
3 มิ.ย. 2567 – จากกรณีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้าย 3 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงท้ายทอย เด็กชายอนันต์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือ น้องโอ๊ค อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง จนร่วงจากรถจักรยานยนต์เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนกลุ่มมือปืนได้เร่งเครื่องขับหลบหนี เหตุเกิดเมื่อเวลาตีหนึ่งเศษของวันที่ 2 มิถุนายน 2567 หน้าโรงเรียนสหราษฎร์รังสฤษดิ์ ถนนสายศรีสงคราม-ท่าดอกแก้ว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
โดย พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม ได้เรียกประชุมและสั่งการให้ชุดสืบสวน เช็กกล้องวงจรปิดจากจุดต่างๆ ประกอบการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นพบหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การจับกุมคนร้ายรายนี้ คาดเป็นวัยรุ่นต่างถิ่นที่ชอบอวดศักดา และเข้าไปก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง ซึ่งทางตำรวจได้ข้อมูลทั้งรูปพรรณสัณฐาน และทะเบียนรถคันที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลตามลำดับ ส่วนศพน้องโอ๊คเจ้าหน้าที่ได้ส่งชันสูตรหาวิถีและขนาดกระสุน รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน รวมทั้งเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้ายในชั้นศาล
ต่อมา นางจอมศรี อุ่นกลม อายุ 54 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปากอูน หมู่ 1 ต.ศรีสงคราม แม่ของน้องโอ๊ค ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นลูกชายคนสุดท้องในจำนวน 5 คน หลังรู้ข่าวลูกถูกยิงเสียชีวิต รู้สึกช็อกแทบไม่ทันตั้งตัว เพราะลูกชายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร อยากเห็นหน้าคนร้ายและจะถามว่า ยิงลูกชายฉันทำไม อีกทั้งวันที่ 4 มิถุนายนที่จะถึงนี้ เป็นวันเกิดลูกพอดี แทนที่จะมีความสุขเป่าเทียนวันเกิดกันในครอบครัว กลับต้องมาจุดธูปหน้าศพ
ด้านนางสมพิศ นันท์ศรีบุตร อายุ 56 ปี ป้าของน้องโอ๊ค สะอึกสะอื้นทั้งน้ำตาว่า อยากได้ชีวิตหลานคืนมา เพราะเลี้ยงมาแต่ยังแบเบาะ หลานชายเป็นเด็กขยันรับจ้างเก็บขี้ยางและล้างถ้วยจาน ได้เงินมาก็จะซื้อขนมและน้ำหวานให้แม่ ครอบครัวยากจนไม่มีแม้รถจักรยาน ไม่น่ามาจบชีวิตจากแก๊งเถื่อนป่วนเมืองเลย
โดยจากคำให้การของพยานคือน้องอเล็กซ์วัย 13 ปี เปิดเผยว่าเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ทะเบียน 1 กน 9995 นครพนม มีน้องโอ๊คเป็นผู้ซ้อนท้าย กลับจากบ้านเพื่อนเมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งของวันที่ 2 มิถุนายน มาถึง 5 แยกทางเข้าตลาดสดเทศบาลตำบลศรีสงคราม พบกลุ่มวัยรุ่นส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย ปาแก้วปาขวดบนถนน และขับรถจักรยานยนต์ซ้อน 3 คนกวดไล่ตามมาจนถึงหน้า รร.สหราษฎร์รังสฤษดิ์ คนที่ซ้อนตรงกลางสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใช้อาวุธปืนจ่อยิงทางด้านหลังเข้าท้ายทอยน้องโอ๊คจนตกจากรถ นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน ส่วนคนร้ายได้หลบหนีมุ่งหน้าไปทางบ้านปฏิรูป ต.ศรีสงคราม ภายหลังกู้ชีพ 1669 นำร่างน้องโอ๊คส่ง รพ.ศรีสงคราม แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ. พรชัย ดลรัศมี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เจ้าของคดี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานฯ พร้อมไล่ตรวจกล้องวงจรปิด พบหลักฐานก่อนที่จะเกิดเหตุ เป็นกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทท้าทายกัน เป็นเหตุให้คนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิงเสียชีวิต ชันสูตรศพเบื้องต้นถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าทางบริเวณขมับขวา คาดว่าจะยิงในระยะประชิด ส่วนผู้ก่อเหตุยังคงหลบหนี
ทางด้าน พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้นำทีมสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน มีภาพกล้องวงจรปิดกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนองทะเลาะวิวาทกัน และใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายจนเสียชีวิต โดยได้เร่งสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มใหญ่เมาอาละวาด ควงมีดบุกฟันชายวัย 29 เจ็บสาหัส ปมขัดใจเรื่องกีฬาสี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยสมปรารถนา 2 หมู่ 3 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ เสียสละช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย ย้ำ "ตำรวจคือครอบครัวเดียวกัน" พร้อมดูแลสวัสดิการเต็มที่
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
แม่ค้าผักทรุด! โจรบุกบ้าน กวาดเกลี้ยงทอง-เงินสูญ 6 แสน
พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายลักทรัพย์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ภายในบ้านพักเลขที่ 150/18
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
คลั่งหลอนยายิงเมียดับ ต่อหน้าลูกสาว-ลูกเขย อ้างฝังแค้น 16 ปี
ผู้ต้องหาให้การอ้างปัญหาความคับข้องสะสมยาวนาน ขณะที่ลูกสาว-ลูกเขยยืนยันเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาเอง ทั้งเสพยา พกปืน และข่มขู่ผู้ตายจนต้องย้ายไปอยู่บ้านลูก ก่อนเกิดเหตุสลดกลางบ้านพักในนครพนม


