คุมตัวโจรชิงทองทำแผน เจ้าของร้านให้อภัย เพราะเป็นลูกค้าเก่า

คุมตัวโจรชิงทองทำแผนเจ้าของร้านให้อภัยแต่ให้ดำเนินคดีทางกฏหมายเพราะตั้งใจมาชิงทองเผยเสียใจเพราะเคยช่วยเหลือมาถึง 2 ครั้ง ด้านแม่ยายและครอบครัวแทบไม่เชื่อว่าลูกเขยจะกลายเป็นโจร เพิ่งรู้ว่าติดพนันออนไลน์จนต้องกลายเป็นหนี้และรับปากจะกลับตัวกลับใจหลังจากที่เคลียร์หนี้เสร็จ เผยเป็นคนสู้ชีวิตทำงานเก็บเงินค่าสินสอดทองหมั้นเองทุกบาททุกสตางค์

13 ม.ค.2566 - เมื่อเวลา 09.30 น. ตำรวจสภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผู้กำกับการสภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.มาชา แก้วทอง รอง ผกก.ป.พร้อมกำลังตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนและฝ่ายปราบปราม คุมตัวนายกิตติวงศ์ พัทธธรรม อายุ 32 ปี โจรชิงทรัพย์ร้านทอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองห้างทองกชพรโกลด์8ตั้งอยู่เลขที่348 ถ.รัถการ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าเมื่อวานนี้ได้ก่อเหตุเข้าไปชิงสร้อยข้อมือทองคำหนัก1สลึงไป1เส้นและสร้อยข้อมือหนัก1สลึงไปอีกครึ่งเส้นเพราะสร้อยขาดขณะกระชากไปจากมือพนักงานขายของร้าน และถูกจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้ขณะไปทำงานส่งของในพื้นที่อ.แม่ขรี จ.พัทลุง และจากการสอบสวนก็ยอมรับสารภาพว่าที่ก่อเหตุเพราะติดพนันออนไลน์ต้องกลายเป็นหนี้

ตลอดการทำแผน นายกิตติวงศ์ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีตั้งแต่ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 1กช4588 สงขลา มาจอดปากซอย2ถนนรัถการห่างจากร้านประมาณ 50 เมตร แล้วเข้าไปทำทีขอดูทองก่อนที่ชิงทองและวิ่งไปขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปท้ายซอย

และระหว่างการทำแผน นายกิตติวงศ์ ได้ยกมือไหว้ขอโทษเจ้าของร้านและพนักงานในร้านกับสิ่งที่ทำลงไป โดยการทำแผนใช้เวลาเพียงสั้นๆประมาณ20 นาทีและผ่านพ้นไปได้ด้วยดีก่อนที่จะคุมตัวกลับไปยังสภ.หาดใหญ่เพื่อรอดำเนินการทางคดีเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาชิงทรัพย์

ด้าน น.ส.จิตร์สุภา จันทร์ฉายณรุจ อายุ 52ปี เจ้าของร้านเปิดเผยว่าให้อภัยนายกิตติวงศ์ แต่ในทางคดีให้ดำเนินการไปตามกฏหมาย เพราะเคยเป็นลูกค้าเก่าของร้าน ก่อนหน้านี้ก็เคยช่วยเหลือมาแล้วถึง2 ครั้งเพราะนายกิตติวงศ์นำทองไปจำนำที่โรงจำนำและนำตั๋วจำนำมาขายเพื่อเอาเงินไถ่ทองคืนมาและก็นำทองกลับมาขายที่ร้านซึ่งตนก็ไม่หักแม้แต่บาทเดียวเพราะต้องการที่จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน แต่ไม่คิดว่าจะมาทำแบบนี้และเป็นการตั้งใจมาก่อเหตุชิงทองด้วยไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ

ส่วนทางครอบครัวเดิม นายกิตติวงศ์ เป็นชาว อ.สิชล จ.นครศรรีธรรมราช แต่มาทำงานและมีครอบครัวอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านพ่อตาแม่ยายของ นายกิตติวงศ์ ซึ่งอยู่ในย่านถนนรัถการ และได้พบกับนางแกน อายุ 56 ปี แม่ยายของ นายกิตติวงศ์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าทราบเรื่องเมื่อวานช่วงบ่ายตอนที่ตำรวจมาที่บ้านว่าลูกเขยไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง ใจแทบตกไปอยู่ตาตุ่มไม่เชื่อว่าจะเป็นไปด้วย เพราะตอน 7 โมงเช้าเพิ่งพาลูกสาวแรกคลอดอายุ 1 เดือน 5 วันมาฝากเลี้ยงไว้และออกไปทำงาน

แม่แกน บอกว่า ปกติลูกเขยทำงานดูแลรับผิดชอบครอบครัวดีมาก ส่วนเรื่องที่ติดพนันออนไลน์จนกลายเป็นหนี้เพิ่งมารู้เมื่อช่วงต้นปี โดยแม่ซึ่งอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานีเพิ่งเคลียร์ให้ 3 หมื่นบาท และโทรไปขอยืมน้องชายอีก 15,000 บาท และยังไปกู้เงินนอกระบบมาด้วย โดยสัญญาว่าหากเคลียร์หนี้หมดก็จะเลิกเล่นพนันออนไลน์

สาเหตุที่ไปชิงทองก็น่าจะมาจากเรื่องเงินกู้ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขาดให้นำเงินไปใช้หนี้จึงต้องไปชิงทองหาเงินมาใช้หนี้ ตอนนี้หลานทั้งสองคนคนโตผู้ชายอายุ 5 ขวบ คนเล็กผู้หญิงอายุ 1เดือน5 วันตนก็ต้องช่วยเลี้ยงไว้เพราะว่าลูกสาวก็ต้องทำงานและตนตอนนี้ก็ขาหักทำงานไม่ได้ด้วย

ด้านป้าเอียด ซึ่งเป็นป้าของภรรยา บอกว่า หลานเขยคนนี้สู้ชีวิตมากพ่อแม่แยกทางตั้งแต่เด็กและตอนที่มาสู่ขอหลานสาวซึ่งได้เรียกค่าสินสอดทองหมั้นเป็นเงินสด 2 แสนบาทและทองอีก2 บาท

นายกิตติวงศ์ หลานเขยก็พยายามทำงานเก็บเงินค่าสินสอดทองหมั้นเองโดยไม่รบกวนทางบ้านแม่แต่บาทเดียว โดยเงินจะนำมาให้ตนช่วยเก็บสะสมให้ครั้งละ 3,000 บ้าง 5,000 บ้าง รวมทั้งทองก็ทยอยซื้อครั้งละสลึงสองสลึง โดยใช้เวลาเก็บเงินค่าสินสอดทองหมั้นประมาณ1ปีจนครบจึงได้แต่งงาน ตอนที่รู้ข่าวว่าไปก่อเหตุชิงทองตนแทบไม่เชื่อเพราะที่ผ่านมาเป็นคนดีมากสู้ชีวิตมาตลอด โดยหากผ่านพ้นคดีนี้ทางครอบครัวก็พร้อมที่จะให้อภัย

ส่วนแม่แท้ๆของนายกิตติวงศ์ ทราบว่าในวันนี้จะเดินทางจากจ.สุราษฎร์ธานีมาเยี่ยมที่สภ.หาดใหญ่ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการยื่นเรื่องขอประกันตัวหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โจรใต้ป่วนหนัก! เผาโรงไฟฟ้าปัตตานี-สงขลา

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า เมื่อเวลา 23.3. น. วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล

ปชป. ตีปี๊บศึก อบจ. เหน็บกลัวโมโนเรลหาดใหญ่หายโผล่เชียงใหม่

“นิพนธ์-สรรเพชญ-มาดามเดียร์‘ เปิดเวทีระดมความคิดชาวสงขลา กระตุกรัฐบาลกระจายอำนาจ-งบประมาณให้ประชาชนออกแบบการใช้จ่าบภาษีของตัวเอง เหน็บโดนฉกงบฯ รถไฟฟ้าโมโนเรลไปโผล่เชียงใหม่

อบอุ่น ‘บิ๊กโจ๊ก’ กลับบ้านเกิด ย้ำเรื่องคดีความให้ว่าไปตามกฎหมาย

บิ๊กโจ๊กกลับบ้านเกิดเป็นประธานงานคืนสู่เหย้าโรงเรียนวิเชียรชมส่วนหมายเรียกทั้งสองหมายนั้นให้ว่าไปตามกฎหมายตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม

ชาวบ้านสุดทน! สำนักสงฆ์ชื่อดัง จัดงานรื่นเริง ขายเหล้า-เบียร์โจ่งครึ่ม

สำนักสงฆ์ชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา จัดงานขึ้นถึง 7 วัน 7 คืน โดยภายในงานมีการแสดงดนตรีแบบเต็มวง รำวงเวียนครก และการละเล่นอื่นๆ โดยภายในงานจัดให้มีการจำหน่ายสุราและเบียร์