10 ก.พ.2566 - เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายลักลอบขายอาวุธปืนออนไลน์ โดยทำการตรวจยึดอาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 474 กระบอก อาวุธมีทะเบียนจำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 840 นัด
โดยสามารถจับกุมนาย กฤษฏา เหล่าจูม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 776 ม.13 ต.ท่าอินทร์แปลง อ.อราวัณ จ.เลย ข้อหา มีเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือแมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เป็นการกระทําเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน, เสพยา เสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ปืนไว้ในครอบครองโดยนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้(อาวุธสงคราม),มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนายทะเบียน
จับกุม น.ส.กมลชนก สุขแสง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/15 ม.11 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ข้อหา ร่วมกันจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแก่ผู้ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน (บัญชีม้า) และนายดุลพินิจ จีระชาติสกุล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถนนเกาะหวาย อ.เชิงเนิน จ.ระยอง ข้อหาร่วมกันจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแก่ผู้ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการสืบสวนสอบสวนขยายผลหลังจับกุม นายกฤษฏา เหล่าจูม อายุ 29 ปี เมือเดือน มิ.ย.2565 พร้อมของกลาง อาวุธปืนสงคราม อาวุธปืนพกสั้นและเครื่องกระสุนจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้ บก.สส.ภ.4 ทำการสืบสวนขยายผลในเรื่องการซื้อขายอาวุธปืนที่ถูกตรวจยึดมาได้
จากการขยายผลทราบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก โดยมีการติดต่อซื้อขายทางกลุ่มไลน์ ในชื่อกลุ่มครอบครัวมาดิ โดยมีแอดมินของกลุ่มชื่อ @มาดิ7-11หรือนายดุลพินิจ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการประสานงานการซื้อขายของสมาชิก จากนั้นคนที่ซื้อขายปืนจะโอนเงินเข้าบัญชีของน.ส.กมลชนก
"หลังการขยายผลและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแล้ว ก็ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อปิดทำการปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งแรก วันที่ 26 ส.ค. ได้ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 37 จุด โดยเข้าตรวจค้นในโรงงานผลิตอาวุธปืน จำนวน 3 แห่งที่จังหวัดบึงกาฬ จ.พิจิตร และจังหวัดพังงา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมอยู่ในกลุ่มไลน์ครอบครัวมาดิ ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และ พ.ร.บ.ยาเสพติด รวม 15 ราย ตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 10 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 342 นัด ลำกล้องปืนขนาด.38 จำนวน 10 อัน ลำกล้องปืนที่ยังไม่ผลิต จำนวน 14 อัน ท่อลดเสียง จำนวน 2 อัน ซองบรรจุกระสุน จำนวน 4 อัน และยาบ้า 353 เม็ด พร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับผลิตชิ้นส่วนอาวุธปืนจำวนหลายรายการ
ครั้งที่ 2 คือ วันที่ 22 ต.ค.ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 22 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด พรบ.อาวุธปืน 18 ราย ตรวจยึดของกลางอาวุธปืนยาวขนาดต่างๆจำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ จำนวน 13 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,357 นัด, ส่วนประกอบอาวุธปืน 43 รายการ และยาบ้า จำนวน 235 เม็ด"
พล.ต.ท.ยรรยง กล่าวต่ออีกว่า ครั้งที่ 3 ทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน จำนวน 25 เป้าหมาย โดยสามารถจับกุมโรงงานผลิตอาวุธปืน ได้ จำนวน 1 แห่ง ในพื้นที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด และจับกุมผู้กระทำความผิด พรบ.อาวุธปืน และ พรบ.ยาเสพติด รวม 6 รายตรวจยึดของกลางประกอบด้วย อาวุธปืนสงครามอาก้า 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน และเครื่อง กระสุนจำนวน 107 นัด, อาวุธปืนยาว จำนวน 2 กระบอก และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาดต่างๆ จำนวน 3 กระบอก, อาวุธปืนแบงค์กัน พร้อมแม้กกาชีน 5 กระบอก, อาวุปืนพกสั้นตัดแปลงจำนวน 1 กระบอก และเครื่องมือในการผลิตและตัดแปลงอาวุธปืนจำนวนกว่า 40 รายการ
"การกวาดล้างอาวุธปืนต่างๆนั้น มาจากสภาพของการก่อเหตุอาชญากรรมไม่ว่าเรื่องยาเสพติด หรือเรื่องงานบุญงานรื่นเริงของตามจังหวัดต่างๆก็จะมีการก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืน และมีการสะสมกันค่อนข้างเยอะ และนำมาก่อเหตุเป็นประจำ ตร.ภ.4 จึงได้ระดมกำลังกวาดล้างตัดต้นตอ และเร่งระดมอย่างจริงจังต่อเนื่อง ทำทุกมิติในการที่จะกวาดล้างอาวุธปืน จึงเป็นที่มาในการกวาดล้างในขณะนี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันแนวโน้มการซื้อขายอาวุธปืนนั้นมาจากออนไลน์ และกลุ่มไลน์ใต้ดิน ซื้อขายอาวุธปืนดัดแปลง ราคาถูก จึงมีการสะสมกันค่อนข้างเยอะ และนำมาสู่การก่อเหตุ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็จะต้องระมัดระวังอย่างมากในการเข้าจับกุมผู้ต้องหา เพราะมีอาวุธปืนในเกือบทุกคดี”
ผบช.ภ.4 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้เตรียมเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง ซึ่ง ตร.ภ. 4 เรามีการระดมกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง ผู้มีอิทธิพลเรื่องการเมืองก็ไม่หนักใจ เพราะในพื้นที่ ภ. 4 นั้น การเมืองไม่มีในเรื่องของผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะพื้นฐานอาจไม่เหมือนพื้นที่อื่น จึงทำให้เราไม่ได้หนักใจ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 ทั้ง 12 จังหวัด อีสานตอนบนนั้น ได้สั่งการกำชับไปยังทุกสถานีในการกวาดล้างอาชญากรรมโดยเฉพาะอาวุธปืน ซึ่งเน้นย้ำที่จะต้องทำอย่างจริงจังและต้องใช้คำว่าต่อเนื่องด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอมสึกแล้ว! เจ้าอาวาสกลางวันอยู่วัด กลางคืนพาสาวเข้ารีสอร์ท
ที่วัดศรีบุญเรือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่ทางคณะสงฆ์มีการประชุมและมีมติในกรณีภาพหลุดพระพิศาล จันโทภาส เจ้าอาวาสกับหญิงสาวรายหนึ่ง
ขอนแก่นหนาวนาน เกษตรกรปลูกหัวไชเท้า หัวใหญ่ขาวอวบ ขายได้ราคาดี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ บ.หนองโง้ง ม.10 ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแปลงปลูกหัวไชเท้ารายใหญ่ของ นางน้ำทิพย์ แปชา อายุ 43 ปี เจ้าของสวนและทีมงานกำลังนั่งล้างหัวไชเท้า เพื่อนำไปบรรจุถุงละ 10 กก. เตรียมส่งขายที่ตลาด
ตั้งคกก.แก้มิจฉาชีพสวมนิติบุคคล เปิดบัญชีม้าลวงประชาชน
ที่ทําเนียบรัฐบาล นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบัญชีม้าได้เปิดเป็นรูปแบบนิติบุคคล โดยอาศัยความเชื่อถือและนำไปหล
รัฐบาลงัวเงียตื่นล่า ‘บัญชีม้า’
รัฐบาลเปิดยุทธการจัดการ “ล้มบัญชีม้า” ผนึกธนาคาร-ค่ายมือถือ สกัดบัญชีม้า วางเดดไลน์ 30 เมษายนนี้ หากผู้ใช้เบอร์โทร.ไม่ตรงกับแบงกิ้ง ถูกระงับการใช้งาน ประธานวิปรัฐบาลหย่าศึก
รวบผอ.กองฯ แอบถ่ายตำรวจปัสสาวะในปั๊มน้ำมัน พบคลิปเพียบลงกลุ่มลับเก็บเงินสมาชิก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับการประสานงานจาก ร.ต.ท.ติณห์ ติณห์ศิริโรจนกุล รอง สว. (สอบสวน) กด.2 บก.ปปป. (กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการทุจริต
สกัดบัญชีม้า! 'กสิกรไทย' แจ้งลูกค้าโมบายแบงกิ้ง ชื่อ-เบอร์โทรไม่ตรงกัน ดำเนินการก่อน 30 เม.ย
ธนาคารกสิกรไทย ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก KBank Live ว่า จากมาตรการยกระดับความปลอดภัยการใช้งา