
4 ต.ค.2565- สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังคงวิกฤต โดยล่าสุดน้ำจากลำน้ำมาศได้หลากเข้าท่วมพื้นที่ตำบลหินโคน อ.ลำปลายมาศเป็นวงกว้างถึง 13 หมู่บ้าน ในจำนวนนี้มีบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม 40 หลังคาเรือนใน 5 หมู่บ้านความสูงเฉลี่ย 50 ซม. ถึง 1 เมตร พื้นที่การเกษตรจมน้ำเน่าเสียหายกว่า 1,700 ไร่ นอกจากนั้นน้ำยังได้หลากท่วมถนนสายลำปลายมาศ –หินโคน เฉลี่ย 30 – 50 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และไหลเชี่ยวแรง ทำให้ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน 4 หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลหินโคนที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปทำงาน ไปโรงพยาบาล หรือไปซื้อของในตัวอำเภอลำปลายมาศได้รับความเดือดร้อน เพราะรถเก๋ง และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านบ้านหินโคน ได้นำรถไถมาดัดแปลงเพื่อให้บริการขนรถจักรยานยนต์และรับส่งชาวบ้านข้ามฝากฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว โดยไม่ได้คิดค่าบริการ แต่ก็ไม่เพียงพอกับจำนวนของชาวบ้านที่ต้องการเดินทางข้ามไปมา จึงได้มีเกษตรกรที่ไร่นาถูกน้ำท่วมเสียหายนำรถไถที่มีอยู่มาดัดแปลงเพื่อรับจ้างขนรถเก๋ง รถจักรยานยนต์ และชาวบ้านที่ต้องการจะข้ามฝากไปมา ทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงน้ำท่วมวันละกว่า 1,000 บาท
นายพงษ์ระพี รักพร้า กำนันตำบลหินโคน กล่าวว่า น้ำจากลำน้ำมาศได้เอ่อท่วมในพื้นที่ตำบลหินโคนเป็นวันที่ 4 แล้ว มีหมู่บ้านได้รับผลกระทบ 13 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวน 40 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมคาดว่าจะเสียหายสิ้นเชิงกว่า 1,700 ไร่ ทั้งยังกัดเซาะถนนในพื้นที่เสียหายหลายสาย แต่ที่ส่งผลกระทบกับประชาชนมากที่สุด คือ น้ำได้หลากท่วมถนนสายลำปลายมาศ – หินโคน เพราะชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลหินโคน และอำเภอห้วยแถลงบางส่วนจะต้องใช้สัญจรไปซื้อของในตัวอำเภอลำปลายมาศ ได้ถูกน้ำท่วมระยะทางยาวกว่า 2 กม. และกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจผลกระทบและความต้องการประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ ส่วนใหญ่ก็ต้องการข้าวสารอาหารแห้ง ฟางอัดฟ่อน และเวชภัณฑ์ยารักษาเกี่ยวกับโรคที่มากับน้ำ เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว และจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็คาดว่าน้ำน่าจะท่วมขังอีกหลายสัปดาห์
ขณะที่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไร่นาเสียหาย ได้นำรถไถมารับจ้างขน จยย.และชาวบ้านฝ่าน้ำท่วมข้ามฝากไปมา บอกว่า ช่วงที่น้ำท่วมไร่นาเสียหายตนเองก็ไม่มีรายได้อย่างอื่น จึงได้พลิกวิกฤตช่วงนี้นำรถไถที่มีอยู่มารับจ้างขนรถ จยย. และชาวบ้านข้ามถนนที่ถูกน้ำท่วม โดยคิดค่าบริการเพียงคันละ 30 บาท หากไม่มีรถแค่ตัวคนข้ามไปมาก็แค่ 10 บาท ก็ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 1 พันบาท.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม
ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
บุรีรัมย์รวมใจ ส่งรถบรรทุกสิ่งของ ช่วยพี่น้องใต้ฝ่าน้ำท่วมใหญ่
เทศบาลนครบุรีรัมย์จับมือมูลนิธิสว่างจรรยาธรรม ระดมของจำเป็นใส่สิบล้อ 2 คัน พร้อมเงินบริจาคกว่าแสนบาท มุ่งหน้าช่วยชาวใต้ที่กำลังเผชิญอุทกภัยรุนแรง
ก.เกษตรฯ เยียวยาเกษตรกร 3 พันบาทต่อครัวเรือน เตรียมชง ครม. อนุมัติงบ 3 พันล้าน
รองโฆษกรัฐบาลเผย มาตรการเยียวยาครอบคลุมกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน ทั้งพืช-ประมง-ปศุสัตว์ พร้อมเร่งจัดทำรายละเอียดเสนอ ร.อ.ธรรมนัส ก่อนนำเข้าสู่ ครม. พิจารณางบกลาง

