แม่ใจสลาย! ลูก 2 ขวบถูกครูดึงหู เหวี่ยงเข้าฝาผนัง ปล่อยอดข้าวน้ำ นอนสะดุ้งทั้งคืน

หัวใจแม่แทบหยุดเต้น พบภาพลูกวัย 2.6 ปีถูกครูทำร้ายจนนอนสะดุ้ง ส่งเข้าเนอสเซอรี่เหมือนอยู่คุก ปล่อยอดข้าวอดน้ำจนโหยหิว

24 มี.ค.2565 - จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sirikanlaya Phutadnga โพสต์ในกลุ่มห้องนั่งเล่นพ่อแม่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ว่า "ขออนุญาตปรึกษา ลูกชายวัย 2 ขวบ 6 เดือน เริ่มเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กได้ 7 วัน ร้องไห้ทุกวัน ร้องมากร้องน้อยแล้วแต่วัน น้องดื่มนมกล่อง ทานข้าวเอง และเลิกใส่แพมเพิร์สแล้ว พูดสื่อสารได้เป็นประโยค สามารถเล่าเหตุการณ์ที่ไปพบเจอมาได้มีพูดวกวนบ้างตามวัย แม่ไปส่งลูก 08.50 ทุกวัน ไปรับกลับ ตามที่ครูโทรบอก ช่วงบ่ายๆ ลูกพูดทุกวันว่าไม่อยากไปโรงเรียน โรงเรียนมันมืด บางวันลูกบอกว่าไม่ได้ทานข้าว ไม่ได้ดื่มน้ำ บางวันแม่พาขึ้นรถน้องจะดื่มน้ำเยอะๆมากๆ และกลับบ้านมาทานข้าวเยอะมากๆ (แต่แม่ถามครู ครูบอกน้องทานเยอะมากๆ)

มีวันนึงที่แม่แอบไปรับก่อนที่ครูบอก พบว่าน้องยืนร้องไห้คนเดียวด้านนอกห้องแต่อยู่ในบริเวณโรงเรียน ไม่มีครูหรือพี่เลี้ยงเลย แม่เรียกน้องมาที่ประตูแล้วให้น้องไปตามครู บอกว่าคุณแม่มารับแล้ว ครูถึงเดินออกมา วันนี้แม่ไปรับกลับบ้าน มาอาบน้ำให้ลูกพบว่า น้องมีรอยแดงช้ำที่ใบหู 3 ที่ แม่เลยถามว่าโดนอะไรมา น้องบอกว่าครูดึงหู ดึง ดึง ดึง เพราะหนูไม่ยอมเก็บหนังสือ ตอนนี้แม่เสียใจมาก ตกใจมาก ไม่รู้ว่าที่ลูกพูดคือเรื่องจริงไหม ปกติแม่เลี้ยงลูกกับคุณพ่อน้องแค่สองคนไม่เคยฝากใครเลี้ยง ไม่เคยดึงหูลูก คำว่าดึงหูพ่อกับแม่ไม่เคยพูดถึงเลยแม่จะแก้ปัญหานี้ยังไงดี  ลูกโดนกระทำจริงไหม เครียดมากๆ"

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่าเนอสเซอรี่แห่งนี้อยู่ในรั้ววิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขตอำเภอเมืองนครพนม โดยคุณแม่รายนี้ชื่อ น.ส.สายลม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดชลบุรี อาชีพแม่บ้าน ติดตามสามีที่รับราชการทหารมาอยู่จังหวัดนครพนมเมื่อเดือนตุลาคม 64 พร้อมลูกชายวัย 2 ขวบ 6 เดือน ชื่อน้องทะเล(นามสมมติ) ปัจจุบันเช่าบ้านพักอยู่ในพื้นที่ชุมชนกกต้อง ใกล้กับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเทศบาลเมืองนครพนม

น.ส.สายลม เปิดเผยว่าหลังสามีย้ายมาอยู่นครพนม ก็เสาะหาเนอสเซอรี่สถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนให้ลูกชาย มีคนแนะนำว่าเนอสเซอรี่ที่อยู่ในสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับวิทยาลัยฯ จึงนำลูกชายไปสมัครเข้าเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา จ่ายค่าแรกเข้าไปแล้ว 4,800 บาท ส่วนรายเดือนๆละอีก 1,800 บาทยังไม่ได้จ่าย โดยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนแห่งนี้แยกออกเป็น 3 ห้อง ได้แก่ 1.ห้องเด็กเล็ก 2.ห้องเด็กกลาง และ 3.ห้องเด็กโต ลูกของตนอยู่ห้องเด็กเล็กมีเพื่อนร่วมห้องอยู่ประมาณ 9-10 คน

วันที่ 9 มีนาคมถือเป็นวันแรกที่เข้าเตรียมอนุบาล ไม่มีสิ่งผิดปกติอะไร มาถึงวันที่ 10 มีนาคม น้องเริ่มร้องไห้ตอนไปส่งว่ราไม่อยากไปโรงเรียนเพราะมันมืดมาก โดยลูกยืนเกาะรั้วเหล้กไม่ยอมเข้าห้องกับเพื่อน ตัวเองยังคิดว่าคงอยู่ในระหว่างปรับตัว มาเริ่มสงสัยตอนหลังเลิกเรียนลูกจะร้องขอกินน้ำ ทั้งที่ตนเองกรอกน้ำใส่ขวดขนาด 8 ออนซ์ใส่กระเป๋าทุกวัน แต่น้ำในขวดไม่มีการดื่มแต่อย่างใด โดยลูกจะยกขวดน้ำดื่มอย่างหิวกระหาย เมื่อสอบถามครูได้คำตอบว่าทางโรงเรียนมีน้ำให้ดื่มอยู่แล้ว อีกทั้งลูกยังบอกว่าหิวข้าวเมื่อซื้อข้าวกล่องมาน้องจะกินจนเกือบหมด ต่างกันมากกับตอนที่อยู่กับแม่ที่บ้านน้องไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย ตนได้ถามลูกก็บอกอยู่โรงเรียนไม่กินทั้งข้าวและน้ำ ซึ่งเขาจะพูดคำนี้ย้ำบ่อยมาก

น.ส.สายลมเล่าต่อว่าวันที่ 15 มีนาคม เวลา 14.19 น. ตนแอบมารับลูกก่อนเวลาบ่ายสามโมง เห็นลูกชายยืนร้องไห้อยู่คนเดียวนอกห้องจึงรีบถ่ายรูปไว้ และตะโกนเรียกชื่อลูกเด็กจึงหยุดร้องไห้วิ่งมากอดพร้อมกับคำพูดว่า “แม่จ๋าๆ” ตนบอกให้ลูกไปตามคุณครูประจำห้องอายุประมาณ 40 ปีเศษมาพบ เมื่อคุณครูผู้หญิงคนนั้นมาก็บอกให้รอแป๊บก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าของน้องมายื่นให้โดยไม่มีคำพูดทักทายใดๆ ความวิตกกังวลเริ่มเกาะกุมจิตใจกระทั่งวันที่ 18 มีนาคมขณะอาบน้ำให้ลูก เด็กพูดขึ้นมาว่า "หนูล้มโดนผนังโรงเรียน" ตนยังคิดว่าลูกลื่นเพราะเล่นสไลเดอร์ ระหว่างทำความสะอาดร่างกายก็พบรอยช้ำและรอยเล็บที่ใบหูด้านซ้าย 3 จุด ถามไปถามมาลูกบอกว่า “ครูดึง ดึง ดึง” ตอนกลางคืนเขาจะสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาร้องไห้บอกว่าไม่อยากไปโรงเรียนแล้วเพราะครูดึง ดึง ดึง จึงแน่ใจว่าระหว่างอยู่ที่เนอสเซอรี่แห่งนี้ลูกถูกทำร้าย

ตนพร้อมสามีเข้าไปสอบถามผู้บริหาร และขอดูกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร อ้างโน่นอ้างนี้ตนรบเร้าจึงอนุญาตให้ดูคลิปในกล้องวงจรปิดได้ 15 วินาที โดยห้ามบันทึกหรือก๊อปปี้ใดๆทั้งสิ้น

น.ส.สายลมกล่าวว่าภาพที่ตนเห็นในเวลา 15 วินาทีหัวใจผู้เป็นแม่แทบหยุดเต้น เพราะในภาพครูผู้หญิงประจำห้องใช้มือดึงหูลูกชายแล้วเหวี่ยงเข้าฝาผนังอย่างจังจนลูกร้องไห้จ้าต่อหน้าเพื่อนๆอีกหลายคน แต่ผู้บริหารเหมือนจะไม่สะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกลับพยายามที่จะปกป้องคนของตนเองด้วยซ้ำไป แม้แต่คำขอโทษจากปากครูคนนี้ก็ยังไม่มี จึงต้องการให้ทางเนอสเซอรี่แห่งนี้ มีสปิริตแสดงความรับผิดชอบบ้าง แม้จะอ้างว่าได้ให้ครูคนนี้เขียนใบลาออกไปแล้วก็ตาม แต่ตนได้ยินแต่คำพูดหนังสือเอกสารใดก็ไม่มีให้ดู จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คลั่งหลอนยายิงเมียดับ ต่อหน้าลูกสาว-ลูกเขย อ้างฝังแค้น 16 ปี

ผู้ต้องหาให้การอ้างปัญหาความคับข้องสะสมยาวนาน ขณะที่ลูกสาว-ลูกเขยยืนยันเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาเอง ทั้งเสพยา พกปืน และข่มขู่ผู้ตายจนต้องย้ายไปอยู่บ้านลูก ก่อนเกิดเหตุสลดกลางบ้านพักในนครพนม

6 ปี ไม่เข็ดหลาบ! จับหนุ่มเพิ่งออกจากคุก ขนยาบ้าริมแม่น้ำโขง เกือบ 8 หมื่นเม็ด

เลือดโจรเข้มข้น ตชด.จับศิษย์เก่าเรือนจำ พร้อมยาบ้าเกือบ 8 หมื่นเม็ด รถกระบะใช้ลำเลียง พบผู้ครอบครองเป็นหญิง

ม.นครพนม หนุนวิสาหกิจชุมชนแปรรูป 'ลูกอ๊อด' พัฒนาแบบครบวงจรส่งตลาดอาเซียน

มหาวิทยาลัยนครพนม(มนพ.) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา เดินหน้าส่งเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จาก “ลูกอ๊อดและกบ” เพื่อยกระดับอาชีพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนม

ตชด.จัดให้! จับหนุ่มคายพิษเองในแชท โม้ส่งยาบ้าเดลิเวอรี่-ท้าอยากเจอตำรวจ

หนุ่มวัย 33 ท้าทาย ตชด.ผ่านแชท “อยากเจอทีมจับเก่ง” โม้อวดเพื่อนส่งยาบ้าให้ลูกค้าทุกวันไม่โดนจับ สุดท้ายเพื่อนแคปส่งต่อถึงตำรวจ ตชด.237

พบพระพุทธรูปปางเปิดโลก ใต้ซากพระธาตุโนนตาล โบราณสถานคู่เมืองท่าอุเทน

คืบหน้าเกี่ยวกับพระธาตุโนนตาล อายุ 123 ปี ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุหมู่ 9 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นพระธาตุโบราณคู่บ้านคู่เมือง โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ได้พังทลายลงมาทั้งองค์ เมื่อเวลา 09.41 น. วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะชาวบ้าน ต.โนนตาล และละแวกใกล้เคียง ที่มีความเคารพศรัทธาต่อองค์พระธาตุโนนตาลเป็นอย่างมาก