกไร้คนประกัน

18 พ.ย.2566 - ที่ศาลอาญาพระโขนง พนักงานสอบสวน สน.บางนา นำตัว Mr. Zwe Lin Pyae (นายแซ วอ ลิงแปร่) อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา เเละ Mr.John Agbor นายจอห์น แอบอนี อายุ 40 ปี ชาวแคมเมอรูน 2 ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าพนักงานสอบสวนสน.บางนา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ มีเหตุชายเสียชีวิตที่โรงแรมนิรันดร์แกรนด์ เขตบางนา เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบว่า MR.CHU CHIANG SHEN (นายจู้ ชาง เซิง) อายุ 48ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ตรวจสอบเบื้องตันทราบว่า MR.CHU ได้เข้าพักที่ โรงแรมเมื่อวันที่ 14 พ.ย.โดยแจ้งเข้าพักคนเดียว และต่อมาได้มีเพื่อนคนตาย ได้โทรมาถามที่เคาว์เตอร์โรงแรมว่าติดต่อ MR.CHUไม่ได้ ขอให้โรงแรมตรวจสอบ ทางโรงแรมจึงได้ให้พนักงานตรวจสอบ เมื่อเปิดประตูห้องมาพบว่า MR.CHU นอนเสียชีวิตในท่านอนคว่ำถูกมัดมือ มัดเท้า อยู่ภายในห้องพักดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐานกลางและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ มาร่วมตรวจที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนเกิดเหตุพบว่ามี Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่า (ทราบชื่อ-สกุลภายหลัง) ได้เข้าห้องและมีบุคคลอื่นด้วย โดยมีพฤติการณ์เข้าเดินเข้า-ออก ระหว่าง ห้องเลขที่ 618ชั้น 6กับ ห้องเลขที่ 507ชั้น 5 ของโรงแรม ได้มี Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่าได้มาเปิดห้องพักดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 พ.ย.เวลาประมาณ 14.00น. นั้น จริง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่รับลูกค้ายืนยัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช้อมูลดังกล่าวจึงได้สืบสวนสอบสวน เพิ่มเติมและต่อมาเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวนได้สืบสวนจนทราบว่า Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่า พักอยู่ที่โกลเด้นอินน์ อพาร์ทเมนต์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เมื่อไปถึงพบ Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติเมียนม่า จึงได้เชิญตัวมาที่ สน.บางนาเพื่อทำการสอบสวนรายละเอียด จากการสอบถาม Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติเมียนม่า ให้การว่า เมื่อประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมาได้รับการติดต่อจากผู้หญิงคนหนึ่ง ผ่านทางเฟสบุ๊ก ชื่อ "Inthira Phara" ว่าให้มาทำงานว่าให้ติดตามบุคคลชาวไต้หวัน MR.CHU ผู้ตายเพื่อทราบว่าเดินทางไปที่ไหน และทำอะไรบ้าง ในแต่ละวัน โดยผู้ว่าจ้างบอกว่าเป็นคนที่เอาเงินของผู้ว่าจ้างมา

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย,เวลาประมาณ 16.16น. ผู้หญิงคนว่าจ้าง ได้นัดเจอที่บริเวณหน้าโรงเรียนนานาชาติ Regent ซึ่งใกล้ๆกับธนาคาร CIMB Bank ถ.หลังสวน เมื่อถึงเวลาประมาณ 16.08 น. ผู้หญิงที่ว่าจ้าง ได้แจ้งผ่านทางแมสเชนเจอร์เฟสบุ๊กให้ทราบว่า เดินทางมากับผู้ชายอีก 1 คน ซึ่งยืนรออยู่ที่เซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนผู้หญิงที่ว่าจ้างอยู่ในรถสีดำ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนหลังสวนพร้อมทั้งส่งภาพถ่ายส่งมาให้หลังจากนั้น Mr.Zwe Lin PvEe สัญชาติ เมียนม่า ได้พบกับ ผู้ชายชาวต่างชาติ ผิวขาวและ ผู้หญิงคนที่ว่าจ้าง และได้พูดคุยกับบุคคลทั้ง 2 คน ประมาณ5นาที โดยผู้ชายชาวต่างชาติได้อธิบายเกี่ยวกับการใช้ GPS พร้อมมอบหนังสือคู่มือการใช้ GPS มาให้

ต่อมาวันที่ 15 พ.ย.ผู้หญิงคนว่าจ้าง ได้ติดต่อมาหา ว่าให้มาพบกับ ผู้ชายชาวต่างชาติ เพื่อที่จะวางแผนในการเอาGPS ไปติด MR.CHU เเละให้เปิดห้องพักเลขที่ 507ชั้น 5 และต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ชายชาวต่างชาติผิวขาวได้ขึ้นมาที่ห้องเลขที่ 507 และวางแผนที่จะไปติด GPS แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจาก ผู้ตายไม่มีรถยนต์ และต่อมาเมื่อวันที่เวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีผู้ชายชาวต่างชาติผิวสีดำ ขึ้นมาที่ห้อง 507 และได้คุยวางแผนกันใหม่ เพื่อจะให้ผู้ชายชาวต่างชาติผิวสีดำ ซึ่งรู้จักและสนิทกับ MR.CHU เป็นอย่างดี เป็นผู้หลอกให้ผู้ตายออกจากห้องมาและพาไปกินข้าว เมื่อกินเสร็จก็ให้ ผู้ชายชาวต่างชาติผิวสีดำขึ้นไปที่ห้อง 618 ของผู้ตายด้วยกัน และคอยเปิดประตู และต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ย. เวลาประมาณ 22.00 น. โดยในห้องเลขที่ 507 ได้มีชาย 3 คนคือ Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติเมียนม่า ผู้ชายต่างชาติผิวขาว และผู้ชายต่างชาติผิวดำ

จากนั้นเมื่อผู้ชายชาวต่างชาติผิวสีดำนัดแนะกับผู้ตาย ได้ผู้ชายต่างชาติผิวดำจึงออกจากห้อง507ไปกินข้าวกับผู้ต้องหา และกลับมาที่ห้องเลขที่ 618 เวลาประมาณ 23.00 น. จากนั้น Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่า และผู้ชายต่างชาติผิวขาวทั้งคู่กลับมาที่ห้อง 618(ห้องผู้ตาย) แล้วทั้งสองจึงได้ขึ้นไปที่ห้อง 618โดยผู้ชายชาวต่างชาติผิวสีดำที่อยู่ในห้องจะคอยเปิดประตูให้ จากนั้นเมื่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอยู่ในห้องพักของผู้ตายได้ร่วมกันกระทำผิดโดยผู้ชายต่างชาติผิวขาวได้เข้าไปล็อคคอ ใช้มือปิดปากพร้อมฉีดสเปรย์พริกไทย ไปที่ใบหน้าผู้ตายช่วยกันจับตัว มัดมือ มัดเท้า และมัดปาก และทำร้ายร่างกาย จนนอนนิ่งไปจากนั้นก็พากันออกจากห้องพักไป และต่อมาผู้ชายต่างชาติผิวขาวได้ออกจากเเละกลับมาที่ห้องพักเลขที่ 507 อีกครั้งตอนประมาณ 01.00น. และชวนกันกลับ โดยรถ จยย. ของผู้ชายต่างชาติผิวขาว โดยระหว่างทางกลับ ได้แวะที่ เซเว่น สาขาสุขุมวิท

เพื่อซื้อน้ำเปล่า และผู้ชายต่างชาติผิวขาว ได้มาส่ง Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่าและแยกย้ายกัน และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบภาพถ่าย ที่ผู้หญิงผู้ว่าจ้าง ส่งมาให้ Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่าจนพบว่า รถคันที่ ผู้หญิงว่าจ้างขับมานั้น เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น เซลฟี่ สีดำ ทะเบียน ราชบุรีและมีชายชาวต่างชาติผิวขาว สวมเสือยืดสีขาว สวมกางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ตัดผมสั้น เดินลงมาจากทางด้านคนโดยสาร และได้ทำการตรวจสอบ รถยนต์ดังกล่าวพบว่าผู้ครอบครอง คือ น.ส.น.นามสมมุติ ซึ่ง Mr.Zwe Lin Pyae สัญชาติ เมียนม่าได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนที่ว่าจ้าง และเป็นคนที่นัดตนมาคุยที่ ถ.หลังสวน และเดินทางมาพร้อมกับ ชายชาวต่างชาติ ผิวขาว จริง โดยจากการสอบสอบรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนเชื่อแน่ว่า Mr.Zwe Lin Pyae และ MR.JOHN AGBOR สัญชาติแคมมาลูและผู้ชายต่างชาติผิวขาว ซึ่งอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธตลอดข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนควบคุมผู้ต้องหาทั้ง2 จะครบ48 ชั่วโมงเเต่ต้องรอสอบสวนพยานอีก10ปากพร้อมผลการตรวจพิสูจน์นิติวิทยาศาสตร์ เเละประวัติต้องโทษผู้ต้องหา

กรณีหากผู้ต้องหาร้องขอปล่อยชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง

โดยภายหลังพนักงานสอบสวนนำตัวฝากขังเเล้วไม่ปรากฎมีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาทั้ง2ไปควบคุมยังเรือนจำต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมช.' แจงไทยมี 3 จุดยืนในสถานการณ์เมียนมา

'สมช.' เข้าแจง 'กมธ.มั่นคงฯ' เพื่อรายงานการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ย้ำ 3 จุดยืน รักษาอธิปไตยไทย-ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดน-ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรมสากล

'หมอตังค์' ยูทูบเบอร์ดังเคลื่อนไหว หลังโดนคนกัมพูชาลอกคอนเทนต์

เพิ่งมีกระแสร้อนแรงไม่กี่วันก่อนเมื่อยูทูบเบอร์ชาวกัมพูชาที่ชื่อว่า 'Doctor Sem Ratana' ลอกคอนเทนต์ของยูทูบเบอร์-แพทย์หนุ่ม ตังค์-มรรคพร ขัติยะทองคำ เจ้าของรายการ "เวรชันสูตร" จากช่อง "Tang Makkaporn" ที่มียอดติดตามกว่า 1 ล้านคน

'ทบ.' เปิดแผนรับมือ สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา

รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เปิดเผยแนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา กรณีการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย

เตือนแรงงาน 3 สัญชาติ MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับปท. ภายใน 30 เม.ย. นี้

‘คารม’ เตือนแรงงาน MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางภายใน 30 เม.ย นี้ แนะนายจ้าง/ผู้ประกอบการยื่นคำร้อง นจ. 2 ล่วงหน้า หากประสงค์จะนำแรงงานกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด 23 เม.ย. เกาะติดสถานการณ์สู้รบในเมียนมา

‘สุทิน’ เผยสถานการณ์สู้รบเมียนมาเข้มข้นขึ้น คนหนีภัยมาไทย ยอมรับกระทบเราแต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ขอสบายใจกองทัพปกป้องอธิไตย-ดูแลประชาชนเต็มที่

'เศรษฐา' เตรียมบินไปแม่สอด 23 เม.ย. หลังปะทะเดือดใกล้ชายแดนเมียนมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน x ว่า “จากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมา