รวบแล้ว โจรสาวตระเวนวิ่งราวทอง 3 ร้านรวด หนีข้ามจังหวัด อ้างหาเงินใช้หนี้กู้สร้างบ้านไม่ทัน

รวบแล้วโจรสาวตระเวนวิ่งราวทอง 3 ร้านรวด กลางเมืองบุรีรัมย์ภายในสัปดาห์เดียว หลังชุดสืบภาค 3 สืบจังหวัดบุรีรัมย์ และสืบเมืองบุรีรัมย์ แกะรอยไล่ล่าข้ามจังหวัด สารภาพหาเงินใช้หนี้ที่กู้มาสร้างบ้านและซื้อรถไม่ทันซ้ำมีลูกน้อยต้องเลี้ยง จึงก่อเหตุหวังเอาทองไปขายหาเงินใช้หนี้แต่ไม่รอด ตร.คุมตัวทำแผน

26 ธ.ค.2566 - เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ นำตัว น.ส.สุภาพร เลิศรัมย์ อายุ 29 ปี ชาวตำบลสองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหา “วิ่งราวทรัพย์ (ทองคำรูปพรรณ)โดยใช้ยานพาหนะ" ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังร้านทองที่เกิดเหตุ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จำนวน 3 ร้าน

หลังจาก น.ส.สุภาพร ได้ก่อเหตุวิ่งราวทองคำรูปพรรณ 3 ร้านรวดภายใน 1 สัปดาห์ คือ ร้านมังกรทองเพชรพลอย วันที่ 23 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 14.00 น. ชิงทองหนัก 50 สตางค์ใส่กระเป๋า แต่เจ้าของร้านเห็นก่อนจึงได้คืน ร้านที่สอง คือ ห้างทองมังกรทอง เยาวราช วันที่ 25 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้สร้อยข้อมือทองคำหนัก 50 สตางค์ มูลค่า 17,500 บาท แล้วขี่ จยย.หลบหนี ร้านที่สาม คือ ร้านทองแก้ว เยาวราช ก่อเหตุวันที่ 27 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 08.04 น. ได้สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 2 เส้น มูลค่า 69,000 บาท แล้ววิ่งออกไปขี่ จยย.ที่จอดติดเครื่องไว้หน้าร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซึ่งอยู่ติดกันหลบหนีไป ซึ่งร้านที่สามเฮียเจ้าของร้านพยายามวิ่งไล่ตามคนร้าย จนนิ้วเท้ากลางข้างซ้ายถูกตู้กระจกบาดเลือดไหลได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้ง 3 ร้าน ที่ก่อเหตุวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน

หลังก่อเหตุทั้งตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 3 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแส แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางต่างๆ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา จากนั้นได้นำหมายศาลออกติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนสืบทราบว่าคนร้ายได้นำทองหนัก 50 สตางค์ที่ได้จากร้านที่สอง ไปขายร้านทองในพื้นที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้เงิน 32,000 บาท ส่วนสร้อยข้อมือ 2 เส้นๆละ 1 บาทที่ได้จากร้านสุดท้าย ได้นำไปขายที่ร้านทองใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้เงิน 63,800 บาท

จากนั้นก็ได้นำรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ไปจอดทิ้งไว้ที่ บขส.จังหวัดสุรินทร์ แล้วนั่งรถสองแถวไปลงที่ บขส.ศรีขรภูมิ และนั่งรถตู้โดยสารไปลงที่ บขส.อำนาจเจริญ กระทั่งตำรวจได้นำหมายศาลไปติดตามจับกุมตัวที่ จ.อำนาจเจริญ และนำตัวกลับมาท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดี พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟิน สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้ก่อเหตุ

พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้กล่าวภายหลังนำตัวผู้ต้องหาทำแผนชี้จุดเกิดเหตุทั้ง 3 ร้านทองว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาก็รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุวิ่งราวทองทั้ง 3 ร้านจริง โดยอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะมีหนี้สิน จากการกู้เงินมาสร้างบ้านและซื้อรถ แต่หาเงินใช้หนี้ไม่ทันและมีลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดูด้วย จึงได้ก่อเหตุวิ่งราวทองเพื่อนำไปขายหวังจะเอาเงินไปใช้หนี้ แต่สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจติดคามจับกุมได้ก่อน ส่วนกระแสข่าวที่ว่าคนร้ายติดการพนันออนไลน์จึงได้ก่อเหตุนั้น จากการสอบถามผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้เล่นการพนันออนไลน์ แต่ก่อเหตุ

หลังทำแผนได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมประกอบสำนวน โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบช.ภ. 3 แถลงรวบอดีต ส.อบต. พร้อมแฟนสาวชาวลาว ขนยาบ้าเกือบ 1 ล้านเม็ด

ผบช.ภ.3 แถลงผลการจับกุมของ ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ตชด. ทหาร และปกครอง ไล่ล่าจับกุมทีมขนลำเลียงยาเสพติด ขณะกำลังจะนำยาบ้า มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เกิดไหวตัวทัน ขับรถหลบหนี พร้อมทิ้งยาบ้าเกลื่อนถนน

ทึ่ง! เกษตรกรปลูกทุเรียนน้ำแร่ ทดแทนมันสำปะหลัง-ข้าวโพด สร้างรายได้ปีละ 20 ล้านบาท

นายประเสริฐ กาญจนเกียรติกุล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน 1.3 ล้านไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 97 อาศัยน้ำฝน เกษตรกรปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อไร่ค่อนข้างต่ำ

ญาติเผยสาเหตุ ตาวัย 74 ตายในรถขณะเดินทางกลับบ้าน ไม่เกี่ยวแอร์ไม่เย็น

ลูกหลานตาวัย 74 ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่นั่งเสียชีวิตในรถยนต์ขณะพาเดินทางกลับบ้านเกิดในวาระสุดท้ายตามความประสงค์ของญาติ ยืนยันเสียชีวิตด้วยโรคชราที่สภาพร่างกายอ่อนแอร์อยู่แล้ว

ช่วงสงกรานต์ คนใช้บริการโรงรับจำนำที่บุรีรัมย์ เพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณ

ปชช.นำของมีค่าใช้บริการโรงรับจำนำที่บุรีรัมย์ เพิ่มขึ้นจากปกติเท่าตัว เพื่อนำเงินไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว ส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่นำมาจำนำเป็นทองคำรูปพรรณกว่าร้อยละ 95 เนื่องจากราคาทองพุ่งสูงจึงเพิ่มวงเงินรับจำนำบาทละ 3 หมื่น เตรียมเงินไว้รองรับบริการกว่า 200 ล้านบาท

ลูกหลานไม่ประกันตัว เฒ่าวัย 71 หึงโหด ฆ่าอดีตเมีย อ้างมีชู้ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

คืบหน้าลูกหลานไม่ยื่นประกันตัวตา 71 ฆ่าเมีย เพราะทำใจยอมรับไม่ได้ปล่อยให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเผยทั้งก่อนและหลังหย่าแม่ถูกพ่อทำร้าย

บุกรวบพระ เสพ-ขายยาบ้าภายในวัด ขยายผลจับเครือข่ายเพิ่มอีก 2 ราย

จากกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง ว่ามีพระในวัดแห่งหนึ่ง ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จึงได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง นำโดยนายธนธรณ์พล ไขว้พันธ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง , นายจักร์กฤษ ร่วมกูล