
'วิรุตม์' ชี้ 'ลุงพล' ไม่ได้ฆ่า 'น้องชมพู่' เพราะศาลพิพากษาว่า 'ประมาททำให้ตาย' แต่ประมาทอย่างไร ยังงง! ยัน 'ความเชื่อ' ไม่ใช่ 'ความจริง' และ 'พิรุธ' ไม่ใช่ 'ความเท็จ' แม้แต่อธิบดีผู้พิพากษาและหัวหน้าศาลฯก็ยังมี 'ความสงสัย'ให้ยกฟ้อง
22 ธ.ค.2566 - พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพาษาลงโทษจำคุกนายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” เป็นเวลา 20 ปี ว่า ข้อเท็จจริงคำพิพากษาไม่ได้ลงโทษลุงพลในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น ตามข้อกล่าวหาของตำรวจและคำฟ้องของอัยการ แต่ลงโทษความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้น้องชมพู่ถึงแก่ความตาย และพรากเด็กไปจากผู้ปกครองฯ
"แต่ปัญหาที่ผู้คนสงสัยกันมากก็คือ ได้พบพยานหลักฐานอะไรที่สามารถรับฟังได้อย่างสิ้นสงสัยว่าลุงพลเป็นผู้กระทำความผิดทั้งสองข้อหานั้น เพราะการที่ตำรวจกล่าวหาว่าลุงพลแบกหรือนำพาน้องชมพู่อายุ 3 ขวบขึ้นไปทิ้งไว้บนเขาโดยปราศจากผู้ดูแล ย่อมเป็นการฆ่าโดยเจตนาแบบเล็งเห็นผล และไตร่ตรองไว้ก่อนด้วยซ้ำ ไม่ใช่การกระทำประมาทอย่างแน่นอน"
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวต่อว่า แต่การแบกหรืออุ้มตัวน้องขึ้นไปใช้เวลานานนับชั่วโมง นอกจากจะไม่มีใครพบเห็นสามารถเป็นพยานยืนยันการกระทำผิดได้แล้วการสัมผัสเนื้อตัวกันขนาดนั้น แต่การเก็บพยานหลักฐานกลับไม่พบดีเอ็นเอของลุงพลบนร่างกายหรือเสื้อผ้าของน้องชมพู่ที่ควรจะมีติดอยู่แม้แต่น้อย นั่นย่อมหมายถึงทั้งสองคนไม่ได้มีการสัมผัสตัวกันไม่ว่าจะรูปแบบใดมิใช่หรือแม้กระทั่งความผิดฐานพรากเด็กไปจากบิดามารดา
"มีหลักฐานพยานบุคคลหรือวัตถุอะไรที่รับฟังได้ว่าลุงพลเป็นคนนำตัวน้องชมพู่ไปจากบ้านโดยพ่อแม่หรือผู้ดูแลไม่ยินยอม นอกจาก “ความเชื่อ” ที่ว่า ไม่มีใครได้ยินเสียน้องร้อง ฉะนั้น คนที่มานำเอาตัวไปต้องเป็นคนที่คุ้นเคย ซึ่งในหมู่บ้านมีอยู่ประมาณ 15 คน และทุกคนแสดงหลักฐานที่อยู่ในเวลาเวลาที่น้องหายไปได้ยกเว้นลุงพลคนเดียวที่แสดงไม่ได้ ถือว่ามี “พิรุธ”แต่ “ความเชื่อ” ไม่ใช่ “ความจริง” และ “พิรุธ” ก็ไม่ใช่ ความเท็จ"พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าว
เลขาธิการสป.ยธ. กล่าวอีกว่า ตามหลักกระบวนการยุติธรรมสมัยใหม่ รัฐจะนำความเชื่อและพิรุธมาเป็นเหตุผลในการลงโทษหรือแม้กระทั่งกล่าวหาใครในทางอาญาไม่ได้ ป.วิ อาญา มาตรา 227 บัญญัติไว้ชัดว่า จะต้องแน่ใจว่ามีการกระทำผิดอาญาเกิดขึ้นและจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากข้อสงสัยแต่นี่แม้แต่ประเด็น ความตายของน้องชมพู่เกิดจากการกระทำผิดอาญาหรือไม่ ก็ยังเป็นแค่ “ความเชื่อ” ของตำรวจ ว่า น้องเดินขึ้นไปถึงจุดที่พบศพตามลำพังไม่ได้ ต้องมีคนพาขึ้นไปอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ใช่ “ความจริงแท้แน่นอน” แต่อย่างใด เพราะแม้จะขึ้นไปยาก แต่ก็อยู่ในวิสัยที่น้องสามารถเดินขึ้นไปได้ในภาวะที่ไม่ปกติ จำเป็นต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดตามสัญชาติญาณ “เกินจินตนาการของคนปกติทั่วไป”
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า “ความเชื่อ” เช่นนั้นนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายกันจนวุ่นวายไปทั้งหมู่บ้านและตำบลใครพูดหรือให้การสับสน เพราะถูกซักถามกันหลายหนหลายคน ก็จะถูกสรุปว่า “มีพิรุธ” น่าเชื่อว่าเป็นคนร้ายที่ฆ่าน้องชมพู่ตาย เป็นคนนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้บนภูเขา แต่เมื่อไม่สามารถหาพยานหลักฐานมายืนยันความผิดเรื่องเจตนาฆ่าตามข้อกล่าวหาและคำฟ้องได้ ทำให้ศาลไม่ได้พิพากษาลงโทษลุงพลในความผิดฐานนี้
"สุดท้าย คดีกลายเป็นถูกชี้ว่าลุงพลกระทำประมาทเป็นเหตุให้น้องชมพู่ถึงแก่ความตาย แต่ประมาทอย่างไร มีพยานหลักฐานอะไร นอกจากการอาศัย “ความเชื่อ” และ “พิรุธ” ก็ไม่ได้มีใครออกมาอธิบายให้ผู้คนเข้าใจจนสิ้นสงสัยแต่อย่างใด แม้แต่อธิบดีผู้พิพากษาและหัวหน้าศาลจังหวัด ก็ยังมี “ความสงสัย” ได้บันทึกความเห็นแย้งไว้ในคำพิพากษาว่า “คดีมีเหตุอันควรสงสัย” ควรยกประโยชน์ให้จำเลยไปด้วยการพิพากษายกฟ้อง”พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุ๊งอิ๊งโผล่เพ้อทำพื่อปชช.
“ปลัด ยธ.” ยัน “ทักษิณ” สามารถขออภัยโทษเฉพาะรายครั้งที่ 2 ได้ตาม ป.วิ อาญา เพราะเวลาได้ล่วงเลยเกินมาแล้ว 2 ปี จากการขออภัยโทษเฉพาะรายครั้งแรก
'ปลัดยธ.' ยัน 'ทักษิณ' ขออภัยโทษครั้งที่ 2 ได้ตามป.วิ อาญา อ้างเวลาล่วงเลยเกินมาแล้ว 2 ปี
'รุทธพล' เผย ยังไม่ได้รับผลรายงานของ กก. ตรวจสอบข้อกฎหมาย ปม 'ทักษิณ' ยื่นขออภัยโทษเฉพาะรายครั้งที่ 2 หลังขีดเส้น 3 วัน ช้าสุด 6 ต.ค. ขณะที่ 'ปลัด ยธ.' ยัน 'ทักษิณ' สามารถขออภัยโทษเฉพาะรายครั้งที่ 2 ได้ตาม ป.วิ อาญา เพราะเวลาได้ล่วงเลยเกินมาแล้ว 2 ปี จากการขออภัยโทษครั้งแรก แย้มกก.ยังอยู่ระหว่างพิจารณา หากสรุปผลได้แล้วจะเสนอต่อ รมว.ยธ. ให้ความเห็น ก่อนส่งกลับ 'สลค.'
เปิดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เหตุผลเพิ่มโทษ 'ลุงพล' องศาตัดผม 'น้องชมพู่' มัดแน่น
เปิดเหตุผลเพิ่มโทษ 'ลุงพล' ฆ่าน้องชมพู่ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ชี้หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์องศาตัดเส้นผมมัดแน่น ข้อต่อสู้มีพิรุธเพียบ มีเจตนาฆ่าเล็งเห็นผล ชดใช้ 2.55 ล้าน
ดีดปาก 'สมศักดิ์' สุดมั่ว! มท.ปราบยาเสพติด ชี้ผวจ.ไม่มีอำนาจสั่งตร.-สอบสวนคดีอาญาได้
'วิรุตม์' ดีดปาก 'สมศักดิ์' สุดมั่ว! มท.ปราบยาเสพติด ชี้ ผวจ. ไม่มีอำนาจสั่งงานตร.และสอบสวนคดีอาญา ให้คุณให้โทษตร.ไม่ได้ ผบก.จว.ก็ไม่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจว. ไม่สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุข แนะปฏิรูปตร. ยุบ บช.ภ.ให้ผวจ.สั่งงานแต่งตั้งโยกย้ายตร.ในจว.ได้
'วิรุตม์' ชี้ 'เชาวน์' เข้าใจผิด ผู้ว่าฯ ไม่มีอำนาจคุมงานสอบสวน แฉตร.ไม่ออก'เลขคดีอาญา'
พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คุณเชาวน์ คงไม่ทราบว่าปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอประเทศไทย
'วิรุตม์' ซัดตร.ผู้ใหญ่รับส่วยพนันออนไลน์แล้วทำตัวเป็นพระเอก 'จับพระ' นายกฯสั่งปราบปรามก็ไม่สนใจ
'วิรุตม์'ซัดตำรวจปล่อยให้มีบ่อนพนันออนไลน์จนผู้คนรวมทั้งพระติดงอมแงม แล้วมาทำตัวเป็นพระเอก 'จับพระ' ทั้งที่ปัญหาเกิดจากการทุจริตรับส่วยของตร.ผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้านายตัวเอง ชี้นายกฯนั่งในตำแหน่ง1ปียังพูดให้สั่งปราบปรามแสดงว่าที่ผ่านมาตร.ไม่ได้สนใจ


