ชาวบ้านแม่มุใน เดือดร้อนหนัก ฝนถล่มดินสไลด์ปิดทางสัญจร ไฟฟ้าดับ ข้าวสารหมด

ชาวบ้าน “แม่มุใน” เดือดร้อนหนัก ฝนถล่มต่อเนื่อง ดินสไลด์ปิดเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ต้นไม้หักโค่นไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน-ข้าวสารหมด ต้องเสี่ยงขนไปสีหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างทุลักทุเล

20 ก.ย.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านเเม่มุใน ต.เเม่นาจร อ.เเม่เเจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ว่า ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักและดินถล่มภายในหมู่บ้านเเม่มุใน และดินถล่มทับเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จึงทำให้ผืนดินไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้และมีก้อนหินขนาดใหญ่สไลด์ลงมาจากภูเขาทับถนนลูกรัง ทำให้ถนนเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเฉพาะถนนหลักที่ใช้เดินทางไปไร่-สวนของชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หินที่ถล่มถนนซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้า-ออกหมู่บ้าน ทำให้เป็นอุปสรรคใหญ่ในการเดินทางไปซื้อของในเมือง หรือไปหาหมอเมื่อเจ็บป่วย โดยหากจำเป็นต้องเดินทางชาวบ้านจะใช้รถจักรยานยนต์เท่านั้น ส่วนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ เพราะเสี่ยงอุบัติเหตุรถไหลหรือรถตกภูเขาได้ . นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักและลมกรรโชกต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันยังทำให้ต้นไม้หักทับสายไฟของหมู่บ้านเสียหายหลายจุด

“ตอนนี้ไฟดับต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว รถของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าก็ไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมสายไฟฟ้าได้ ทำได้เพียงชาวบ้านต้องใช้รถจักรยานยนต์ไปรับเจ้าหน้าที่มาสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น เพื่อวางแผนการซ่อมเร่งด่วนเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก”ชาวบ้านรายหนึ่งระบุ

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ชาวบ้านได้ช่วยกันเอารถไถของชาวบ้านมาไถเปิดทางใหม่อย่างทุลักทุเล แต่ก็ทำได้เพียงชั่วคราว เพราะฝนยังคงตกลงมาตลอดเวลา ผ่านไป 10-20 นาที ดินก็ถล่มลงมากีดขวางเส้นทางเหมือนเดิม ชาวบ้านทำได้เพียงเฝ้าระวังด้วยการนำรถไถมาคอยดันเกลี่ยดินที่ถล่มลง และยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปสำรวจให้ความช่วยเหลือได้

นายอวยชัย สาทรวนาเวศ อายุ 30 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งสัญจรเส้นทาง กล่าวถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่า การใช้ถนนเข้าออกหมู่บ้านตอนนี้ยากลำบากมาก เพราะฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้เกิดดินถล่ม ซึ่งความรุนแรงในปีนี้หนักกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้เดินทางลำบาก ไฟฟ้าดับเป็นเวลาหลายวันแล้ว ตอนนี้ตนไม่มีข้าวสารเหลือ จึงจำเป็นต้องเดินทางนำข้าวเปลือกไปสีข้าวที่หมู่บ้านใกล้เคียง ห่างออกไปกว่า 10 กิโลเมตร ต้องใช้รถมอเตอร์ไซขนไปครั้งละไม่เกิน 2 กระสอบอย่างทุลักทุเล ในเบื้องต้นตนได้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตั้งแต่วันที่ 17 กันยายนเเล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ปัญหาทั้งเรื่องถนนและไฟฟ้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เยาวชนกะเหรี่ยง เดือดร้อนหนัก! วอนช่วยเหลือตกเป็นเหยื่อแก๊งต้มตุ๋นหลอกเปิดบัญชีม้า

น.ส.แยมุย สายชลพิมาน ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านกลอเซโล ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าลูกสาวตนเป็นผู้เสียหายจากแก็งค์หลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต (สแกมเมอร์) ถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปใช้เป็นบัญชีม้า

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เผยเหตุไม่สงบประเทศเพื่อนบ้าน ทำยอดยึดยาบ้าพุ่ง 3 เท่า

พลตรีประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ได้แถลงผลการปฏิบัติงานของกองกำลังผาเมือง/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 ในห้วง 7 เดือน

‘ผู้ว่าฯเชียงใหม่’ ไม่ท้อแก้ฝุ่น PM 2.5 ล่าสุดสถิติเอาไม่อยู่ เกินเป้าที่กำหนดแล้ว

การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงต้องดำเนินการต่อไปและขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดอย่างเต็มที่

สั่งปิดป่าเชียงดาวตัดตอนลอบเผา

นายนิวัติ บุญมาวงศ์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าเชียงดาว เลขาฯศูนย์สั่งการฯ War room แก้ปัญหาไฟป่าพื้นที่บูรณาการฯ ขสป.เชียงดาว รายงานผลการปฏิบัติควบคุมไฟป่าบริเวณพื้นที่ดอยนาง

ผวาฮีตสโตรก! 'สาธารณสุขเชียงใหม่' เตือน ปชช. 25 อำเภอ

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า อากาศในช่วงนี้อุณหภูมิสูงร้อนอบอ้าวจากอิทธิพลความกดอากาศต่อเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

พายุฤดูร้อนถล่ม 4 จังหวัดภาคเหนือ บ้านเรือนเสียหาย ต้นไม้ใหญ่โค่นล้มเพียบ

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรายงานจาก สอต.พะเยา สอต.เชียงใหม่ สอต.แพร่ และ สอต.เชียงราย เกี่ยวกับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน วาตภัย เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.67 ในพื้นที่ ดังนี้