8 ก.พ.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ซุกป่า หลัง พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (ผกก.พฐ.ฯ) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเก็บรายละเอียดของรถยนต์คันดังกล่าว เก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝง ทั้งในและนอกรถอย่างละเอียด โดยมีเสื้อผ้าผู้ชาย 1 ชุดอยู่ด้านหลังรถ นอกนั้นไม่พบร่องรอยใดๆ แม้ลักษณะคล้ายรอยเลือดก็ไม่มี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็สามารถรวบรวมหลักฐานที่ได้ ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ในห้องแล็บ และเมื่อหลังได้ผลตรวจก็จะส่งให้ตำรวจ สภ.สวี จ.ชุมพร ประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป เพราะเป็น สภ.ต้นทางที่มีการแจ้งความไว้
ล่าสุด วันนี้ รถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าว ยังจอดอยู่หน้าโรงพัก สภ.เมืองนครพนม โดยมีแผงเหล็กกั้นไว้ ห้ามบุคคลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามา ซึ่ง ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ยังไม่มีผู้เช่าซื้อรถคือนางวันเพ็ญหรือเจ๊อ้วน ภรรยาของนายขนบเสี่ยบ่อนไก่ชน อ.สวี จ.ชุมพร นำเอกสารมาติดต่อเพื่อขอรับรถคืน แต่ได้รับการประสานจากบริษัทโตโยต้าลิสซิ่ง ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ว่า จะมีหนังสือมอบอำนาจให้ตัวแทนสาขาในพื้นที่ ยื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอรับรถกลับไปไว้ที่บริษัท โดยถึงเวลานี้ สภ.เมืองนครพนม ยังไม่มีใครเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความเกี่ยวข้องรถยนต์คันนี้ ซึ่งคดีมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.สวี จ.ชุมพร
โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 67 เวลาประมาณ 18.00 น. มีชาวบ้าน ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม แจ้งหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง ต.หนองญาติ (ตร.ทล.ต.หนองญาติ) ว่า พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท 3424 ชุมพร จอดทิ้งไว้อย่างมีพิรุธในป่าริมถนนบ้านดงโชค ต.หนองญาติ ทาง ตร.ทล.จึงปรสานไปยัง ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมตรวจสอบพบกุญแจรถทิ้งไว้ในเกะหน้ารถ และไม่มีใครแสดงตัวป็นเจ้าของ จึงนำรถยนต์มาไว้ที่งานสืบสวน สภ.เมืองนครพนม หรือห้องปฏิบัติการสืบสวนชุดพยัคฆ์
ภายหลังทราบว่าเป็นรถยนต์คันเดียวกันที่นางวันเพ็ญ (สงวนนามสกุล) หรือเจ๊อ้วน อายุ 64 ปี ชาว อ.สวี จ.ชุมพร ได้มีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.สวี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยระบุว่าหายไปพร้อมกับสามีที่เป็นคนขับ คือ นายขนบ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี แต่ยังไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ขอรายละเอียดเกี่ยวกับการแจ้งหายของรถยนต์คันดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ต้นทางที่รับแจ้งจากเจ๊อ้วน ผู้มีชื่อเป็นผู้เช่าซื้อ ก่อนมีคำสั่งให้ พฐ.นครพนม ดำเนินการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดี และหาที่มาที่ไปของรถยนต์ ว่า ทำไมถึงวิ่งมาถึงภาคอีสาน หรือหากมีการโจรกรรม ก็จะได้ใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
เบื้องต้นจากพฤติกรรม เชื่อว่ารถยนต์คันดังกล่าว นำเข้าพื้นที่ชายแดน เพื่อเตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเป็นรถยนต์เป้าหมาย และเป็นที่ต้องการของคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากสถิติการตรวจยึดรถยนต์ข้ามโขง ส่วนใหญ่ผู้เช่าซื้อจะเป็นคนขายเองในบ่อนการพนัน ส่วนหนึ่งถูกโจรกรรม และหนีไฟแนนซ์ ซึ่งรถฟอร์จูนเนอร์คันนี้ กุญแจรถถูกทิ้งไว้ในเกะ เพื่อให้คนชำนาญพื้นที่มาขับต่อไป พฤติกรรมนี้เป็นที่รู้กันดี ในหมู่ขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯหนูโชว์ลีลาเป่าแซ็กโซโฟนเปิดงานไหลเรือไฟนครพนม
'อนุทิน' เปิดงานไหลเรือไฟนครพนม ให้เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง โชว์ลีลาเป่าแซ็กโซโฟน
'กลุ่มปกป้องบ้านพ่อ' เฮลั่น! คดีสิ้นสุด นายทุนออกโฉนดทับ 'แก้มลิงหนองใหญ่' จ.ชุมพร กว่า 700 ไร่
จบแล้วสู้เกือบ 9 ปี ทวงคืนแผ่นดินบ้านพ่อ ร.9 แก้มลิงหนองใหญ่ชุมพร มูลค่าพันล้านในมือนายทุน กลับคืนสำเร็จ
พลังหนู! ลูกหมีขนทีม 'พลังชุมพร' ซบภูมิใจไทย
'ลูกหมี' บ้านใหญ่ชุมพร ขนทีม 'พลังชุมพร' 50 ชีวิต สมัครสมาชิกพรรค ภท. ลั่นไม่มีประโยชน์ส่วนตัว แค่อยากให้ประเทศเดินหน้า ปัดตอบ รทสช.แตก ด้าน 'พิพัฒน์' แย้มมีบิ๊กเนมการเมืองจ่อซบเพิ่ม
'ทหารพม่า-กะเหรี่ยง' ปะทะเดือด! เสียงปืนใหญ่ดังลั่นชายแดน จ.ชุมพร
นายสวง ริ้มงาม นายก อบต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โพสต์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ได้เกิดเหตุการปะทะกัน ระหว่าง ทหารพม่า สู้รบกับ ทหารกระเหรี่ยง มีเสียงปืนใหญ่ดังมาถึงพื่นที่หมู่
จับปลาซิวปลาสร้อย แก๊งงาบสวนปาล์มหมดสัมปทาน จนท.รัฐเอี่ยวนายทุนฮุบรายได้เดือนนับล้าน
เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า-กอ.รมน.รองนายก อบจ.ชุมพร บุกจับชาวพม่าแรงงานนายทุน "แก๊งสวาปาล์ม" ร่วมเจ้าหน้าที่รัฐ จัดสรรแบ่งล็อคเก็บผลผลิตปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมดสัมปทานนับหมื่นต้น รายได้เดือนละนับล้านบาท
ชาวบ้านลุกฮือ! ยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯ ให้ย้าย นอภ.ท่าแซะ ปมนายทุนฮุบสวนปาล์มหมดสัมปทาน
ชาวบ้าน ทหารผ่านศึก รวมตัวบุกยื่นหนังสือให้ย้ายนายอำเภอท่าแซะ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรม อ้างผลประโยชน์ทับซ้อน ผืนป่าสวนปาล์มหมดสัมปทานกว่า 2.3 หมื่นไร่ นาน 10 ปี แต่ยังมีนายทุน แรงงานต่างด้าวแฝงเก็บเกี่ยวผลผลิต ปล่อยสร้างสุสานในป่าสงวน พร้อมกลับไปปักหลักนอนค้างคืนหน้าอำเภอรอคำตอบ


