ขับไล่ ผอ.โรงเรียน ปล่อยอาคารร้างปลวกแทะ จัดทอดผ้าป่าซื้อรถบัสส่อไม่โปร่งใส

10 ธ.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น หมู่บ้าน ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม นำโดย นายจีรพล หมันที อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านกุตาไก้ ต.กุตาไก้ พร้อมด้วยตัวแทนผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ รวม 12 หมู่บ้าน กรรมการสถานศึกษา และตัวแทนนักเรียน ได้ออกมาประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม เรียกร้องให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม(สพม.นครพนม) มีการตั้งกรรมการสอบสวน และย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมกับคู่หูซึ่งเป็นครูชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่การเงิน สืบเนื่องจากมีการตรวจสอบพบเอกสารหลักฐาน เกี่ยวกับการค้างจ่ายเงิน ปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน ระหว่างปี 2561-2564 จากจำนวนนักเรียนที่จะต้องได้รับ ตามหลักเกณฑ์ รวมกว่า 800 ราย คิดเป็นเงินเกือบ 2.5 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการบ่ายเบี่ยงไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงแก่ผู้ปกครอง

เบื้องต้น ดร.พิศุทธิ์ กิติศรีวรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม(ผอ.สพม.นครพนม) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และสั่งผู้อำนวยการโรงเรียนไปปฏิบัติราชการชั่วคราวที่ สพม.นครพนม ในกิจกรรม”ประวัติศาสตร์อาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ค้ำคูณนครพนม แดนดินแห่งศรัทธาจากตำนานอุรังคธาตุสู่นาคราชบูชา” ระหว่างวันที่ 26-27 ธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่าบุคคลทั้งสองมีความรู้ในเรื่องแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยปฏิบัติหน้าที่ราชการชั่วคราวที่กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สพม.นครพนม ระหว่างวันที่ 8-31 ธันวาคม 65 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทางด้าน นายจีรพล หมันที อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านกุตาไก้ หมู่ 4 ต.กุตาไก้ พร้อมตัวแทนผู้นำชุมชนทั้ง 12 หมู่บ้าน ออกมาเปิดเผยถึงปัญหาการบริหารงานภายในโรงเรียนอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผู้อำนวยการโรงเรียนมาบริหารงานเกือบ 5 ปี ตรวจสอบจากสภาพทั่วไปของโรงเรียน นอกจากการบริหารงานไม่โปร่งใส เคยมีการทักท้วงจากกรรมการสถานศึกษาแต่มีการบ่ายเบี่ยงมาตลอด หากไม่มีการชุมชุมขับไล่ คงไม่มีหน่วยงานมาดูแลแก้ไข

นอกจากปัญหาการบริหารจัดการทุนการศึกษาเด็กยากจน ค้างมานาน 3 ปี ยังมีปัญหาการพัฒนา พบว่าอาคารหลังเก่าที่ก่อสร้าง มาในช่วงก่อตั้งสถานศึกษา เป็นอาคารปูนชั้นเดียวจำนวน 5 ห้องเรียน หลังสร้างอาคารหลังใหม่ ก็ใช้เป็นอาคารเรียนนาฏศิลป์ และทำกิจกรรมของนักเรียน ปัจจุบันถูกปล่อยทิ้งร้าง กลายเป็นที่เก็บของเหมือนโรงขยะ ปล่อยให้ปลวกแทะกิน ทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนได้รับความเสียหาย รวมถึงประตูหน้าต่างอาคารเรียนบางส่วนชำรุดพังเสียหาย ไม่มีการพิจารณาซ่อมแซม น่าเสียดายงบประมาณแผ่นดิน หากมีการซ่อมแซมเชื่อว่าจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง สงสารโรงเรียนอื่นที่ขาดแคลนงบประมาณสร้างอาคาร แต่ที่มีอยู่แล้วกลับไม่ดูแล อีกทั้งสภาพทั่วไปของโรงเรียนไม่เคยปรับปรุงภูมิทัศน์ รั้วโรงเรียนยังเป็นรั้วลวดหนาม ปล่อยให้หญ้าขึ้นรกร้าง ตามพื้นที่โรงเรียนไม่มีนโยบายให้ ครู นักเรียน ร่วมกันพัฒนา ที่สำคัญตู้ยามหน้าโรงเรียน เป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน ยังปล่อยให้ร้างเป็นอาหารปลวกแทะกินเสียหาย น่าอับอายคนผ่านไปมา

นายจีรพล หมันที กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ต้องการให้ สพม.นครพนม มีการตรวจสอบ ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจง คือ ปัญหาเกี่ยวกับการจัดซื้อรถบัสโดยสารโรงเรียน หลังจากคณะศิษย์เก่าร่วมกับทางชุมชนจัดทำผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำเงินสมทบทุนซื้อได้เงินจำนวน 1.4 ล้านบาท สุดท้าย ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่เคยชี้แจงบัญชีรายจ่าย และนำเงินไปซื้อรถบัสโดยสาร ตั้งแต่ปี 2562 โดยไม่มีการหารือและชี้แจงกับชุมชน ที่สำคัญรถบัสโดยสารคันดังกล่าวเสียตั้งแต่ซื้อมาวันแรก ต้องนำไปจอดซ่อมนานกว่า 1 ปี จึงนำใช้งานได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการชี้แจงกับชุมชนว่า จัดซื้อมาในราคาเท่าไหร่ จึงต้องการให้ทาง สพม.นครพนม ช่วยตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส แต่สิ่งหนึ่งที่กลุ่มผู้ปกครองและผู้นำหมู่บ้าน เชื่อว่าการจัดซื้อรถบัสคันนี้มีคนในพื้นที่เป็นผู้นำท้องถิ่นบางคนรู้เห็นเป็นใจด้วย เพราะเท่าที่สังเกตผู้นำท้องถิ่นคนนี้มีอาการลุกลี้ลุกลน มาร่วมสังเกตการณ์อย่างเสียไม่ได้ และไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ จากนั้นก็หลบหน้าหายไปจากโรงเรียน

ขณะเดียวกัน นางธัญญารัตน์ เหลาหนาด อายุ 42 ปี เปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีปัญหาการจ่ายเงินปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนของหลานชาย ที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปกติจะต้องได้รับเงินเทอมละ 1,500 บาท ผ่านมา 4 เทอม ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพิ่งได้รับแค่ 1,500 บาทเมื่อเดือนที่ผ่าน คงเหลืออีก 3 เทอม เป็นเงินจำนวน 4,500 บาท ที่ยังไม่ได้รับ ไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุใด ยอมรับว่าจำนวนเงินดังกล่าวสามารถใช้ประโยชน์ได้มาก สำหรับครอบครัวหลานชายเพราะตนต้องดูแล หลังพ่อแม่แยกทางกันไปทำงานต่างจังหวัด จึงฝากให้ทางผู้บริหารพิจารณาหาทางแก้ไข เพราะถือเป็นสิทธิ์ของนักเรียนที่จะได้รับ และถือว่ามีค่ากับนักเรียนที่ฐานะยากจน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนึ่งปีมีครั้ง รับจ้างล้างฮวงซุ้ย เทศกาลเช็งเม้ง ไหว้สุสานบรรพบุรุษ

คณะกรรมการสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม ได้จัดเตรียมทำความสะอาดฮวงซุ้ย ด้วยการตัดหญัา และปรับภูมิทัศน์สถานที่ เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดงานเช็งเม้ง ระหว่างวันที่ 20 มี.ค.-5 เม.ย.67 โดยได้เริ่มมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพ คนไทยเชื้อสายจีนกันแล้ว ทำให้บรรยากาศทั่วไปภายในพื้นที่สุสานคึกคักขึ้นมาทันที

ปปช.ขอนแก่น ลุยสอบ ผอ.โรงเรียน สุดฉาว เบิกงบใช้ส่วนตัว-วิดีโอคอลสยิว

นายธีรัตน์ บางเพ็ชร รักษาการ ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อ จัดจ้าง ครุภัณฑ์และเอกสารการเบิกจ่ายต่างๆในช่วงที่ผู้อำนวยการฯดำรงตำแหน่ง ก่อนจะพบการร้องเรียนการทุจริตเบิกจ่ายเงินโรงเรียนมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว

แฉพฤติกรรม ผอ.โรงเรียน สุดฉาว ใช้ห้องทำงานเป็นบ้านพัก เข้ากลุ่มเซ็กซ์โฟนไม่จ่ายเงิน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนอนุบาลอุบลรัตน์ โดยพบกับ นายเจษฎา ตันติบัญชาชัย นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ลงพื้นที่มาให้ขวัญกำลังใจครูผู้สอนในโรงเรียนที่เป็นผู้ที่ถูกกระทำและรู้ถึงพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียน และได้ร้องเรียนเข้ามาที่เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในพื้นที่

หายปริศนากว่า 1 เดือน ญาติบุกทวงถามคดี 'เสี่ยบ่อนไก่' ไม่คืบหน้า หลังพบจอดรถทิ้งริมโขง

นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่ นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชายและเป็นเจ้าของสนามชนไก่

10 กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ (8) กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว จ.นครพนม “จากการสงเคราะห์...สู่การพัฒนาทั้งตำบล”

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม เป็น 1 ใน 10 กองทุนสวัสดิการชุมชนจากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัล “ผู้สรรค์สร้างความมั่นคงของมนุษย์ระดับชาติ”

แก๊งโจ๋ต่างถิ่นสุดเถื่อน! แค่มองหน้า โชว์กร่างไล่ยิงวัยรุ่นเจ็บ 1

ความคืบหน้ากรณีน้องเซฟ อายุ 18 ปี ชาวชุมชนน้อยใต้ เขตเทศบาลเมืองนครพนม ถูกแก๋งโจ๋เถื่อนยิงกระหน่ำ บริเวณปากทางเข้าชุมชน ถนนประชาร่วมมิตร