‘นาเคนทร์’ รองโฆษก อสส. เผย อัยการคดีอาญาทุจริตภาค 9 ยื่นฟ้อง 8 จำเลย ชุด ตร.อุ้มรีดเงิน ‘จรวด’ 1.5 ล้าน โดนข้อหาหนัก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ศาลเมตตาให้ประกัน นัดสอบคำให้การ 10 ม.ค. 67
22 ธ.ค. 2566 – นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 9 สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีกล่าวหา พ.ต.ต.ฤทธิไกร เหมทานนท์ อดีต สว กก.สส.บก.ภ.8 (ตำเเหน่งขณะเกิดเหตุ), ร.ต.อ.อภิชาตสกุลกิจ, ร.ต.อ.วิทยา อำนวย, ด.ต.ฐนนท์ธร กิจถาวร, ด.ต.นิรัตน์ เพชรรัตน์, ร.ต.อ.อาณัติ แดงหนำ, ร.ต.อ.หรือนายสุรินทร์ ไกรสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 – 7
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลใดเพื่อให้มาซึ่งค่าไถ่, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์โดยขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจได้รับอันตรายสาหัสและโดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้นโดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะโดยมีหรือใช้อาวุธปืน
และกล่าวหา นายอำพร นวลศรี ผู้ต้องหาที่ 8 (สายสืบ) ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดฯ ข้างต้น
ต่อมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 9 พิจารณาแล้ว ได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 ตามข้อกล่าวหา
นายนาเคนทร์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 9 ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เป็นคดีหมายเลขดำ 102/2566 หลังจากศาลอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 8 ฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำเลยทั้ง 8 ให้การปฏิเสธและประสงค์ต่อสู้คดี แต่ในวันนี้ไม่มีทนายความ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 จึงมีคำสั่งให้เลื่อนไปสอบคำให้การจำเลยทั้ง 8 ในวันที่ 10 ม.ค. 2567 เวลา 13.30 น. และมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยทั้ง 8 ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลผลคืบหน้าทางคดีสำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่กลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับพวกซึ่งเป็นพลเรือน 1 คน รวมทั้งหมดจำนวน 8 คน ใช้รถยนต์กระบะ 1 คัน และรถยนต์เก๋งอีก 1 คัน ขับมาจอดหน้าบ้านเลขที่ 94 หมู่ 2 ต.ลำปำอ.เมือง จ.พัทลุง ก่อนที่จะไปจับตัว นายสิทธิ์เดช หรือจรวด ทรงเดชะ ลูกชายเจ้าของบ้านขึ้นรถยนต์เก๋งพาตัวหายไป จากนั้นไม่นาน นายสิทธิเดช ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กลับมาหาญาติที่บ้าน โดยบอกว่าให้นำเงินสด จำนวน 1.5 ล้านบาท ไปให้กลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาหาที่บ้านก่อนหน้านี้ ซึ่งได้อ้างตัวภายหลังว่าเป็นตำรวจสังกัดชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8
สำนวนคดีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ศาลจังหวัดพัทลุงพิพากษาจำคุก นายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง 20 ปี 6 เดือน ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายเชาวลิต ในความผิดฐาน ร่วมกัน ปล้นทรัพย์ฯ, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ, มีอาวุธฯ, พาอาวุธไปที่สาธารณะฯ ในคดีชิงตัวนายจรวด แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-6 (โดยอัยการบอยเป็นผู้ต้องหาที่2) สั่งฟ้องเพียงนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง เเละนายจรวดเท่านั้น
โดยในสำนวนที่มีการฟ้อง 7 ตำรวจกับ 1 สายสืบ นั้น ต่อมาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการที่สั่งไม่ฟ้องบางข้อหา กระทั่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาด สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1, 3 เเละที่ 4-8 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม โดยมีและใช้อาวุธปืนและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ตามความเห็นพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 และสั่งยุติการดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 8 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเกท 5(พืชกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำผิดยกเลิกความผิดเช่นนั้น ส่วนข้อหาอื่นชี้ขาดให้ฟ้องตามความเห็นของอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 จนมาสู่การนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลในวันนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โจรใต้เหิม! ยิง M79 ถล่มโรงพัก 2 ลูก ห่างอีก 5 กิโล จุดบึ้มซ้ำ
ขณะที่ พ.ต.อ.สินชัย พาบับพา ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในห้องทำงานชั้นล่าง และเตรียมที่จะร่วมแถวกำลังหน้า สภ. ปรากฏว่าได้ยินเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว
'นายกฯอิ๊งค์' คิกออฟ 30 ม.ค. ล้างบางยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์
'ภูมิธรรม' ประกาศรัฐบาลดีเดย์ 30 ม.ค. ลุยล้างบางยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ ขีดเส้น 6 เดือนไม่ดีขึ้น เข้มข้นอีก ซีลชายแดน 2 ชั้น ลั่น จนท.คนใดคิดว่างานนี้ไม่เหมาะให้สมัครใจย้ายได้
‘อดีตตร. มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์’ แนะ 4 วิธีสำคัญ ปราบโทรหลอกลวงคนไทย
จากสภาพที่เห็น ข้าพเจ้าซึ่งเคยร่วมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งในไทย และนำทีมไปร่วมกับตำรวจจีนและประเทศอื่นๆ
นักแสดงจีนขอบคุณ 'ตร.ไทย' ช่วยรอดหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ดาราและนายแบบจีนขอบคุณตำรวจไทยช่วยเหลือกลับประเทศโดยปลอดภัย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับสื่อนำเสนอเฟคนิวส์การทำงานของตำรวจ
กองปราบหอบสำนวน ส่งอัยการสั่งฟ้อง 'ทนายตั้ม' กับพวก ฉ้อโกง-ฟอกเงิน
กองปราบนำสำนวน 'ทนายตั้ม' กับพวกรวม 7 คน ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ส่งอัยการคดีพิเศษพิจารณาสั่งฟ้องศาล 2 คดี 4 กรรม ลั่นทันกรอบฝากขัง 30 ม.ค.นี้ ส่วนคดีนอกราชพิจารณาส่งอัยการสูงสุดฟัน
ลูกชายคลั่งยาบ้าบีบคอพ่อ โดนแทงสวนดับคาบ้าน
ร.ต.ท.ทศพล ยศศรีใจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ในบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ