สาววัย 19 ถึงบ้านแล้ว หลังถูกลวงไปปอยเปต จับเรียกค่าไถ่ครึ่งแสน

2 ธ.ค.2566 - จากกรณี น.ส.พัชราพร หงษ์จุมพล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม. 16 ต.โนนทอง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เข้า แจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ ว่าน.ส.อทิตยา หงษ์จุมพล หรือน้องมิ้น อายุ 19 ปีลูกสาวถูกเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 50,000 บาท หลังถูกจับตัวข้ามมาไปที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลังจากน้องมิ้นตั้งใจเดินทางไปทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนครู แต่เงินไม่พอ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นพื้นที่ไปที่บ้านของน้องมิ้น ที่ อ.หนองเรือ อีกครั้ง ภายหลังทราบจากแม่ของน้องมิ้นว่าน้องมิ้นปลอดภัยถึงบ้านแล้ว โดยมีญาติพี่น้องเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาผูกแขนเรียกขวัญน้องมิ้นกลับมาตามความเชื่อ ซึ่งทุกคนต่างดีใจที่น้องมิ้นอยู่รอดปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ โดยคุณแม่ไปรับที่ จ.สระแก้วเมื่อคืนที่ผ่านมาและเพิ่งเดินทางกลับมาถึงบ้านที่ จ.ขอนแก่น

น้องมิ้น กล่าวว่า ตั้งใจว่าจะทำงานเพื่อหาเงินมาส่งตัวเองเรียน ไม่อยากให้เป็นภาระของครอบครัว เพราะบ้านก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย และโดยส่วนตัวอยากเรียนมาก จึงไปโพสต์หางานในโซเชียลกระทั่งมีคนทักมาเรื่องงาน ก็ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับงานดังกล่าวจากคนที่ติดต่อมาในแชทส่วนตัว บอกว่าเป็นงานออฟฟิศ แลกเหรียญ ถูกกฎหมาย ได้รับค่าตอบแทนสัญญารายสองเดือน เป็นเงินจำนวน 35,000 บาท ทำงานอยู่ที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ไม่ได้ข้ามไปทำงานต่างประเทศ ด้วยความที่ไม่เคยสมัครงานที่ไหนเลยครั้งนี้เป็นครั้งแรก และมีความตั้งใจว่าต้องการหาเงินส่งตัวเองเรียนไม่อยากให้เดือดร้อนครอบครัวจึงตัดสินใจเดินทางไปตามที่พูดคุยกัน

"เมื่อไปถึงที่ บขส.สระแก้ว ก็มีคนจากบริษัทนั้นพาขึ้นเรือไปกับผู้โดยสารอีกหลายคน โดยพูดเป็นภาษาไทยบอกให้ทุกคนขึ้นเรือเท่านั้น ไม่ได้อธิบายอะไร พอทุกคนขึ้นเรือไปจนหมดเรือแล่นไปได้สักพักก็ได้ยินภาษาที่เขาพูดกันไม่ใช่ภาษาไทย คิดว่าเป็นภาษาเขมร ก็เริ่มใจไม่ดี ว่าจะโดนหลอกมาทำงาน เมื่อไปถึงพบว่าเป็นอาคารคล้ายโรงแรมด้านหน้ามีร้านเหล้า ภายในมีคาสิโน อาคารสวยงาม ก่อนจะเข้าไปยังห้องพักซึ่งอยู่ตรงข้ามกับออฟฟิศ โดยมีบอสเป็นผู้ชายชาวจีน และมีล่ามเป็นหญิงคนไทย เมื่อไปถึงก็ถูกยึดโทรศัพท์เหลือเพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้า ไปอยู่ภายห้องพักรวมกับคนอื่นๆอีกเกือบ 10 คน โดยมีเพียงเตียงสองชั้นให้อยู่และ บางห้องอยู่กันถึง 10 กว่าคนก็มี ช่วงที่ทำงานอยู่ในนั้นไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้สามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้เลย กระทั่ง บอสซึ่งเป็นชายชาวจีนให้ล่ามแปลให้ฟังว่า ครอบครัวตนเองโพสต์ตามหา ทำให้ตนเองทราบว่าพ่อแม่เป็นห่วง จึงขอกลับ แต่ทางบอสไม่ยอมให้กลับ พร้อมให้ล่ามแปลภาษา ขู่ตนเองว่า มึงอยากโดนช็อตไหม"

น้องมิ้น กล่าวต่ออีกว่า ตนเองกลัวอย่างมาก ก็บอกไปว่าไม่อยากโดน บอสจึงให้คุยกับแม่ตามที่พูดว่า ให้เอาเงินมา 50,000 บาท ซึ่งขณะนั้นด้วยความกลัวก็ต้องทำตาม ก่อนจะมาเล่าให้เพื่อนในที่ทำงานฟังว่าถูกเรียกเงิน 50,000 ถึงจะได้ปล่อยตัวกลับ ซึ่งเพื่อนในที่ทำงานก็พากันช่วยโดยโดยมีผู้คุมเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้เป็นคนช่วยเจรจากับบอสให้เพราะเห็นโพสต์ของแม่ที่โพสต์ตามหา จนบอสยอมปล่อยตัว โดยผู้คุมบอกว่าถ้าไม่อยากให้เสียธุรกิจนี้ ก็ควรปล่อยไปเพื่อไม่ให้ธุรกิจต้องพัง ทำให้บอสยอมปล่อยกลับมา ซึ่งผู้คุมที่เป็นคนไทยบอกกับตนเองเพียงว่าดีใจด้วยนะได้กลับประเทศไทยแล้ว ก่อนจะนั่งเรือข้ามกลับมาที่หอพักที่สระแก้ว และใช้มือถือของหอพักโทรศัพท์บอกแม่ไว้ว่าพรุ่งนี้จะกลับบ้าน กระทั่งแม่ขับรถมากับน้ามารับถึงสระแก้ว ซึ่งวินาทีนั้นทั้งดีใจรีบกระโดดกอดแม่และขอโทษแม่ จะไม่ทำแบบนี้อีก และคงไม่คิดหางานทำอีกแล้ว เพียงเจตนาเพราะอยากหาเงินส่งตัวเองเรียนเท่านั้น

ขณะที่นางพัชราพร กล่าวต่ออีกว่า ดีใจอย่างมากที่ลูกสาวปลอดภัย เมื่อวาน ได้รับการติดต่อกลับจากลูกสาวซึ่งใช้เบอร์หอพักโทรมาบอกว่าปลอดภัยถึงแผ่นดินไทยแล้ว พรุ่งนี้จะเดินทางกลับขอนแก่น แต่ด้วยความร้อนใจของแม่จึงรีบขับรถไปกับน้องสาว ซึ่งหอพักแห่งนั้น อยู่ใกล้กับ บขส. จึงเข้าไปสอบถามและทราบจากคนดูแลว่าน้องอยู่ในห้องพักจริงพอไปเคาะห้องทีแรกไม่ใช่คิดว่าจะโดนหลอก

" ลงมาถามคนดูแลก็บอกว่าบอกห้องผิดก่อนจะไปเคาะห้องพักที่ลูกสาวอยู่และพอเปิดประตูมาก็พบลูกสาวจริงๆด้วยความดีใจจึงรีบพากลับบ้านทันที วินาทีที่เห็นลูกสาวดีใจอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือทำให้น้องสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับทางเจ้าของหอบอกว่า ลูกสาวตนเองถือว่าปล่อยตัวออกมาได้เร็วที่สุดเท่าที่มีมา นอกจากนี้ยังมีญาติญาติพี่น้องที่มารอรับลูกหลานที่ไปทำงานที่เดียวกันกับลูกสาวของตนเองด้วยอีกหลายคนบางคนไปทำงานเป็นเดือนก็ยังไม่ได้กลับมาก็มี ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายภาคส่วนโทรศัพท์เข้ามาขอข้อมูลไปแล้วซึ่งก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลืออีกครั้ง"

ด้านนายพิชัย วันตา นายอำเภอหนองเรือ กล่าวว่า เบื้องต้นนั้นทางอำเภอติดต่อประสานกับทางคุณแม่อย่างต่อเนื่องและทราบว่าน้องมิ้นได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยถึงบ้านแล้ว ซึ่งทางอำเภอเอง ก็จะลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวน้องมิ้น เพื่อหาช่องทางในการช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา ซึ่งเบื้องต้นทราบจากทางมารดาว่า น้องเองเพิ่งเรียนจบและต้องการหาเงินส่งตัวเองเรียน โดยจะหาช่องทางต่างๆของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในเรื่องทุนการศึกษา พร้อมทั้งหาอาชีพเสริมให้กับน้อง ได้หาเงินมาเรียนตามที่ตั้งใจ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสื้อแดงอีสานพรึ่บ! ทำบุญ 75 ปี นายกฯ ในดวงใจ จุดบั้งไฟ 90 นัด เสริมมงคล

'เสื้อแดงอีสาน' พร้อมใจทำบุญครบ 75 ปี 'ทักษิณ' พร้อมจุดบั้งไฟถวายองค์พระธาตุขามแก่น 90 นัด เสริมสิริมงคลให้กับครอบครัวชินวัตร และพรรคเพื่อไทย

นักวิชาการแนะทางแก้ 'ปลาหมอคางดำ' เชื่อแพร่พันธุ์ภาคอีสานยาก

ผศ.ดร.พรเทพ เนียมพิทักษ์ หัวหน้าสาขาวิชาประมง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ยังคงไม่พบการแพร่พันธุ์ของปลาหมอคางดำในภาคอีสาน

ชาวขอนแก่นเริ่มไม่เชื่อมั่นรัฐบาล แถลงดิจิทัลวอลเล็ตไม่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็น ภายหลังจากรัฐบาล โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒ์ รมช.คลัง ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล หรือ ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ผู้สมัคร สว.สอบตก ร้อง กกต.ค้านผลเลือกระดับจังหวัด ชี้พบผิดปกติอื้อ

ผู้สมัคร สว.จากหลายกลุ่มที่ไม่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อคัดค้านกรณีภายหลังจากทราบผลคะแนนการเลือก สว.ระดับจังหวัด