23 มิ.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดสงขลารายงานว่า เรือตรวจการณ์ 817 ของกองบังคับการตำรวจน้ำ โดยมี พันตำรวจโทนัฐพงศ์ ตาแก้ว รองผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ (สงขลา) เป็นหัวหน้าชุด นำเรือออกปฏิบัติการไล่ล่าประกบเรือประมงเวียดนาม ที่พยายามเร่งเครื่องขับหนีการจับกุมอย่างเต็มที่ แต่ด้วยยุทธวิธีของตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนาม ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงคราดปลิงทะเล บริเวณเกาะโลซิน จังหวัดปัตตานี หลังจากได้รับแจ้งจากสายข่าวและเรือประมงในพื้นที่ ที่ทำการประมงอยู่บริเวณใกล้เคียงว่า มีเรือประมงสัญชาติเวียดนามลักลอบเข้ามาทำการประมงในทะเลเขตต่อเนื่องบริเวณแลตติจูด7 องศา 57 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 101 องศา 56 ลิปดาตะวันออกซึ่งอยู่ในทะเลเขตต่อเนื่อง ห่างจากเส้นฐานตรง 19 ไมล์ทะเลและห่างจากทุ่นไฟปากร่องน้ำสงขลาไปทางทิศตะวันออกประมาณ 80 ไมล์ทะเล บริเวณเกาะโลซินจังหวัดปัตตานี
โดยเรือตำรวจน้ำวิ่งประกบไล่ล่าเรือประมงเวียดนามที่ขับหนีอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเรือตำรวจน้ำก็ได้ประกาศให้เรือประมงเวียดนามหยุดอยู่ตลอดเวลาในที่สุดก็สามารถหยุดเรือและยอมจำนนให้ทำการจับกุม จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเรือประมงคราดปลิงทะเลสัญชาติเวียดนาม มีลูกเรือประมงจำนวน 5 คนรวมทั้งผู้ควบคุมเรือ จึงได้ทำการจับกุมเรือประมงเวียดนามจำนวน 1 ลำพร้อมลูกเรือ 5 คน และควบคุมเรือกลับเข้าฝั่ง มาจอดที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ถนนแหล่งพระรามเขตเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
หลังจากควบคุมเรือประมงเวียดนามและลูกเรือประมงทั้ง 5 คนกลับเข้าฝั่งแล้ว ก็ได้รับแจ้งจากสายข่าวและชาวประมงในพื้นที่ว่า มีเรือประมงเวียดนามลักลอบเข้ามาทำการประมงคราดปลิงทะเลในเขตน่านน้ำไทย บริเวณแลตติจูด 7 องศา 54 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 100 องศา 52 ลิปดาตะวันออก ซึ่งอยู่ในทะเลเขตน่านน้ำภายใน ห่างจากปากร่องน้ำสงขลา ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 44 ไมล์ทะเล บริเวณเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้นำเรือตรวจการณ์ 817 ออกไปทำการตรวจสอบ ปรากฏว่า ตรวจพบเรือประมงเวียดนามกำลังทำการประมงคราดปลิงทะเล จึงได้ทำการจับกุมพร้อมลูกเรือชาวเวียดนาม จำนวน 6 คนและได้ควบคุมเรือประมงเวียดนามจำนวน 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 6 คน เดินทางกลับเข้าฝั่งเพื่อส่งตัวมอบให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมด ในข้อหาร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456
พันตำรวจโทนัฐพงศ์ กล่าวว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ทางตำรวจน้ำก็ได้ทำการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ซึ่งทางตำรวจน้ำได้รับแจ้งจากสายข่าวและเรือประมงในพื้นที่ทางตำรวจน้ำก็ได้ออกทำการลาดตระเวนและก็เจอ สุดท้ายก็ทำการจับกุมมาดำเนินคดีในพื้นที่ ซึ่งเรือประมงคราดปลิงที่เข้ามาใกล้ในพื้นที่ก็เนื่องจากปลิงทะเลมันจะอยู่บริเวณที่น้ำไม่ลึกมากจนเกินไป ในภาคใต้ตอนล่างที่เป็นเขตรับผิดชอบ เป็นพื้นที่ที่เรือคราดปลิงจะเข้ามาบ่อยครั้ง ก็จะเป็นน่านน้ำภายใน แถวเกาะโลซินหรือแนวชายทะเลของจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี แม้กระทั่งแถวเกาะกระ ซึ่งเป็นดอนลักษณะดอนทราย พื้นที่ลักษณะแบบนี้ จะมีปลิงทะเลอยู่ค่อนข้างจะเยอะ ทำให้เรือประมงสัญชาติเวียดนามลักลอบเข้ามาทำประมงอยู่บ่อย
ทั้งนี้ลำแรกที่เราจับได้ทำการประมงอยู่แถวเกาะโลซิน ลำที่ 2 ล่าสุดที่ทำการจับมาก็เป็นบริเวณเกาะกระ เรือทั้ง 2 ลำเป็นเรือคราดปลิงทั้งหมด จากการสังเกตหลายๆ ครั้งและมีสายข่าวรายงานเรามา พอมีการจับกุมเราจะต้องลากเรือกลับมาเข้าฝั่งในพื้นที่ และจะต้องใช้เวลาค่อนข้างจะนาน ทำให้กลุ่มเรือที่เหลือ ที่ยังไม่โดนจับกุม มีพฤติการณ์ที่ว่า เมื่อเจ้าหน้าที่จับแล้ว เมื่อกลับเข้าฝั่งจะต้องใช้เวลาในการเดินทาง ใช้เวลาในการทำบันทึกจับกุม ซึ่งตรงนี้จะเป็นเวลานาทีทองของเขา หลายๆ ครั้ง ที่พวกตนจะมีการวางแผนย้อนศร ซึ่งลักษณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้ทำสำเร็จมา 2-3 ครั้งแล้ว ก็คือ ชุดนึงจับลากเรือเข้าเพื่อเปลี่ยนความคิดให้เขาคิดว่า เราไม่มาจับเขาแล้ว ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเราใช้เรือตำรวจน้ำอีกชุดนึง เข้าไปในพื้นที่เดิม ก็ตรวจเจอและก็ได้ทำการจับกุมได้ต่อเนื่องจำนวนหลายครั้งแล้ว
ในส่วนสถานีตำรวจน้ำ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ในจังหวัดสงขลามีพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ไปถึงอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส รวมพื้นที่ 4 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดแนวชายทะเลทั้งหมด ในระยะเวลาที่ผ่านมา ทางหน่วยแม่ของกองกำกับการ 7 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากองบังคับการตำรวจน้ำ ได้มีนโยบายมอบลงมา ให้ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทางทะเลเป็นปกติอยู่แล้ว
“อยากฝากถึงพี่น้องชาวประมงทุกคนว่า ช่วยเป็นหูเป็นตา ถ้าเกิดมีเรือประมงทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนามหรือเรือประมงสัญชาติไทยก็ตาม ที่ลักลอบทำการประมงผิดกฎหมาย ก็ขอให้แจ้งมายังตำรวจน้ำและขอให้พี่น้องประชาชน มั่นใจว่า พวกผมพร้อมที่จะรับใช้ พร้อมที่จะปฏิบัติและจับกุมตามความสามารถที่ผมมีอย่างเต็มที่” พันตำรวจโทนัฐพงศ์ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'DE GIFT' (เดอ กิฟท์) เตรียมปล่อยของ โชว์ Performance ที่เวียดนาม
เพิ่งเดบิวท์เปิดตัวซิงเกิล “จะแคร์เพื่อ "Who Cares?" มาบุกตลาด T-Pop ได้ไม่ทันไร ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ไฟแรงวง 'De GIFT’ (เดอ กิฟท์) ภายใต้สังกัด Just Dance Entertainment ที่มาพร้อมกับแนวเพลง Pop Dance & Performance อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตัวแทนของหญิงสาวยุคใหม่ที่พร้อมจะนำเสนอตัวตนและความมั่นใจในแบบของตัวเอง
จับแล้ว! นักโทษหนีช่วงขึ้นศาล ขณะปาร์ตี้ยาบ้าในรีสอร์ตดัง
พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น นายปิยวัฒน์ กองสุราษฏร์
โจรใต้ป่วนหนัก! เผาโรงไฟฟ้าปัตตานี-สงขลา
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า เมื่อเวลา 23.3. น. วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล
ระทึก! ไล่ล่า 13 กิโล จับโจรโกงทอง ประวัติก่อคดีโชกโชน
พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ,พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่สั่งการให้ สืบสวน ชป.1
'เจ้าของร้านมือถือ' หัวร้อน! ชักปืนขู่ชี้หน้าตำรวจ
ร.ต.ต.ธนกฤต สิริกุลวิตรา อายุ 55 ปี รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งแต่งกายด้วยชุดบ้านธรรมดา
'โต๊ะเล็กช้างศึก' เฉือนหวิว 'เวียดนาม' 2-1 ทะลุ 8 ทีมฐานะแชมป์กลุ่ม ฟุตซอลเอเชีย
ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ ไทย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา "โต๊ะเล็กช้างศึก" ลงสนามนัดที่ 3 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ พบ เวียดนาม โดย ไทย การันตีเข้ารอบน็อคเอาต์แน่นอนแล้ว หลังเก็บชัยมา 2 เกมรวด