3 ต.ค.2567 - พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม นายดวงดี อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา ถ.บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ข้อหา “แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น และ ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จับกุมที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม.
พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบนครบาลได้ทำการตรวจสอบผ่านสื่อออนไลน์ พบว่า มีการเปิดรับบริจาคในชื่อบัญชี กองทุนอุปถัมภ์วัดในชนบท ซึ่งจากตรวจสอบทราบว่า บัญชีดังกล่าว เปิดบัญชีโดยชื่อ พระครูปลัด ดวงดี ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า พระครูปลัด ดวงดี หรือ นายดวงดี นั้นได้ลาสิขาจากการเป็นพระสงฆ์ตั้งแต่ประมาณปี 2563 โดยไม่ทราบว่าปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่ใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนมาโดยตลอดจนทราบว่า พระครูปลัด ดวงดี หรือ นายดวงดี จะมาปรากฏตัวที่บริเวณห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว จึงไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบชายลักษณะคล้ายพระครูปลัด ดวงดี หรือ นายดวงดี แต่งกายห่มจีวร และสะพายย่ามมาจริง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการซักถามผู้ต้องหารับว่า ตนไม่ใช่พระภิกษุสามเณรแต่อย่างใด โดยได้ลาสิกขาตั้งแต่ประมาณปี 2563 อีกทั้งพบว่า มีการทำตราประทับต่างๆ และ ตราตั้งฐานานุกรม พระครูปลัดรัตนวรเมธี ปลอมขึ้นมาอีกหลายรายการ เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินและรับบริจาคจากประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนไม่ได้เป็นพระสงฆ์จริง แต่เดิมเคยบวชเรียนจริง ต่อมาติดพนันออนไลน์จนเป็นหนี้ และได้หลบหนีหนี้สินจากวัดและลาสิกขาตั้งแต่ปี 2563 ต่อมามีครอบครัว ได้เห็นช่องทางจากแอดโฆษณารับบริจาค จึงได้ทำการเปิดบัญชีธนาคารต่าง ๆในชื่อพระครูปลัด ดวงดี ,กองทุนสาธารณะสงเคราะห์ และ กองทุนอุปถัมภ์วัดในชนบท โดยในการเปิดบัญชีนั้นใช้ตราตั้งฐานานุกรม พระครูปลัดรัตนวรเมธี ซึ่งตนได้ทำปลอมขึ้นมาในการยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนประชาชนที่ชอบทำบุญ บริจาคเงินเพราะคนไทยใจบุญทำให้มิจฉาชีพสร้างเพจปลอมอ้างเป็นพระ/เป็นวัด ชักชวนให้ทำบุญหรือรับบริจาคเงิน จะอ้างตัวเป็นพระ,เณร เปิดเพจหลอกคนทำบุญ โดยขโมยภาพหมาแมวเจ็บป่วยมาขอเงิน อ้างทำบุญบวชพระ ทำบุญโลงศพ สร้างโบสถ์ สร้างเมรุ บวชหมู่ นำเงินไปช่วยเหลือต่างๆ ฯลฯ ฉะนั้น จึงควรมี “สติ” ก่อนทำบุญ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นเพจของวัด พระ หรือหน่วยงานจริงซื้อของทำบุญกับร้านค้าที่มีตัวตนและน่าเชื่อถือ ตรวจสอบบัญชีผู้รับเงินให้ถี่ถ้วน กรณีรับบริจาคในนามบัญชีส่วนตัว ไม่คลิกลิงก์ ไม่แอดไลน์คนไม่รู้จัก ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว สุดท้ายขอให้ทุกท่านมีสติ
“ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ”หากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพให้รีบโทรแจ้ง AOC 1441 ทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บอสณวัฒน์' ควง 'ชาล็อต' แถลง กลโกงมิจฉาชีพทำสูญเงิน 4 ล้าน!
หลังจากที่ทางเพจ Miss Grand Thailand ได้โพสต์ว่านางงามสาว ชาล็อต ออสติน ถูกมิจฉาชีพหลอกเงินกว่า 4 ล้านบาทรวมถึงบังคับให้วิดีโอคอลตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ล่าสุด ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้พา ชาล็อต ออสติน แถลงข่าว
แฟนนางงามส่งกำลังใจให้ 'ชาล็อต' หลังมิจฉาชีพหลอกเงินกว่า 4 ล้าน!
ทำเอาแฟๆนเป็นห่วงไม่น้อย เมื่อทางเพจ Miss Grand Thailand ได้โพสต์ว่านางงามสาว ชาล็อต ออสติน ถูกมิจฉาชีพหลอกเงินกว่า 4 ล้านบาทรวมถึงบังคับให้วิดีโอคอลตลอด 24 ชั่วโมง
รวบเครือข่ายยาเสพติด 'เอิร์ธ บางกรวย' ยึดยาไอซ์ 390 กก.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
ตำรวจรวบ 'ครู NEWtsbs' ติวเตอร์ชื่อดังย่านสีลม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
คุก! ศาลไม่ให้ประกัน 'เมียตั้ม ษิทรา' หวั่นหลบหนี
ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้