ตร. คุมตัวหลานนักการเมืองท้องถิ่น​บุกกระทืบรุ่นน้องในบ้าน อ้างโมโหอีกฝ่ายไม่ไปทำงาน

ตำรวจ สภ.บ้านกรวด ยอมเสี่ยงนำตัวหลานนักการเมืองท้องถิ่น​ ที่บุกกระทืบรุ่นน้องถึงในบ้านมาทำแผนและแจ้งข้อหา ทั้งที่เป็นผู้เสี่ยงสูงเพราะแม่ติดโควิด ผู้ต้องหารับบุกกระทืบจริงเพราะโมโหที่จ่ายเงินจ้างรุ่นน้องไปทำความสะอาดบ้าน​ แต่ไม่ยอมไป ด้าน ผกก.ยัน ตร.ไม่ได้ล่าช้าไปตรวจสอบตั้งแต่วันเกิดเหตุ และทำตามขั้นตอน​ จ่อเอาผิดคนให้ข่าวและนำเสนอบิดเบือน 

13 ม.ค.2565 - ความคืบหน้ากรณีที่นางสุดารัตน์ ดำช่วย อายุ 51 ปี ชาวอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้นำคลิปวิดีโอที่นายศุภกร หรือนิค อายุ 30 ปี อาชีพช่างตัดผม ซึ่งเป็นหลานนักการเมืองท้องถิ่น ถือมีดบุกเข้ามาทำร้ายนายธนากร หรือเปรม ดำช่วย อายุ 27 ปี ลูกชายของตัวเองถึงในบ้าน เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ออกมาร้องขอความเป็นธรรม ทั้งอ้างว่าคดีไม่คืบหน้า และถูกญาติของผู้ก่อเหตุเข้ามาข่มขู่ถึงบ้านให้ถอนแจ้งความ จึงกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกรวด และตำรวจชุดสืบสวน ต้องยอมเสี่ยงนำตัวนายศุภกร หรือนิค ผู้ต้องหา​ ซึ่งเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงเพราะแม่ติดเชื้อโควิด เพิ่งครบการกักตัวเมื่อวานนี้ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านที่เกิดเหตุ และสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนคดี พร้อมทั้งแจ้งข้อหา “บุกรุกเคหะสถานและทำร้ายร่างกาย” โดยก่อนจะนำตัวไปทำแผนและสอบสวนก็ได้ทำการตรวจหาเชื้อและวัดอุณหภูมิผู้ต้องหาด้วย

โดยนายศุภกร หรือนิค ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า ได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายนายเปรมในบ้านจริง ด้วยการใช้เท้ากระทืบ ส่วนในคลิปที่ว่าตัวเองถือมีดในมือนั้น ก็เป็นมีดในบ้านของนายเปรม ถือเพื่อขู่เท่านั้นไม่ได้ใช้เป็นอาวุธในการทำร้าย ส่วนสาเหตุที่บุกเข้าไปทำร้ายนายเปรม เพราะโมโหที่ตนเองจ่ายเงินจ้างนายเปรม ไปทำความสะอาดที่บ้านแล้วแต่นายเปรม กลับไม่ยอมไปทั้งที่รับเงินไปแล้ว จึงเกิดความโมโหและทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หลังก่อเหตุตนก็เดินทางไปเยี่ยมแม่​ ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ จ.ชลบุรี ยืนยันว่า​ ไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนี ตามที่เป็นข่าว แต่พอไปถึงต้องกลายเป็นผู้เสี่ยงสูงเนื่องจากแม่ของตนติด covid จึงต้องกักตัวตามมาตรการสาธารณสุข และพอครบการกักตัวเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.65) ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวมาจากจังหวัดชลบุรี ตนทำผิดก็ยอมรับผิดยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่นตามที่ปรากฎในข่าวว่ามีญาติ​ ซึ่งนักการเมืองท้องถิ่นไปข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ

ขณะที่​ ผู้กำกับการ สภ.บ้านกรวด ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เป็นข่าว​ ว่าทางตำรวจไม่ได้รับแจ้งความนั้น ข้อเท็จจริงแล้วคือเหตุเกิดช่วงเช้าแล้วผู้เสียหายมาแจ้งความตอนเย็น ทางตำรวจชุดสืบก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ไม่เจอตัวผู้ต้องหา และไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนโดยการสืบสวนรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นพนักงานสอบสวนก็ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2564 ได้ส่งหมายเรียกและแจ้งบันทึกว่าไม่พบผู้ต้องหา จากนั้นวันที่ 3 ม.ค.2565 ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไปส่งหมายเรียกแต่ก็ไม่พบตัวผู้ต้องหาอยู่ที่บ้าน

กระทั่งวันที่ 6 ม.ค. ชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา ได้ไปหามารดาที่​ จ.ชลบุรี และทราบว่ามารดาผู้ต้องหาติดโควิด ผู้ต้องหาจึงเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวตามมาตรการ ซึ่งระหว่างกักตัวก็ได้ประสาน ตร.ท้องที่เฝ้าติดตาม เมื่อครบกำหนดกักตัวจึงจะนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย และเมื่อครบกำหนดกักตัวเมื่อวานนี้ 12 ม.ค. วันนี้ทาง ตร.ก็ได้ไปรับตัวผู้ต้องหามาทำแผนและแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

ยืนยันว่า​ เจ้าหน้าที่ตำรวจตามกระบวนการขั้นตอนไม่ได้ล่าช้า ตามที่มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด และยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อย่างไรก็ตาม​ หากผู้เสียหายไปให้ข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนไปจากข้อมูลเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบช.ภ. 3 แถลงรวบอดีต ส.อบต. พร้อมแฟนสาวชาวลาว ขนยาบ้าเกือบ 1 ล้านเม็ด

ผบช.ภ.3 แถลงผลการจับกุมของ ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ตชด. ทหาร และปกครอง ไล่ล่าจับกุมทีมขนลำเลียงยาเสพติด ขณะกำลังจะนำยาบ้า มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เกิดไหวตัวทัน ขับรถหลบหนี พร้อมทิ้งยาบ้าเกลื่อนถนน

ทึ่ง! เกษตรกรปลูกทุเรียนน้ำแร่ ทดแทนมันสำปะหลัง-ข้าวโพด สร้างรายได้ปีละ 20 ล้านบาท

นายประเสริฐ กาญจนเกียรติกุล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน 1.3 ล้านไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 97 อาศัยน้ำฝน เกษตรกรปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อไร่ค่อนข้างต่ำ

บุรีรัมย์พายุถล่มยับรอบ 30 ปี โรงเรียน–พระพุทธรูปล้มพังทั้งแถบ

บุรีรัมย์ ระทึก พายุถล่ม ร.ร.หนักสุดรอบ 30 ปี อาคารเรียน บ้านพักครู โรงอาหารพังยับ สะเทือนใจ พระพุทธรูปถูกพัดคอขาด เร่งสำรวจความเสียหายป้องกันความเสี่ยงให้ครู – นักเรียน

ญาติเผยสาเหตุ ตาวัย 74 ตายในรถขณะเดินทางกลับบ้าน ไม่เกี่ยวแอร์ไม่เย็น

ลูกหลานตาวัย 74 ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่นั่งเสียชีวิตในรถยนต์ขณะพาเดินทางกลับบ้านเกิดในวาระสุดท้ายตามความประสงค์ของญาติ ยืนยันเสียชีวิตด้วยโรคชราที่สภาพร่างกายอ่อนแอร์อยู่แล้ว

ช่วงสงกรานต์ คนใช้บริการโรงรับจำนำที่บุรีรัมย์ เพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณ

ปชช.นำของมีค่าใช้บริการโรงรับจำนำที่บุรีรัมย์ เพิ่มขึ้นจากปกติเท่าตัว เพื่อนำเงินไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว ส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่นำมาจำนำเป็นทองคำรูปพรรณกว่าร้อยละ 95 เนื่องจากราคาทองพุ่งสูงจึงเพิ่มวงเงินรับจำนำบาทละ 3 หมื่น เตรียมเงินไว้รองรับบริการกว่า 200 ล้านบาท

เทศกาลสงกรานต์ พวงมาลัยดอกมะลิ ปรับขึ้นราคา อากาศร้อนทำคนซื้อน้อย

ใกล้ถึงวันสงกรานต์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วกลับพบว่ามีประชาชน ออกมาเลือกซื้อหา พวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อนำไปกราบไหว้รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควรเหมือนทุกปี