ย่องมอบตัวแล้ว สาวใหญ่ซิ่งรถฝ่าไฟแดง ชนสยองสาวตายทั้งกลม

9 ส.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ. เมืองนครพนม มี Mrs.Bouneng Keosouphom อายุ 50 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ SUV ฝ่าไฟแดงบริเวณสี่แยกบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ. เมืองนครพนม พุ่งชนรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว มีนายณรงค์ฤทธิ์ โคตรสุวรรณ อายุ 27 เป็นคนขับ จึงเป็นเหตุให้นางสาววิสุดา เทพคำราม หรือน้องบี อายุ 23 ปี ผู้ช่วยพยาบาล ประจำห้อง ICU รพ.นครพนม ชาวบ้านนาราชควายใหญ่ ต.นาราชควาย อ. เมืองนครพนม ตั้งครรภ์ท้องแก่ 8 เดือน ต้องตายทั้งกลมพร้อมลูกสาวที่อยู่ในท้อง

หลังเกิดเหตุมีคลิปวงจรปิดเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม เนื่องจากคนขับรถหรูที่ฝ่าไฟแดงเป็นคนต่างด้าว ทางครอบครัวผู้เสียชีวิต เกรงจะไม่มีการเยียวยาชดเชยความเสียหาย และไม่สามารถดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายไทยได้ เพราะมีการแอบช่วยเหลือฝั่งคู่กรณี โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เจ้ากี้เจ้าการเร่งให้แพทย์ผู้รักษาชาวลาว อนุญาตให้กลับไปรักษาต่อที่ รพ.แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยไม่คำนึงว่าคนตายก็ถือลูกน้องคนหนึ่ง ซึ่งในทางกฎหมายไทยห้ามกลับภูมิลำเนา เพราะคดีความยังไม่กระจ่าง หรือต้องวางเงินประกันยืนยัน ตรงกันข้ามกลับให้คู่กรณีเดินทางกลับประเทศ โดยไม่ต้องมีเงินประกันแม้แต่บาทเดียว แม้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะทราบเบื้องต้นว่าเป็นคู่กรณีขับรถฝ่าไฟแดงชนคนตาย แต่ไม่มีการประสานจากต้นทางแจ้งเข้าในระบบ ตามระเบียบจึงไม่สามารถกักตัวได้ จำเป็นต้องให้ข้ามกลับไป

ล่าสุด คนขับรถชาวลาว ได้เดินทางมาพร้อมกับญาติและเพื่อนคนไทย มอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เตรียมนำฝากขังศาลจังหวัดนครพนม พร้อมเข้าสู่ กระบวนการทางกฎหมายไทย และยืนยันจะชดเชยเยียวยาตามความเหมาะสม เบื้องต้นได้มีการช่วยเหลือค่าทำศพ จำนวน 60,000 บาทไปก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะเดียวกันทางด้านครอบครัวของนางสาววิสุดา เทพคำราม หรือน้องบีผู้เสียชีวิต ได้ยอมประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เผาศพแล้วที่เมรุวัดป่าอรัญวิเวก เมื่อวานที่ผ่านมา พร้อมขอความเห็นใจ กับ เจ้าของรถชาวลาวคู่กรณี ให้ช่วยเหลือเยียวยาเพราะสูญเสียเสาหลัก และคนสำคัญในครอบครัว นอกจากนี้ฝากวิงวอนตำรวจให้ดำเนินการทางกฎหมาย อย่างเป็นธรรมตรงไปตรงมา โดยจะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 14 สิงหาคม นี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 13 'พายุซูลิก' เข้าไทยแล้ว ศูนย์กลางอยู่นครพนม

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 13 โดยมีใจความว่า

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 12 'พายุซูลิก' อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน ห่างไทย 100 กม.

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 โดยมีใจความว่า

ระดับแม่น้ำโขงที่นครพนม วัดได้ 11.79 เมตร ปลอดภัยใกล้สู่ภาวะปกติแล้ว

ที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดปริมาณลง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ล่าสุดอยู่ที่ 11.79 เมตร ห่างจากจุดเฝ้าระวังเตือนภัย 21 เซนติเมตรคือที่ 12 เมตร ถือว่าปลอดภัยใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีกระแสไหลเชี่ยว

ทหารช่าง ระดมกำลังช่วยชาวบ้าน ขนของหนีน้ำท่วมนครพนม จัดทีมแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษา

พล.ต.หม่อมหลวง ประวีร์ จักรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย มอบหมายให้ พ.อ.อธิป แก้วดวงใหญ่ ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22

น้ำโขงสูงไหลเชี่ยว เรือโดยสารข้ามฟาก โอดแบกภาระเพิ่มเท่าตัว

ที่ จ.นครพนม ซึ่งเป็นจังหวัดที่รองรับมวลน้ำจากจังหวัดบึงกาฬ ย่อมเกิดผลกระทบจากระดับน้ำโขงสูง มีแนวโน้มจ่อล้นตลิ่ง ล่าสุดช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ตรวจวัดอยู่ที่ระดับประมาณ 11.70 เมตร