'ดีเอสไอ' พบเส้นทางเงินคดีทุจริตหุ้น STARK ย้อนเข้าบริษัทตัวเอง 1 หมื่นล้านบาท

"ดีเอสไอ" พบเส้นทางการเงินคดีทุจริตหุ้น STARK ย้อนกลับเข้าบริษัทตนเอง 10,000 ล้านบาท ประสาน ปปง. ยึดทรัพย์ พร้อมขยายผลตรวจค้นและดำเนินคดีผู้ต้องหาเอี่ยวคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเพิ่ม ส่วนคดีปั่นหุ้น MORE ออกหมายเรียก 29 ราย แจ้งข้อหา 10 ราย เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน

8 ธ.ค.2566 - พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ต. พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และนายวิทยา นีติธรรม โฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าในการดำเนินการในคดีพิเศษ จำนวน 3 คดี ดังนี้

1. กรณี การทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 มีผู้เสียหายทั้งสิ้นจำนวน 4,704 ราย มูลค่าความเสียหายจำนวน 14,778,000,000 ล้านบาท (คดีพิเศษที่ 57/2566)

คดีนี้มีผลกระทบต่อตลาดทุนเป็นอย่างมาก ดีเอสไอโดยกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เริ่มทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ เมื่อ 20 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา โดยมีพ.ต.ต.ยุทธนา เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเอง บัดนี้ ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 11 คน ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ในวันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้ว โดยอธิบดีดีเอสไอมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยมีเอกสารพยานหลักฐานทั้งสิ้นจำนวน 22 ลัง 140 แฟ้ม 52,968 แผ่น

นอกจากการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังพบว่ามีการนำเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท โอนเข้ากลุ่มบริษัทของผู้ต้องหาเพื่อไปชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า รวมทั้งยักย้ายถ่ายเทเข้าบัญชีส่วนตัวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้ สำนักงาน ปปง. พิจารณาดำเนินการติดตามยึดทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 49 วรรคท้าย ต่อไป
2. กรณี ขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดีเอสไอได้แยกดำเนินการเป็น 2 ช่วง รวม 10 คดี กล่าวคือ ช่วงที่ (1) คดีพิเศษที่ 59/2566 เป็นคดีเริ่มต้นของดีเอส​ไอ​กรณีมีผู้ยื่นคำร้องขอให้ดีเอส​ไอ​สืบสวนสอบสวนกรณีมีกลุ่มนายทุน บริษัทดำเนินพิธีการศุลกากรหรือชิปปิ้ง ร่วมกันลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ ด้วยการสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากร ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องด้วย กรณีตรวจพบตู้สินค้าเป็นสุกรแช่แข็งตกค้างในท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 161 ตู้ หนักประมาณ 4.5 ล้านกิโลกรัม ทางการสอบสวนมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 2 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 แล้ว อันเป็นการดำเนินการเฉพาะส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ช่วงที่ (2) เป็นการดำเนินคดีกับเอกชนที่เป็นบริษัทที่ปรากฏหลักฐานว่านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 9 บริษัท ประกอบด้วยคดีพิเศษที่ 101-109/2566 ซึ่งมีการสืบสวนสอบสวนต่อเนื่องทุกคดี พบหลักฐานน่าเชื่อว่ามีการลักลอบนำเข้าซากสุกรอีกจำนวน 2,385 ตู้ ปริมาณ 59,625 ตัน

​ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566 ภายใต้คดีพิเศษที่ 103/2566 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 3 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีการตรวจยึดสิ่งของมาเป็นพยานหลักฐาน รวมทั้งพบการกระทำผิดซึ่งหน้า 1 จุด เป็นบริษัทประกอบธุรกิจห้องเย็น ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งน้อย อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ตรวจพบซากสุกร (หมูสามชั้น) จำนวน 7 ตัน ไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายซากสัตว์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐมได้ดำเนินการตรวจยึดซากสุกรดังกล่าวเพื่อส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือกดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากพื้นที่จังหวัดนครปฐม เป็นพื้นที่ประกาศควบคุมโรคอหิวาตกโรคในสุกร (ห้ามไม่ให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตห้ามเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต) อันเป็นการป้องกันเหตุไม่ให้พี่น้องประชาชนต้องบริโภคหมูที่ไม่ถูกสุขลักษณะด้วย

​ทั้งนี้ดีเอสไอจะมีการขยายผลตรวจค้นและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุน ข้าราชการการเมือง และอดีตข้าราชการ การใช้มาตรการคุ้มครองพยานแก่พยานรายสำคัญ การดำเนินการโดยใช้กฎหมายฟอกเงินดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดฝ

3. กรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ในระหว่างวันที่ 18 ก.ค. 2565 - 10 พ.ย 2565 (ช่วง pre - open) มีกลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE อย่างต่อเนื่อง ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 800,000,000 บาท(คดีพิเศษที่ 66/2566)

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานสอบสวนกองบัญชาการสอบสวนกลางที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในดีเอสไอช่วยเหลือในการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษ ตามมาตรา 33 แห่ง พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 โดยได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา จำนวน 29 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาแล้วจำนวน 10 ราย และอยู่ระหว่างเร่งรัดตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำมาตรการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาดำเนินการต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวบ้านน้ำพุร้อน ร้องดีเอสไอ สอบผู้ใหญ่บ้านร่ำรวยผิดปกติ บกพร่องหน้าที่ หน่วยงานเงียบฉี่

ชาวบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 100 คนได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน้าด่านพุน้ำร้อนเพื่อมายื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้าน

'ดีเอสไอ' ชง ป.ป.ช. ฟันทุจริต 4 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร-ปศุสัตว์ เอี่ยวนำเข้าหมูเถื่อน

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม

DSI ส่งคำร้องกรณีให้โอนคดีฟอกเงินเครือข่ายเว็บพนัน BNK Master ให้ ป.ป.ช. พิจารณา

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ เผยแพร่เอกสารข่าว การส่งสำนวนการสอบสวนคดีเว็ปพนัน BNK ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ สอบสวนต่อ

ดีเอสไอ ลุยสอบธุรกิจนอมินีภูเก็ต 9 แห่ง รวมปางช้างฝรั่งเตะหมอ

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตรวจสอบข้อเท็จจริงและบูรณาการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่กรณีการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพุทธศักราช 2542 แ