แม่เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่กระทืบจนสลบ ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด ให้ย้ายโรงเรียนด้วย

19 ก.ย.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีนายเก่งเจริญ ธรรมโหร อายุ 19 ปี รุ่นพี่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมัธยมชื่อดังของอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักเรียนรุ่นน้องในโรงเรียนเดียวกันจนสลบคาที่คือเด็กชายต๋อง อายุ 13 ปี ชั้นมัธยมปีที่ 1 เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 16 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนางลัดดา ขันธะเจริญศักดิ์ อายุ 38 ปี แม่ผู้บาดเจ็บ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม กล่าวโทษนายเก่งเจริญ ธรรมโหร ผู้ก่อเหตุ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งทางแพ่ง และทางอาญา ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด นางลัดดา ขันธะเจริญศักดิ์ อายุ38 ปี พร้อมด้วยนายบุญคง ขันธเจริญศักดิ์ อายุ 64 ปี พ่อแม่ผู้เสียหายได้ออกมาเปิดเผยว่า เบื้องต้นหลังแจ้งความกับทางตำรวจ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไปแล้ว แต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ขอให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ยังไม่มีข้อสรุป ทั้งนี้ตนขอเรียกค่าเสียหายทำขวัญเป็นเงินจำนวน 50,000บาท พร้อมเสนอให้คู่กรณี ซึ่งทำร้ายร่างกายลูกชายย้ายโรงเรียน หากไม่ได้ตามข้อตกลง จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยจากการสอบถามลูกชายยังรับไม่ได้ เพราะแค่โยนลูกตระกร้อถูกรถจักรยานยนต์ คนก่อเหตุก็เดินเข้ามาชกที่ใบหน้าจนทรุดลงกับพื้น แม้ลูกชายจะลุกขึ้นมายกมือไหว้ขอโทษแล้ว ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่หยุดกลับเตะช้ำถึงสามครั้งจนสลบคาที่ ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์เย็บแผลที่ริมฝีปากด้านซ้าย 3 เข็ม และเย็บภายในปากอีก 2 เข็ม รวมเป็น 5 เข็ม และยังมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายจุด ถือว่ากระทำเกินกว่าเหตุ หากผู้ก่อเหตุยอมชดเชยค่าสินไหม และยอมรับผิดตามกฎหมาย ตนในฐานะผู้เสียหายพร้อมที่จะให้อภัย

ขณะเดียวกัน นางหอมหวล อายุ 63 ปี ยายของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่าตนเลี้ยงหลานมาแต่เล็ก พ่อแม่ทำงานรับจ้างในโรงงานที่ กทม. ส่งเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนหนังสือ ยืนยันว่าหลายชายไม่ใช่เด็กเกเร ไม่เคยมีประวัติก่อคดีเสียหาย และไม่เคยหาเรื่องใคร สอบถามหลานชายยืนยันว่า ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ด้วยความหวงรถจักรยานยนต์ ที่เพิ่งดาวน์มาใหม่ได้ไม่ถึงเดือน ส่วนหนึ่งเป็นเงินที่พ่อแม่ส่งให้รวมถึงเงินที่หลานชายเก็บสะสมมาเป็นเงินดาวน์ คงกลัวว่ารถจักรยานยนต์จะเสียหายจนขาดสติ โดยไม่คิดก่อนทำ แต่รถจักรยานยนต์ไม่ได้เสียหายอะไร พอหลังก่อเหตุสอบถามพูดคุยหลานชายยอมสำนึกผิด และขอความเมตตาจากผู้เสียหาย ขอให้เรียกร้องค่าสินไหมตามสมควร แล้วจะไปหาหยิบยืมมาให้ แต่ถ้ามากไปคงไม่มีให้ และขอความเมตตาไม่อยากให้หลานชายย้ายออกจากโรงเรียน เพราะเหลือ 5-6 เดือนจะจบการศึกษา พร้อมรับปากว่าจะอบรมสั่งสอนหลานชายให้ดี เพื่อไม่ให้มีพฤติกรรมลักษณะนี้อีก โดยจะขอเจรจาพูดคุยกับผู้เสียหาย ขอความเมตตา ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมายพร้อมให้หลานชายรับโทษตามความผิดที่ก่อขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงกรานต์นครพนม แห่ขอพรพญานาค

นครพนมสุดคึกคัก สงกรานต์แห่ขอพรพญานาค ถนนข้าวปุ้นอุโมงค์น้ำคึกคัก อากาศร้อนแตะ 40 องศาฯ ในเมืองเล่นสงกรานต์เที่ยงคืน

หนึ่งปีมีครั้ง รับจ้างล้างฮวงซุ้ย เทศกาลเช็งเม้ง ไหว้สุสานบรรพบุรุษ

คณะกรรมการสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม ได้จัดเตรียมทำความสะอาดฮวงซุ้ย ด้วยการตัดหญัา และปรับภูมิทัศน์สถานที่ เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดงานเช็งเม้ง ระหว่างวันที่ 20 มี.ค.-5 เม.ย.67 โดยได้เริ่มมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพ คนไทยเชื้อสายจีนกันแล้ว ทำให้บรรยากาศทั่วไปภายในพื้นที่สุสานคึกคักขึ้นมาทันที

หายปริศนากว่า 1 เดือน ญาติบุกทวงถามคดี 'เสี่ยบ่อนไก่' ไม่คืบหน้า หลังพบจอดรถทิ้งริมโขง

นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่ นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชายและเป็นเจ้าของสนามชนไก่

ภูเก็ต ส่งข้อมูลพฤติกรรม 'ฝรั่งเตะหมอ' เป็นภัยต่อสังคมให้ ตม. แล้ว หลังเพิกถอนวีซ่า

นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมมุกอันดา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต