เกษตรกรชาวอำเภอรัษฎา จ.ตรังตัดสินใจโค่นยางพาราหันมาปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ผ่านไป 2 ปีได้หยิบเงินแสน สามารถปลดหนี้และขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มสร้างรายได้กว่า 10,000 บาทต่อวัน ยิ้มได้และเตรียมส่งเสริมเพื่อนบ้านปลูกขายสร้างรายได้เสริม
30 มี.ค.2565 - ที่สวนชินธรณ์ หมู่ที่ 10 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง นายปรีชา พรหมห้อง อายุ 42 ปีเจ้าของสวนกำลังเร่งตัดชมพู่ทับทิมจันทร์บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ หรือกว่า 300 ต้นที่กำลังให้ผลผลิตสุกแดงเต็มต้น เพื่อส่งขายพ่อค้าแม่ค้าที่มีการสั่งจองไว้ล่วงหน้าในราคากิโลกรัมละ 45 บาท ส่วนกิ่งพันธุ์จำหน่ายกิ่งละ 80 บาท ซึ่งปีนี้นับเป็นรุ่นที่ 2 ของการเก็บชมพู่ทับทิมจันทร์ไปขาย ได้วันละประมาณ 300 กิโลกรัม ทำให้มีรายได้กว่า 10,000 บาทต่อวัน โดยมีเกษตรกรมาศึกษาดูงานและเลือกซื้อชมพู่ทับทิมจันทร์กันถึงสวนจำนวนหลายราย
โดยสวนแห่งนี้แต่เดิมเป็นแปลงปลูกยางพาราทั้งหมด ต่อมาเมื่อราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรมีหนี้สิน รายรับไม่พอกับรายจ่าย จึงตัดสินใจโค่นสวนยางพาราในปี 2560 เพื่อหันมาทดลองปลูกทับทิมจันทร์จำนวน 5 ไร่หรือกว่า 150 ต้น ผ่านไป 2 ปีเริ่มเก็บชมพู่ทับทิมจันทร์ขายได้ ปีละ 4-5 รุ่น เกษตรกรจึงตัดสินใจโค่นสวนยางพาราที่เหลือทั้งหมดอีกกว่า 20ไร่ เพื่อขยายพื้นที่ปลูกทับทิมจันทร์จนเต็มพื้นที่ และได้ผลผลิตกว่า 3,000 กิโลกรัมต่อปี สร้างรายได้เพิ่มเป็นทวีคูณหรือกว่า 500,000 บาทต่อปี จนสามารถปลดหนี้ได้ ครอบครัวอยู่สุขสบายและยังจะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งในและต่างจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งที่สวนชมพู่ทับทิมจันทร์แห่งนี้ ได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร ปลอดภัยจากการใช้สารเคมี ผลดก ลูกใหญ่ประมาณ 5-6 ลูกต่อกิโล รสชาติหวาน กรอบ สีแดงสด ผิวเกลี้ยง ให้น้ำหนักดี และเป็นที่ต้องการของตลาด จนมีแทบไม่พอขายในจ.ตรัง นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าชมพู่เป็นผลไม้มงคลที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น วันปีใหม่ ตรุษจีน เทศกาลกินเจ เช้งเม้ง ขึ้นบ้านใหม่ งานบวช งานบุญ หรือซื้อเป็นของฝากสำหรับญาติผู้ใหญ่ในเทศกาลต่าง ๆ อีกทั้งราคาไม่แพง จึงทำให้ชมพู่ทับทิมจันทร์ยังมีแนวโน้มการตลาดที่ไปได้สวย ส่วนใครสนใจสามารถติดต่อได้ทาง FB ชินธรณ์ ชูรัตน์หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 095-2744487
ด้านนายปรีชา พรหมห้อง เกษตรกรผู้ปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์รายใหญ่ในจ.ตรังกล่าวว่า แต่ละปีเก็บได้ 5 รุ่นแต่ละรุ่นสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทดีกว่าปลูกยางพารา ซึ่งตอนนี้ปลูกอยู่ประมาณ 20 กว่าไร่จำนวน 300 กว่าต้นให้ผลผลิตวันละ 300 กิโลกรัม สร้างรายได้เฉลี่ยวันละ 10,000 บาท โดยเก็บไปแล้วประมาณ 3 ตันกว่า ตลาดลูกค้าตอบรับดี รสชาติหวาน กรอบ เป็นเอกลักษณ์ของสวน ปลอดสารพิษมี GAP ราคาหน้าสวนกิโลกรัมละ 45 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก.เกษตรฯ เยียวยาเกษตรกร 3 พันบาทต่อครัวเรือน เตรียมชง ครม. อนุมัติงบ 3 พันล้าน
รองโฆษกรัฐบาลเผย มาตรการเยียวยาครอบคลุมกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน ทั้งพืช-ประมง-ปศุสัตว์ พร้อมเร่งจัดทำรายละเอียดเสนอ ร.อ.ธรรมนัส ก่อนนำเข้าสู่ ครม. พิจารณางบกลาง
ธ.ก.ส.ช่วยเกษตรกรน้ำท่วมออกสินเชื่อฉุกเฉินดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
ธ.ก.ส.ช่วยเกษตรกรน้ำท่วม เตรียมวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท สนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ออกสินเชื่อฉุกเฉินดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
ตรังคึกคัก! ‘นิพิฏฐ์’ เผย ‘ชวน’ ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้
นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ท่านชวน หลีกภัย ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้
ชาวนาอ่างทองใจสลาย น้ำท่วมนาใกล้เก็บเกี่ยว สูญเงินลงทุน รายได้หายไปกับน้ำ
ชาวนาอ่างทองจำนวนมากกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ข้าวใกล้เก็บเกี่ยวไม่ถึง 2 สัปดาห์ถูกน้ำท่วมทุ่ง สร้างความสูญเสีย
ชาวนาพิจิตร ร้องขายข้าวเปลือกแล้วไม่ได้เงิน สูญนับล้านตั้งแต่สงกรานต์
ชาวนาอำเภอตะพานหินรวม 14 ราย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร หลังนำข้าวไปขายให้ท่าข้าวเอกชน


