'ดีอี' จับมือ 'ตำรวจไซเบอร์' จับแก๊งอาชญากรรมยึดของกลางกว่า 100 ล้านบาท

ดีอี ผนึกกำลังตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการจับกุมแก๊งอาชญากรรมทั้งในและตปท. ยึดของกลางกว่า 100 ลบ.

26 มี.ค. 2567 – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าว CYBER CHASE ขยายผลจับกุม 4 ปฏิบัติการ ทั้งทั้งเว็บพนัน-บัญชีม้า-นายหน้าบัญชีม้า-อาวุธปืนตามนโยบายรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ดีอี เร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน พร้อมเน้นย้ำการทำงานใกล้ชิดร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างเด็ดขาด และบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์ AOC 1441 ธนาคาร กสทช. ตำรวจ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำงานเชิงรุก ให้สามารถจับกลุ่มผู้กระทำผิดได้เป็นจำนวนมาก

นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง , นายอาชวิน อยู่บํารุง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบัญชาการตํารวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นําโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, และ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตํารวจที่เกี่ยวข้อง จึงนำมาสู่ 4 ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุม ดังนี้

จับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ auto.lengame888.com พบว่ามียอดเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 15 ล้านบาท จำนวนสมาชิกผู้เล่น กว่า 47,000 คน ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่ เกี่ยวข้อง มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท พบยอดเงินหมุนเวียนปีละกว่า 180 ล้านบาท โดยมีเว็บพนันเครือข่าย ประกอบด้วยauto.lyngame9.com, lynbeer.servicelyn.com, heylink.me/darkgame, auto.ambkgame.com โดยได้ตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหารวม 8 ราย กลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 1 ราย กลุ่มผู้ดูแลการเงิน 1 ราย และบัญชีม้า 6 ราย

จับกุม 6 บัญชีม้าข้ามแดนไปแสกนหน้า เครือข่ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน หลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ แล้วให้แอดไลน์ เพื่อส่งลิงก์ให้กดดาวน์โหลดแอปหน่วยงานของปลอม ตลอดจนการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน หลอกโอนเงิน สร้างความเสียหาย รวม 4 ล้านกว่าบาทนั้น จากการสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าว
มีความเชื่อมโยงหลายคดีในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ในลักษณะแก๊ง
คอลเซนเตอร์ โดยได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ดังนี้ 1. น.ส.อาทิตยาฯ อายุ 27 ปี อ่างทอง 2.นายพงษ์ศักดิ์ฯ 3.น.ส.จําปีฯ อายุ 46 ปี สระแก้ว 4.นายสําราญฯ อายุ 37 ปี สระแก้ว 5.น.ส.พิมนัสฯ อายุ 45 ปี สมุทรสาคร

6.น.ส.มัณฑนาฯ อายุ 25 ปี สิงห์บุรี จากการสอบสวน พบว่าเป็นบัญชีม้าที่กลุ่มคนร้ายใช้สำหรับรับและโอนจากผู้เสียหายไปยังผู้สั่งการ ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1-5 รับว่าได้เดินทางไปที่ประเทศกัมพูชาผ่านทางจังหวัดสระแก้วเพื่อสแกนหน้า และรับข้อความ OTP สำหรับโอนเงิน ซึ่งได้รับค่าจ้างวันละ 4-5 พันบาท

ทลายเครือข่ายนายหน้าบัญชีม้า โพสต์ซื้อขายในกลุ่มลับ “บัญชีม้า” ตรวจพบกลุ่มคนไทย เป็นเครื่องมือหลอกลวงทำร้ายคนไทย ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือขบวนการมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน โดยมีพฤติการณ์เป็นนายหน้ารับซื้อ บัญชีม้า ซิมม้า ตามสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อจัดหาได้แล้วจะส่งไปขายให้กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและจับกลุ่ม นางสาวเดือน (ขอสงวนนามสกุล) ให้การรับสารภาพว่า หารายได้จากการนายหน้าจัดหาบัญชีม้าเพราะรายได้ดี โดยนางสาวเดือนจะรับซื้อบัญชีม้าในราคาประมาณ 1,000 บาท จากนั้นจะทำการส่งสมุดบัญชี, บัตร ATM และหมายเลขรหัสต่าง ๆ ทางพัสดุ เพื่อขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บริเวณตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว โดยจะได้รับค่าจ้างบัญชีละ 4,000 บาท

นอกจากนี้ นางสาวเดือนยังรับว่า เนื่องจากปัจจุบันมีมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำหนดให้การโอนเงินเกิน 50,000 บาท จะต้องสแกนหน้า ทําให้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ โดยให้ “ม้า” หรือผู้ที่ขายบัญชี หลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อไปจะมีการจัดที่พักให้โดยมีหน้าที่คอยสแกนหน้าเมื่อมีการโอนเงิน เมื่อบัญชีถูกระงับก็จะเดินทางกลับมา โดยส่วนใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะให้ “ม้า” เปิดบัญชีคนละ 5 บัญชี ได้ค่าจ้างรวม 15,000 บาท ส่วนตนได้ค่าตอบแทน 5,000 บาท

การซื้อขายอาวุธปืนและกระสุนปืน ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยพบว่ามีมีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้ขยายผลและตรวจค้นจับกุม นายธีรยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลางและกระสุนปืน จำนวน 17 รายการ

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งดำเนินการขยายผลจับกุมและทลายเครือข่ายซิมผี บัญชีม้า เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน จึงขอเตือนประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ ให้มีความรอบคอบ อย่าเห็นแก่ประโยชน์เพียงเล็กน้อยในการยินยอมให้มีการซื้อหรือขายบัญชีธนาคาร เนื่องจากผิดกฎหมาย อีกทั้งขอให้ประชาชนพึงระลึกไว้เสมอว่า เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีการติดต่อผ่านโทรศัพท์ หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ในการดำเนินการติดตั้งแอป หรือ Login ระบบใดๆ ทางออนไลน์เด็ดขาด หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบแก๊งหลอกลงทุนคริปโต ยึดทรัพย์ 125 ล้านบาท เตรียมเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผ

ตร.ไซเบอร์ ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อโอนเงิน 115 ครั้ง สูญ 200 ล้านบาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว “ปฏิบัติการ SAVING GOOD MAN ตร.ไซเบอร์ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตร.ไซเบอร์ บุกรวบเจ้ามือหวยลาวรายใหญ่ เงินสะพัดกว่า 10 ล้าน

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เนื่องจากสืบทราบมาว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่พักของ

'ตร.ไซเบอร์' ขยายผล 'แก๊งอายุน้อยร้อยล้าน' จับสาวดูแลเงินเว็บพนัน

พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.บก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 บก.สอท.4 ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงรายที่ ลงวันที่ 7 เมษายน 2567 เข้าทำการตรวจค้นหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

รวบแก๊งอ้างเป็นนายแพทย์ทหาร หลอกอาจารย์สาวมหาลัยดังให้รัก สูญกว่า 3 ล้าน

พ.ต.ท.ราชัญ  ลำใย รอง ผกก.2 บก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม น.ส.อรนิภา(สงวนนามสกุล)  ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม