คุก 3 ปี สาวเจ้าของร้านเพชร ให้การเท็จหา 'พ่อค้าหมูปิ้ง' ชิงเพชร 15 ล้าน

พ่อค้าหมูปิ้ง อดีตแพะคดีชิงเพชร
แฟ้มภาพ

20 ม.ค.2565 - ศาลอาญาธนบุรี มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1150/2562 ที่นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อาชีพ พ่อค้าหมูปิ้ง อดีตแพะคดีชิงเพชร อดีตจำเลยคดีวิ่งราวเพชรมูลค่า 15 ล้านบาท เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.บุญญรัตน์ รัศมีสุขานนท์ จำเลยที่ 1 บริษัท กาแล็คซี่ไดมอนด์ จำกัด จำเลยที่ 2 นายดีวัง กุมาร ชีวันทิลาล ซังกาวี จำเลยที่ 3 นางประยอม ตันสถาพร จำเลยที่ 4 ในความผิดฐานนำความเท็จฟ้องผู้อื่น ฯ และเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 175, 177

พฤติการณ์กล่าวหาคดีนี้ สรุปว่า เมื่อเดือนเม.ย. 2560 พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องโจทก์คดีนี้ เป็นจำเลยต่อศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์และหน่วงเหนี่ยวกักขัง จากที่เกิดเหตุมีคนร้ายคือนายแดง วิ่งราวทรัพย์แหวนเพชร 4 รายการ ของจำเลยที่ 1 ซึ่งประกอบอาชีพขายเพชรที่นำไปขายให้นายแดง ที่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านภาษีเจริญ โดยคนร้ายได้กักขังจำเลยที่ 1 ไว้ในบ้านแล้วได้หลบหนีไปพร้อมถาดแหวนเพชร

ภายหลังเมื่อมีการแจ้งเจ้าพนักงานตำรวจได้ส่งรูปบัตรประชาชนของโจทก์ที่เคยใช้สำหรับเปิดใช้มือถือ ให้จำเลยที่ 1 ดู แล้วแจ้งว่าโจทก์คือนายแดง และได้มีการสอบจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นแม่บ้านเป็นพยาน โดยเมื่อเดือน ก.ค. 2560 จำเลยที่ 1 ขอเข้าเป็นโจทกก์ร่วมคดีดังกล่าว และบริษัทจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 3 มอบอำนาจจำเลยที่ 1 ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วย ซึ่งภายหลังจำเลยที่ 1 และที่ 4 ได้เข้าการเบิกความคดีดังกล่าว โดยการเบิกความนั้นเป็นเท็จ ปรักปรำให้โจทก์ต้องได้รับโทษทางอาญา

โดยชั้นตรวจฟ้อง ศาลมีคำสั่งรับฟ้องเฉพาะข้อหาเบิกความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา 177 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 1 และ 4 ส่วนข้อหาอื่นให้ยก และยกฟ้องจำเลยที่ 2-3 ขณะที่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 และ 4 ให้การปฏิเสธ

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า การที่จะเบิกความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา 177 ผู้กระทำจะต้องกระทำโดยเจตนาคือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่นำมาเบิกความนั้นเป็นเท็จ โดยจำเลยที่ 1 เบิกความเป็นพยานในคดีดังกล่าวซึ่งยืนยันว่าโจทก์คือนายแดงคนร้ายที่วิ่งราวทรัพย์ โดยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์ไม่ใช่นายแดง ซึ่งคำเบิกความดังกล่าวหากศาลฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยที่ 1 เบิกความจะมีผลให้ได้รับโทษ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตาม มาตรา 177 วรรคสอง

สำหรับจำเลยที่ 4 ไม่ปรากฏว่าเคยพบกับนายแดงมาก่อนเกิดเหตุ อีกทั้งในวันเกิดเหตุได้พบกับคนร้าย 2 ครั้งแต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน และเมื่อมีการวัดความสูงเปรียบเทียบโจทก์กับคนร้าย ภายหลังจำเลยที่ 4 จึงเบิกความใหม่ว่าโจทก์ไม่ใช่คนร้าย เมื่อไม่ปรากฏเหตุจูงใจที่จะทำให้เห็นได้จำเลยที่ 4 มีเจตนาเบิกความอันเป็นเท็จ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีข้อสงสัยตามสมควรว่าจำเลยที่ 4 กระทำผิดหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งข้อสงสัยให้ ตามประมวลกฎหมายวิธิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 227 วรรคสอง

ศาลจึงพิพากษาว่า น.ส.บุญญรัตน์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 177 วรรคสอง ให้จำคุก 3 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 4

สำหรับคดีเพชรถูกโจรกรรม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท เกิดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2559 ในบ้านแห่งหนึ่งเขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ และตำรวจติดตามไปจับกุมตัวนายพิสิษฐ์ ได้ที่บ้านเช่าในจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 และถูกอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลย และถูกขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ระหว่างการพิจารณาคดีเป็นเวลา 7 เดือน 10 วัน จนกระทั่งศาลอาญาธนบุรีพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 จึงปล่อยตัวสู่อิสรภาพ

ต่อมาฝ่ายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2561 จากนั้นฝ่ายโจทก์ก็ไม่ได้ขอยื่นฎีกา คดีแพะชิงเพชรจึงคดีสิ้นสุดในวันที่ 24 ธ.ค. 2561

ดังนั้นนายพิสิษฐ์ จึงได้นำคดีไปร้องเรียนหลายหน่วยงานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และมายื่นฟ้องต่อศาลเป็นคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยศาลอาญาธนบุรี พิพากษาลงโทษจำคุก น.ส.บุญญรัตน์ จำเลยที่ 1 ในคดีนี้ฐานเบิกความเท็จ เป็นเวลา 3 ปี ดังกล่าว

ภายหลังศาลอาญาธนบุรี มีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี น.ส.บุญญรัตน์ รัศมีสุขานนท์ จำเลยที่ 1 ฐานเบิกความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา 177 แล้ว ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ โดยมีหลักประกัน 150,000 บาท

'พ่อค้าหมูปิ้ง-อดีตแพะคดีชิงเพชร' ลุ้น 20 มกรา ทวงคืนความยุติธรรม

ชำแหละปฏิรูปตร.หมกเม็ด สกัดอัยการ-ไม่แก้จับแพะ

ศาลอาญาธนบุรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบครูหนุ่มคาห้องพักครู ถ่ายคลิปลับนักเรียนสาวปล่อยโซเชียล พบเหยื่อกว่า 10 ราย

สืบนครบาลบุกรวบครูหนุ่มคาห้องพักครู ถ่ายคลิปลับนักเรียนสาวปล่อยโซเชียล พบเหยื่อกว่า 10 ราย ชี้เป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง

กสม. ชี้คดีฆ่าป้าบัวผัน ขัดต่อหลักสิทธิในกระบวนการยุติธรรม จ่อยื่นอสส.เอาผิดจนท.

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ติดตามข่าวเหตุการณ์ข้างต้นมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ไม่เป็นไปตามหลักสิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของผู้ต้องหาหรือจำเลย

เด้งอีก! สั่งย้าย ผกก.สภ.อรัญประเทศ ไปช่วยราชการ เซ่นพิษลุงเปี๊ยก

พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่ 15/2567 ลงวันที่ 18 ม.ค. เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่ 12/2567 ลงวันที่ 17 มกราคม 2567 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กมธ.ตำรวจ ถกปมจับแพะคดีป้าบัวผันเป็นวาระด่วน ชี้ต้องแก้กฎหมายลงโทษเด็ก

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเยาวชนรุมทำร้ายร่างกายน.ส.บัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ จนเสียชีวิต ทางกมธ.จะมีการตรวจสอบอย่างไรว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

สั่งเด้ง รองผกก.สืบสวน สภ.อรัญประเทศ เซ่นคลิปเสียงขู่บังคับ ลุงเปี๊ยก ให้รับสารภาพ

พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้มีคำสั่งที่ 13 /2567 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

'บิ๊กโจ๊ก' เผยมีหลักฐานใหม่ ลุงเปี๊ยกถูกซ้อมบีบรับสารภาพ ยันไม่ช่วยเหลือลูกตำรวจ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีหลักฐานคลิปวิดีโอและพยานให้ข้อมูลมายังตนเองว่า ลุงเปี๊ยก ถูกกลุ่มคนใช้ถุงดำคลุมศีรษะซ้อม ล่ามโซ่ และบีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านางบัวผัน