สตช.เผยผลปฏิบัติ 17–18 ก.ย. ปลดระงับบัญชีแล้วกว่า 600 บัญชี ย้ำผู้เสียหายแจ้งได้ทุกโรงพัก–สายด่วน 1599 โดยต้องยืนยันตัวตน 5 ข้อเพื่อป้องกันสวมรอย
20 กันยายน 2568 - พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมวางแนวทางการบริหารรับแจ้งความเกี่ยวกับการถูกระงับการทำธุรกรรมทางการเงินชั่วคราว เพื่อเป็นแนวปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศูนย์ PCT) เป็นผู้กำกับดูแล พร้อมกำชับให้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศต้องรับแจ้งความผู้เสียหายทุกราย ซึ่งผู้เสียหายต้องสามารถยืนยันข้อมูลตัวตน 5 ข้อให้ถูกต้อง ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขบัญชีธนาคาร และชื่อธนาคาร เพื่อป้องกันมิจฉาชีพการแอบอ้างตัวตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หากพบว่าเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้แอดมินของแต่ละสถานีตำรวจรวบรวมข้อมูลส่งให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศูนย์ PCT) จากนั้นศูนย์ PCT จะรวบรวมข้อมูลส่งให้ศูนย์ AOC พิสูจน์ทราบเพื่อดำเนินการปลดล็อกโดยเร็ว แต่หากพบว่าเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริง ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไปนั้น
ผลการปฏิบัติในการรับคำร้องขอปลดบัญชีธนาคารของหน่วยงานต่างๆ ในวันที่ 17-18 กันยายน 2568 พบว่าสถิติขอปลดระงับเพิ่มขึ้น โดยวันที่ 17 กันยายน จำนวน 285 บัญชี ส่วนวันที่ 18 กันยายน จำนวน 333 บัญชี เพิ่มขึ้น 48 บัญชี คิดเป็น 15% แบ่งเป็น
ผู้ยื่นคำร้องทุกหน่วย จำนวน 430 คน 618 บัญชี ปลดระงับแล้ว 17 บัญชี จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเกี่ยวกับคดี จำนวน 109 คน 128 บัญชี / ยังไม่พบคดี ส่งต่อเพื่อพิจารณา จำนวน 322 คน 473 บัญชี ปลดระงับแล้ว 14 คน 17 บัญชี
หน่วยงานที่รับคำร้องมากที่สุด ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 113 คน 165 บัญชี รองลงมาคือ สายด่วน 1599 จำนวน 48 คน 81 บัญชี, ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 45 คน 48 บัญชี ตามลำดับ
ช่องทางที่รับคำร้องสูงสุดคือ สถานีตำรวจ 327 ราย, ทางโทรศัพท์ 177 ราย และทางสายด่วน 1599 จำนวน 81ราย
สาเหตุที่ขอปลดระงับ สูงสุดคือเป็นบัญชีส่วนตัว 359 บัญชี, เป็นบัญชีร้านค้า 78 บัญชี, เป็นบัญชีเงินเดือน 74 บัญชี และอื่นๆ 90 บัญชี
ทั้งนี้ นอกจากประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกระงับการทำธุรกรรมทางการเงินชั่วคราว สามารถแจ้งเพื่อขอปลดระงับได้ทางสายด่วนศูนย์ AOC 1441 ยังสามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้เปิดสายด่วน 1599 ในการช่วยเสริมการปฏิบัติให้กับศูนย์ AOC ในการรับแจ้งความอีกช่องทางหนึ่งด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเตรียมออกพระราชกำหนด ตอบโต้สแกมเมอร์ คุมซิมบ็อกซ์-บัญชีม้า
“ไชยชนก” เตรียมออก พรก. ใช้เป็นเครื่องมือปราบสแกมเมอร์ ย้ำ เดินหน้าหลายมาตรการ ทั้งจำกัดซิมการ์ด-เพิ่มขั้นตอนเปิดบัญชีธนาคาร เล็งคุยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาวิธีป้องกันใช้ซิมบ๊อกซ์ ส่วนบัญชีม้าหากพบคนเดิมทำผิดซ้ำในช่วง 3 ปี จ่อห้ามเปิดบัญชีตลอดชีพ ขณะที่ ”ผบ.ตร.“
นายกฯ กำชับ ปปง. ปราบสแกมเมอร์เฉียบขาด 'ฉัตรชัย' ชงขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม
นายกฯ มอบนโยบาย ปปง. ชี้สังคมสนใจภารกิจปราบสแกมเมอร์ ลั่นหากไม่เฉียบขาดโดนตราหน้าไม่มีผลงาน -นานาชาติคว่ำบาตร ‘ฉัตรชัย’ ขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม โวจัดการแล้ว 8 แสนบัญชีม้า
ไม่เอาไว้ ผบ.ตร.สั่งลงดาบรองผู้กำกับการ สน.ดอนเมืองพันบัญชีม้า!
ผบ.ตร.ย้ำเด็ดขาดไม่เอาไว้ ตัดนิ้วร้าย 'รองผู้กำกับการ' พัวพันบัญชีม้า พร้อมสั่งขยายผลคดีถึงที่สุด
ตำรวจเตือนแก๊งบัญชีม้ากระโดดข้ามแดนถูกจับคุก 15 ปี
เตือนแก๊งบัญชีม้ากระโดดข้ามแดน เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
'รุทธพล' สั่งดีเอสไอ สืบสวนกรณีเหยื่อ 128 ราย ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
“มูลนิธิอิมมานูเอล” นำผู้เสียหาย 128 เข้าร้องเรียน หลังถูกหลอกสมัครงานออนไลน์ ปลายทางถูกส่งไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้าในกัมพูชา เหยื่อเล่าความเจ็บปวดแสนสาหัส “ถูกช็อตไฟฟ้าตามตัว และถูกกระบองตี”

