ชาวบ้านน้ำพุร้อน ร้องดีเอสไอ สอบผู้ใหญ่บ้านร่ำรวยผิดปกติ บกพร่องหน้าที่ หน่วยงานเงียบฉี่

25 เม.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชโยวัฒน์ เจริญวัฒนะ และนายจารุพัฒน์ มั่นคง ตัวแทนชาวบ้านบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านทำตัวไม่เหมาะสม โดยมีนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒณศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ของกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษรับหนังสือ

หนังสือดังกล่าวระบุถึงพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านดังนี้ 1.ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่เคยนำทำสิ่งใดๆในหมู่บ่านให้ดีขึ้น ไม่มีความรู้เรื่องงาน 2.มีพฤติกรรมหาพรรคพวกให้สนับสนุนตนเองแล้วต่อต้านชาวบ้านที่ไม่พอใจสร้างความแตกแยกในหมู่บ้าน 3.ไม่ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน ไม่มีการแจ้งข่าวสารของทางราชการให้ชาวบ้านได้รับรู้ ไม่ช่วยเหลือหรือแนะนำใดๆในการติดต่อกับหน่วยราชการทุกอย่าง ชาวบ้านต้องดิ้นรนวิ่งเต้นเดินทางดำเนินการเองทั้งหมด

4.ในหมู่บ้านซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ราคาก็ไม่ดีผลผลิตน้อย ทำมาหากินลำบากขาดแคลนและต้องมาพบกับผู้นำด้อยพัฒนาเช่นนี้ ซึ่งไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ 5.ชาวบ้านจะไปติดต่อปรึกษาความเดือดร้อน ผู้ใหญ่ไม่เคยอยู่บ้าน ไม่อยู่ดูแล ไปแต่บ่อนการพนันฝั่งทวายประเทศพม่า 6.เป็นนายหน้าค้าที่ดินราชพัสดุ ไปร่วมลงชื่อเป็นพยาน ซื้อขายที่ดินของรัฐซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์กับนายทุน

7.มีการปล่อยปละละเลยให้มีการมั่วสุมยาเสพติดในหมู่บ้าน มีผู้ติดยาเสพติดจำนวนมาก ทำให้มีคดีลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นในหมู่บ้านเพื่อหาเงินไปซื้อยามาเสพ 8.เปิดให้มีการเล่นการพนัน(ชนไก่)ในพื้นที่รวมทั้งบ้านของผู้ใหญ่เอง มีนักพนันนอกหมู่บ้านนอกพื้นที่รวมทั้งบุคคลต่างด้าวข้ามฝั่งมาเล่นพนันกันมีการได้เสียเป็นหลักแสนบาทโดยไม่ยำเกรงกฏหมายเลย

9.ผู้ใหญ่บ้านคนดัง ยังร่วมกับนายทุนใช้รถแบ็คโฮลักลอบขุดดินในที่ราชพัสดุ พื้นที่เกิดเหตุอยู่ด้านท้าย มทบ.17 ประมาณ30ไร่ มีความลึกตั้งแต่2-4เมตร มีการตัดไม้ทำลายป่าในที่ดินแปลงดังกล่าวด้วย 10.ในปี 2561 ผู้ใหญ่บ้านได้งบประมาณในการขุดคลองห้วยแม่กระบานเมื่อมีการขุดดินขึ้นมาแล้ว มิได้มีการกองดินไว้ที่ริมคลอง แต่ได้มีการใช้รถบรรทุกดินดังกล่าวไปขายให้กับนายทุน ทำให้รัฐเสียหาย

11.ภรรยาผู้ใหญ่คนดังได้มีการบุกรุกที่ราชพัสดุดำเนินการก่อสร้างที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ มูลค่าหลายล้านบาท มีการใช้แรงงานต่างด้าวและมีการเจาะน้ำบาดาล โดยมีการขออนุญาติหรือไม่ เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์

12.ผู้ใหญ่บ้านคนดังมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ก่อนหน้านี้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านมีฐานะปานกลาง มีเพียงรถยนต์กระบะ 4 ประตู 1 คัน เมื่อมาดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันมีทรัพย์สินดังนี้ 1.รถยนต์ฟอร์ด 7 ที่นั่ง 1 คัน ราคาประมาณ 1.6 ล้านบาท 2.รถยนต์ฟอร์ด 4 ประตู รุ่นแร็พเตอร์ ราคาประมาณ 1.7 ล้านบาท 3.รถแบ็คโฮ 2 คัน 4.รถบรรทุก 10 ล้อ 4 คัน 5.รถเทเลอร์สำหรับย้ายรถแบ็คโฮ 1 คัน 6.บ้านจัดสรรในหมู่บ้านเขาตอง 1 หลัง ราคาประมาณ 3 ล้านบาท 7.เงินฝากในบัญชีธนาคารหลายล้านบาท

จากเหตุผลที่ร้องเรียนมานี้คือ บางส่วนที่พอจะรวบรวมมาได้ในขณะนี้ ทางชาวบ้านพุน้ำร้อนหมู่ที่ 12 อยากให้ทางดีเอสไอช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ถ้าร้องทางดีเอสไอแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว เพราะชาวบ้านได้ร้องไปทุกหน่วยงานแล้วแต่กลับเงียบฉี่ ชาวบ้านต้องทนทุกทรมานไปอีกเกือบ 20 ปี กว่าผู้ใหญ่บ้านคนดังจะเกษียณ

หลังจากยื่นหนังสือเสร็จแล้วชาวบ้านได้นำพาทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเดินทางไปดูสิ่งที่ทางผู้ใหญ่บ้านคนดังทำทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดีเอสไอ' ชง ป.ป.ช. ฟันทุจริต 4 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร-ปศุสัตว์ เอี่ยวนำเข้าหมูเถื่อน

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม

DSI ส่งคำร้องกรณีให้โอนคดีฟอกเงินเครือข่ายเว็บพนัน BNK Master ให้ ป.ป.ช. พิจารณา

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ เผยแพร่เอกสารข่าว การส่งสำนวนการสอบสวนคดีเว็ปพนัน BNK ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ สอบสวนต่อ

ป้ากับหลาน 3 ขวบอาศัยกินนอนในห้องน้ำนานกว่า 1 เดือน สุดทนกลิ่นเหม็นจากฟาร์มหมู

ชาวบ้านที่รับผลกระทบได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนกันหนักมาก และทนเหม็นกลิ่นขี้หมูไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะที่บ้านของนางพลอย พรมมี อายุ 64 ปี และที่บ้านของนางสาวจำปี อายุ 74 ปี กับนางสาวจำปา อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว สุขภาพไม่แข็งแรง ใช้ชีวิตลำบากถึงขั้นต้องเอาผ้าห่ม

ชาวบ้านฮือ ร้องตรวจสอบเจ้าอาวาส แอบขายกุฏิเก่าอายุเกือบ 50 ปี ได้ 5 หมื่นเอาไปใช้หนี้

อดีตผู้ใหญ่บ้าน พร้อมตัวแทนชาวบ้าน และผู้สูงอายุในหมู่บ้านหนองตะโก ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันที่วัดหนองตะโก เพื่อเรียกร้องให้ทางอำเภอ และคณะสงฆ์ ตรวจสอบเอาผิดเจ้าอาวาส