ศาลจำคุก 'ดร.เซปิง' ไม่รอลงอาญา ฉ้อโกงประชาชน โฆษณาเกินจริงศัลยกรรมเฟซออฟ

19 ก.ย.2567 - ที่ห้องพิจารณา 801 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.742/2562 ที่ น.ส.กนกวรรณ แสงอรุณ โดยมี น.ส.สายชล ศรีสุข ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.เซปิง ไชยศาส์น, นายบทมากร วัฒนะนนท์, บริษัท เอ็ม เอฟ เซอร์เจอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด และ นายกมล พันธ์ศรีทุม เป็นจำเลยที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550, พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525, พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหลอกลวงโจทก์และประชาชน โฆษณาโครงการเฟซออฟศัลยกรรมอย่างปลอดภัยและต้องไร้รอยแผลเป็นความจริงแล้วจำเลยหาได้มีความสามารถทำศัลยกรรมผ่าตัดใบหน้าให้ได้ผลลัพธ์ตามที่กล่าวอ้าง โดยหลังทำศัลยกรรมกับโครงการ มีรอยแผลเป็น และบวมช้ำเกินร้อยละ 10 จากกรณีร่วมกันประกอบธุรกิจโครงการศัลยกรรม “เฟซออฟ”

โดยภายหลังฟังคำพิพากษา นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน หรือทนายเล้ง ทนายความโจทก์ กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่นางสาวกนกวรรณ แสงอรุณ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสาวเซปิง กับพวกรวม 4 คน ซึ่งฟ้องไว้นานตั้งแต่ปี 2562 ล่าสุดศาลวันนี้ศาลได้ตัดสินว่า น.ส.เซปิง เเละนายบทมากร จำเลยที่ 1-2 กระทำผิดตามฟ้อง ใน 3 ข้อหาคือ ฉ้อโกงประชาชน,พรบ.คอมพิวเตอรฯ การกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษ.านฉ้อโกงประชาชนลงโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา

ส่วนบริษัท เอ็ม เอฟ เซอร์เจอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด จำเลยที่3 ที่เป็นสถานพยาบาลโดนปรับฐานโฆษณาเกินจริง 50,000 บาท ส่วนจำเลยที่4 นายกมลซึ่งมีอาชีพเเพทย์มีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาทฐานโฆษณาเกินจริง เเต่ศาลให้รอลงอาญามีกำหนดโทษ 2 ปี เนื่องจากเห็นว่าโทษจำคุกเพียง 6 เดือนถือเป็นโทษน้อย เเละนายกมลมีอาชีพแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือและน่าจะทำประโยชน์กับสังคมได้ ดีกว่านำไปจำคุกระยะสั้นให้โอกาสกลับตัว ซึ่งตนก็เคารพคำตัดสินของศาล เเละก็ขอขอบคุณศาลรวมถึง สื่อมวลชนที่ติดตามคดีมาโดยตลอด

นายภิญโญภัทร์ กล่าวต่อว่าคดีนี้ได้ต่อสู้มาอย่างยาวนาน ตั้งเเค่ปี2562 เนื่องจากอยู่ในช่วงโควิดและฝ่ายโจทก์อยู่ต่างประเทศ ในคดีนี้มี น.ส.กนกวรรณฟ้องเพียงคนเดียว แต่ยังมีอีกคดีที่อยู่ในศาลซึ่งจะมีการสืบพยานในปี 2568 และยังมีผู้เสียหายที่รอการดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตามศาลได้มีคำวินิจฉัยไว้น่าสนใจว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่ตัวแทนนายหน้า มันเกินเลยกว่าความเป็นตัวแทนนายหน้า ซึ่งศาลได้ลงโทษในฐานฉ้อโกง,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงการโฆษณาเกินจริง โดยในคดีนี้ถือว่าโทษสูงที่สุด จากคดีที่ได้ยื่นฟ้องไปส่วนที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องเพียงคนเดียวเเต่ศาลกลับลงข้อหาฉ้อโกงประชาชนได้ เพราะศาลเห็นว่าเป็นการใช้สื่อออนไลน์ในการเผยแพร่ ศาลได้หยิบยกในส่วนนี้มาทำให้ชัดเจนและเป็นข้อกฎหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ แม้จะมีผู้เสียหายเพียงคนเดียวก็ตาม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112

'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112 ระบุเป็นการแสดงความเห็นทั่วไป เเต่สั่งกำชับ ปฏิบัติตามเงื่อนไขเคร่งครัด

ศาลอาญาไม่ให้ประกัน 'เมีย-ลูกหมอบุญ' เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังศาลอ่านคำสั่งไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่น.ส.จารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

'แม่เสี่ยโป้' คอตกนอนคุก คดีเว็บพนัน-ฟอกเงิน หลังหลบหนีนานกว่า 3 ปี

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กก.1 กองบังคับการปราบปราม คุมตัว น.ส.บานเย็น ชาญนรา อายุ 51 ปี มารดาของนายเสี่ยโป้ อานนท์ เป็นผู้ต้องตามหมายจับศาลอาญา คดี “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น