จับโจรแสบ! ตะเวนงัดบ้านหรูกลางวันแสกๆ สารภาพพร้อมเล่าเรื่องชวนหัวลุก

10 พ.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ รักษาราชการแทน ผกก. สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายกุลภพ (หรือบูม) ไชยพิเดช อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 908/2566 ลงวันที่ 6 พ.ย. 2566 ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งกีดกั้นเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายอย่างน้อย 6 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกคนร้ายบุกรุกเข้าไปในบ้านพักงัดเอาทรัพย์สินไปหลายรายการรวมมูลค่ากว่าสิบล้านบาท

ตำรวจชุดสืบสวนได้หาเบาะและและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกุลภพ และหลบหนีมากบดานในบ้านพักของเพื่อนย่านประเวศ กรุงเทพมหานคร จึงขออนุมัติหมายจับและเฝ้าติดตามกระทั่งพบตัวผู้ต้องหารายนี้ หลบซ่อนในบ้านจึงเข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และนำทรัพย์สินบางส่วนไปขายแล้ว อีกส่วนซุกซ่อนในถังแช่เย็นข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบทรัพย์สินอีกมากมายเกือบร้อยรายการ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยแหวนเงินทอง นาฬิกาแบรนด์เนม พระเครื่องต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย รวม 80 รายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดพร้อมนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางแก้ว พร้อมแจ้งผู้เสียหายมาดูของกลางและชี้ตัวผู้ต้องหารายนี้

พ.ต.อ.นิรันดร์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่และผู้เสียหายเป็นอย่างมาก พอเกิดเหตุมีผู้เสียหายมาแจ้งความ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนไปเร่งตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว จนสามารถจับกุมตัวได้

ด้าน พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง ผกก.สส. สภ.บางแก้ว ระบุว่า จากแนวทางสอบสวนพบว่า คนร้ายเข้าไปก่อเหตุในหมู่บ้านหรู ในช่วงกลางวันแสกๆ ถึงสองวันติด ก่อเหตุวันเดียวถึงสามหลัง ซึ่งการติดตามหาตัวคนร้ายค่อนข้างลำบากเนื่องจากผู้ต้องหาจะอาศัยปีนเข้าข้างหมู่บ้านหรือข้างบ้านเข้าไปก่อเหตุ ซึ่งหลังจากจับกุมตัวได้ พร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการยังไม่มีเจ้าของทรัพย์มาแจ้งความประสงค์ ซึ่งเชื่อว่านอกจากผู้เสียหายหกรายที่มาแจ้งความแล้ว ยังเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้ยังไปก่อเหตุที่อื่นอีก หากผู้เสียหายรายใดที่ถูกโจรขึ้นบ้านและต้องสงสัยว่าจะมีทรัพย์สินในครั้งนี้หรือไม่ สามารถมาขอดูทรัพย์สินที่ สภ.บางแก้ว ได้เช่นกัน ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ที่ทำเพราะติดหนี้การพนันต้องการหาเงินไปใช้หนี้การพนันและใช้จ่ายทั่วไป

คุณธัญญ์ฐ์ดา หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกโจรรายนี้ขึ้นบ้านและขโมยทรัพย์สินไปด้วยเช่นกัน ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ชวนขนหัวลุกว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม ผู้ต้องหาเล่าให้ตนเองและตำรวจฟังว่า พอเข้าไปก่อเหตุในบ้านของตนเองที่ชั้นล่างเสร็จและกำลังขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองที่ห้องนอน ปรากฏว่าผู้ต้องหารายนี้ต้องวิ่งหนีหน้าตั้งออกจากบ้านไปเพราะไปเจอกุมาร สององค์ผมจุก ยืนถอดเสื้อท้าวเอวขวางที่ทางขึ้นบันได ซึ่งถามว่าตนเองเลี้ยงกุมารไว้จริงไหม ยอมรับว่าเลี้ยงไว้จริง เป็นกุมารที่ชื่อว่าพี่จุกกับพี่จันทร์ ซึ่งตนได้บูชามาจากวัดแห่งหนึ่งแถวสวนหลวงเมื่อสี่ถึงห้าปีก่อน และเป็นกุมารที่ตนเองมีความเชื่อความศรัทธาให้มาช่วยปกปักรักษาครอบครัวและทรัพย์สินในบ้าน ที่ผ่านมาเคยได้โชคลาภบ้างแต่ก็ไม่บ่อย และยังเคยฝันถึงก็มี พอถามผู้ต้องหาถึงรูปร่างของกุมารก็บอกตรงกันตามภาพที่ตนเองเอาให้ดู ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่หน้าเหลือเชื่อ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตนเองและครอบครัวหากโจรในวันนั้นไม่เจอกุมารตามที่เขาบอก คงงัดเข้าไปในห้องนอนซึ่งมีทรัพย์สินเงินทองอีกจำนวนมากต้องสูญหายไปอย่างแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับคาวัด! ตำรวจน้ำ สนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง ชาวบ้าน ล้อมจับ 'ปลาหมอคางดำ'

ที่สระน้ำกลางวัดสว่างอารมณ์ หมู่ที่ 9 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม รักษา

เมียโทรหาผัวเก่าช่วยสะเดาะกุญแจ เจอผัวใหม่หึงหวงใช้มีดฟันกันเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดมีผู้บาดเ