ผลพวงฝนถล่มเมืองนครพนม รร.ดังเก่าแก่กว่า 114 ปี น้ำท่วมขังอาคาร บ้านพักครู ประกาศปิดเรียน 1 วัน หวั่น นร.ไม่ปลอดภัยจากระบบไฟฟ้า
07 ก.ย.2566 - จากอิทธิพลมีกลุ่มฝนจากประเทศลาว เคลื่อนเข้าปกคลุมพื้นที่ อ.เมือง นครพนม ทำให้มีฝนตกหนักนานกว่า 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00-24.00 น.ของคืนวันที่ 6 กันยายน 2566 โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เจอฝนถล่มจนระบายน้ำออกจากพื้นที่ล่าช้า เนื่องจากประสบปัญหาเศษขยะที่ไหลมากับน้ำ เข้าไปอุดท่อเครื่องสูบน้ำ จนต้องหยุดเครื่องเป็นระยะๆ ทั้งนี้ นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรี ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองนครพนม พร้อมสั่งการให้ระดมกำลัง ผลักดันน้ำรอการระบายลงแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ทุกอย่างจึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ในขณะเดียวกัน กลางดึกของวันเดียวกัน โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดที่มีอายุเก่าแก่ถึง 114 ปี ออกหนังสือด่วนลงในไลน์กลุ่มผู้ปกครอง ประกาศงดการเรียนการสอน ในวันที่ 7 กันยายน 2566 เป็นเวลา 1 วัน สืบเนื่องจากสถานการณ์น้ำ และฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองฯ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ภายในโรงเรียน ทำให้อาคารสถานที่ ตลอดจนบ้านพักครูได้รับผลกระทบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้อาคาร อาจมีไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้นได้ จึงให้มีการตรวจสภาพอาคาร ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ภายใน โดยให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ เป็นเวลา 1 วัน และเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 8 กันยายนที่จะถึงนี้
ล่าสุด วันที่ 7 ก.ย.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร่วมกับป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม รวมถึงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองนครพนม พร้อมทั้งบุคลากรของโรงเรียน ตรวจสอบสภาพรอบบริเวณโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย โดยได้รับทราบจากนายมัฆวาน ประทังคติ ครูชำนาญการ ว่า เนื่องจากรอบบริเวณโรงเรียนมีพื้นที่ต่ำกว่าระดับถนนในเขตเทศบาลฯ เพราะก่อตั้งมานานกว่า 114 ปี เมื่อมีฝนตกหนักน้ำก็จะไหลเข้ามาในโรงเรียน แม้จะสูบออกมันก็จะทะลักเข้ามาเหมือนเดิม แต่เมื่อคืนสถานการณ์หนัก ผอ.รร.ฯจึงสั่งเรียนทางออนไลน์ 1 วัน เพื่อเคลียร์พื้นที่เพราะกลัวเด็กนักเรียน ได้รับอันตรายจากไฟฟ้าในห้องที่น้ำท่วม
ต่อมา ปภ.นครพนม และ ปภ.เทศบาลเมืองนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าน้ำยังท่วมขัง บ้านพักครู อาคารเรียนบางจุด และเครื่องสูบน้ำของโรงเรียนได้รับความเสียหาย จากการที่ระบายน้ำออกจากพื้นที่นานจนเครื่องน็อค จึงใช้ไดร์โว่จำนวน 2 ตัว มาทดแทนไปพลางก่อน ซึ่งทาง ปภ.เทศบาลเมืองฯ พบปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงนำเครื่องสูบน้ำตัวใหม่มาช่วยผลักดันน้ำออกโดยเร็ว
ขณะเดียวกันยังมีนักเรียนบางคน ไม่ทราบประกาศของทางโรงเรียน จึงเดินทางมาเรียนตามปกติ ทางคณะครูจึงแจ้งทางลำโพงอีกครั้ง โดยให้นักเรียนที่มีบ้านอยู่นอกเขตเทศบาลเมืองนครพนม เข้าเรียนออนไลน์ในห้องปฏิบัติการณ์ชั่วคราว
ด้านอุตุนิยมวิทยานครพนม รายงานสถานการณ์ประจำวัน ว่า ปริมาณน้ำฝนเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เขตเทศบาลเมืองนครพนมมีฝนตกหนักมากที่สุด วัดได้ 136 มิลลิเมตร ส่วนพื้นที่อื่นเป็นฝนตกปานกลางเท่านั้น สำหรับวันนี้ตรวจสภาวะอากาศยังไม่พบกลุ่มเมฆฝน ขณะที่ระดับน้ำโขง วัดได้ 5.90 เมตร เพิ่มจากวานนี้ 8 เซนติเมตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อลังการ! อุโมงค์ไฟดาวล้านดวง ชมแสงหลากสีระยิบระยับริมโขงรับลมหนาว
ลานกินลมชมวิว ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นางสงวน มะเสนา รอง ผวจ.นครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศบาลเมืองนครพนม นางสางนงนุช สีทาน้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม
'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว
ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์
แม่เหยื่อคานก่อสร้างถล่ม เล่าทั้งน้ำตา อีกไม่กี่นาทีลูกชายก็จะเลิกงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และ นางกันนิกา ทุมทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายโจ้ผู้ตาย โดยพบว่าบริเวณหน้าบ้านได้มีกางเต็นท์