
ตร.ไซเบอร์รวบหนุ่มจีนสาวไทยขบวนการหลอกลงทุนคริปโต เสียหายกว่า 30 ล้านบาท เอี่ยวฟอกเงินหลายคดี พิรุธเจอสลิปเงินหมุนเวียนกว่าหมื่นล้าน
23 ก.พ.2568 – ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5, พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. และพ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.ตอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตร.ไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ EXIT SCAM ทลายขบวนการหลอกลงทุนคริปโต เสียหายกว่า 30 ล้านบาท รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรู อยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงิน
สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ ว่าตนเองได้ถูกคนร้ายหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล โดยได้มีบุคคลใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีติดต่อเข้ามาทางสื่อสังคมออนไลน์ จากนั้นได้ชวนพูดคุยจนเกิดความไว้ใจและเชื่อใจกัน ต่อมาคนร้ายได้ชักชวนให้ลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินลงทุน โดยช่วงแรกสามารถถอนเงินที่เป็นผลกำไรได้จริง แต่เมื่อลงทุนในจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ กลับถอนเงินไม่ได้ สุดท้ายสูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนสามารถขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาหลักของขบวนการได้จำนวน 2 ราย เป็นชายสัญชาติจีน 1 ราย และหญิงสัญชาติไทย 1 ราย และยังพบอีกว่า ผู้ต้องหาดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงออนไลน์อื่นอีก 28 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
จากการสืบสวน ตำรวจไซเบอร์ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อาจมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน โดยฝ่ายหญิงมีอาชีพขายสินค้าย่านประตูน้ำ ต่อมาชายชาวจีนซึ่งมีภรรยาและครอบครัวอยู่แล้วได้มาพบรักจนมีความสัมพันธ์กันฝ่ายหญิงจึงเปิดบัญชีคริปโตให้ชายชาวจีนใช้ จากนั้นได้ร่วมกันเปิดร้านขายรองเท้าในย่านเยาวราช ซึ่งมีผลประกอบการไม่ค่อยดีนัก แต่ทั้งคู่กลับใช้ชีวิตหรูหรา ขับรถหรู ใช้สินค้าแบรนด์เนม และสะสมตุ๊กตา Bearbrick กว่า 30 ตัว
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า กระทั่งวันที่ 22 ก.พ.68 พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. ได้ปล่อยแถวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในคดีดังกล่าว จากนั้นได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 5 จุด 1. ห้องพัก คอนโดหรูริมแม่น้ำ ย่านพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. 2. ห้องพัก คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ย่านสาทร เขตยานนาวา กทม. 3. คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ย่านตากสิน แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. 4. ร้านขายรองเท้า ย่านเยาวราช แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. 5. บ้านพักหลังหนึ่ง ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า จากการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารจัดการเงินของแก๊งสแกมเมอร์ในคดีดังกล่าว และเชื่อว่าอาจเป็นกลุ่มฟอกเงินให้แก่ขบวนการ 1. นายเชา สัญชาติจีน อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1138/2568 2. น.ส.นริศราฯ อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1137/2568
พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง 1. ตุ๊กตา Bearbrick จำนวน 30 ตัว 2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง 3. รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น X-1 จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Alphard จำนวน 1 คัน 5. สัญญาปล่อยเช่าคอนโด จำนวน 1 ฉบับ 6. โฉนดคอนโด จำนวน 1 ฉบับ 7. หนังสือเดินทาง (Passport) จำนวน 6 เล่ม 8. ตู้เซฟนิรภัย พร้อมกุญแจ จำนวน 1 ตู้ 9. เสื้อผ้า เครื่องประดับแบรนด์เนม รวมมูลค่าของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้กว่า 20 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน,ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” นำตัวพร้อม
ของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบข้อมูลสำคัญในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา รวมทั้งข้อมูลสลิปโอนเงินกว่า 5,000 รายการ ในระยะเวลาไม่ถึงปี ซึ่งมียอดการโอนแต่ละครั้งตั้งแต่ 1 – 5 แสนบาท ทำให้เชื่อว่าขบวนการดังกล่าวอาจมีเงินหมุนเวียนหมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดในขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตชด.ภ.2 สกัดเก๋งดำ ยึดยาบ้าล้านเม็ด ผัวเมียรับขนมาแล้ว 10 เที่ยว
ตำรวจตชด.ภาค 2 ไล่ล่ารถเก๋งต้องสงสัย สกัดจับได้กลางดึก พร้อมของกลางยาบ้า 1,000,248 เม็ด สองผัวเมียสารภาพสิ้น รับค่าจ้างครั้งละ 6 หมื่น ขนยาให้ “นายจอน” ชาวลาว มากกว่า 10 เที่ยว
ตำรวจแฉยิบ ขบวนการนำข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ให้ 'อดีตบิ๊กตำรวจ' ลอก
ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เปิดเผยถึงการเข้าจับกุม ดร.นางขนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 22 เมษายน 2568
สส.ปชน. ชี้ ครม.เห็นชอบยกเว้นภาษีนำเข้ารถโบราณ ส่อเปิดช่องกลุ่มทุนสีเทาฟอกเงิน
สส.ปชน. ชี้งานจัดแสดงรถยนต์โบราณ ไม่ใช่ซอฟต์พาวเวอร์ แต่เปิดช่องให้ ”กลุ่มทุนสีเทา” ฟอกเงิน ผ่านทรัพย์สินหรูที่ตีมูลค่าตามใจ โดยไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว
'ตำรวจไซเบอร์' จับหญิงลอบนำข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯให้ 'อดีตบิ๊กตำรวจ' ลอก
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) นำหมายศาลเข้าจับกุม นางขนิษฐา (สงวนนามสกุล)ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 22 เมษายน 2568 ในข้อหา “ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”
ระทึก! 'ทวี' เผยคดีฟอกเงิน 'ฮั้วเลือกสว.' คืบหน้ามาก คาด DSI สรุปสำนวนจะส่งฟ้อง จับกุม หรือไม่สิ้นเดือนนี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ในส่วนของคดีฟอกเงิน ที่อ
รวบ 6 คนไทยเปิดบริษัทบังหน้า ฐานเว็บพนันรายใหญ่ นอมินีนายทุนจีน-อินโดฯ
ตำรวจไซเบอร์ รวบ 6 คนไทยเปิดบริษัทฯค้าการเกษตรบังหน้า ก่อนพบเป็นฐานเว็บพนันรายใหญ่เงินสะพัดกว่า 3,200 ล้านบาท "ไตรรงค์"สั่งล่าทั้งขบวนการพบนายทุนอยู่จีนและอินโดนีเซีย อีกรายรวบโจ๋กาฬสินธุ์โพสต์ปืนพร้อมแคปชั่นเย้ยกฎหมาย