จับเครือข่ายบัญชีม้า ฟอกเงินข้ามชาติ พบเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท

9 ตุลาคม 2568 - พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ.พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตรพ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.หญิง ปวีณวรรณ พลหาญ สว.กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายวิษณุฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ "สบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน" จำนวน 6 หมายจับ  สถานที่จับกุมบริเวณอาคารที่พักย่าน ถนนพระราม4 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรม ในรูปแบบต่างๆ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป และบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจากการสืบสวนพบพฤติการณ์ในคดีของ นายวิษณุฯ มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล และนำไปใช้หลอกผู้เสียหายในการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นต่างประเทศ ผ่านแอปพลิเคชันนิคแชร์ (Nicshare) และมีส่วนร่วมองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงินของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในกลุ่มคนร้ายกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งได้ติดตามจับกุมและทลายขบวนการเครือข่ายอาชญากรรมไปก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายวิษณุ ปรากฏตัวอยู่บริเวณ บริเวณถนนพระราม 4 ซอยปลูกจิตต์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปติดตามจับกุมตัว เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุดังกล่าวข้างต้นพบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับ นายวิษณุฯ อยู่บริเวณดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงแสดงหมายจับศาลอาญา จำนวน 6 หมายจับ ให้นายวิษณุฯ ตรวจสอบ ซึ่งผู้ต้องหาให้การยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นจึงนำตัวผู้ถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อหา โดย นายวิษณุ ให้การว่าเมื่อประมาณปี 2566 ตนได้รู้จักกับนางสาวพรนภาฯ (ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) ผ่านพี่ชายของตน และได้มาชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคารให้ โดยอ้างว่าจะชวนไปค้าขายออนไลน์ ตนจึงส่งภาพหน้าบัตรประชาชนให้ และต่อมาเมื่อเปิดบัญชีธนาคารให้หญิงคนดังกล่าวแล้ว กลับติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมาถูกจับดำเนินคดีตามหมายจับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิเหนาร่วมมือปราบสแกมเมอร์

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือเหยื่อสแกมเมอร์ชาวอินโดนีเซียกลับประเทศ พร้อมเดินหน้าร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและต่อต้านลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว

"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้

จำคุกอ่วม 3 บัญชีม้า พัวพันคดีเว็บพนันมินนี่ แฟนเก่า-พวกรอด

ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 3 จำเลยบัญชีม้า พัวพันเครือข่ายเว็บพนัน “มินนี่” และอดีตนายตำรวจคนสนิทอดีตบิ๊ก ตร. คนละ 2 ปี 3 เดือน 20 วัน ขณะที่แฟนเก่ามินนี่กับพวกอีก 4 ราย ศาลยกฟ้อง เหตุพยานหลักฐานไม่พอ ให้ประโยชน์แห่งความสงสัยถ้

'ประเสริฐ' แจง 'MOUดีอี-บ.สิงคโปร์' หน่วยงานกลั่นกรองตามขั้นตอน ย้ำไม่รู้จัก 'เบน สมิธ'

'ประเสริฐ' แจงตรวจสอบ ‘MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์ Prime Opportunity Fund’ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลั่นกรองตามขั้นตอนโดยละเอียด ทั้งกระทรวงดีอี-กระทรวงการต่างประเทศ-กฤษฎีกา-อัยการสูงสุด’ มั่นใจไร้สิทธิพิเศษและไม่เปิดช่องเอื้อประโยชน์ใคร ชี้เนื้อหาระบุ ‘ทุกอย่างต้องเป็นไปภายใต้กฎหมายไทย-สิ่งใดไม่มีกฎหมายรองรับจะกระทำไม่ได้ ย้ำไม่รู้จัก ‘เบน สมิท’ เป็นการส่วนตัว ร่วมเฟลมถ่ายรูปเพราะได้รับเชิญเป็นสักขีพยานเท่านั้น

ปปง.-ปปช. ลุยสอบจนท.รัฐ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ โยงภาพ 'เบน สมิธ' ลงนาม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์

นักการเมืองไทย-เจ้าหน้าที่รัฐมีหนาว! ภาพคู่ "เบน สมิธ" พ่นพิษ หลัง ปปง. - ป.ป.ช. เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการโยง "เบน สมิธ และบริษัทฯ"